รีเซต

อนุชา สั่ง สำนักงานสลาก จับมือ กรมประชา รณรงค์ไม่ซื้อสลากขายเกิน 80 บาท

อนุชา สั่ง สำนักงานสลาก จับมือ กรมประชา รณรงค์ไม่ซื้อสลากขายเกิน 80 บาท
มติชน
27 เมษายน 2565 ( 19:46 )
42

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยหลังการประชุมว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาในระยะถัดไปนั้น

 

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้สำนักงานสลากฯ ไปศึกษากฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่าสามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ค้าสลากที่ขายเกินราคา แล้วถูกตัดสิทธิโควตากว่า 20,000 ราย โดยเฉพาะที่ขายผ่านแพลตฟอร์มมังกรฟ้า 7,000 ราย ที่เพิ่งจับกุมไปเมื่อวันก่อน หากสามารถเปิดเผยรายชื่อได้ สังคมจะได้รับรู้ว่า ผู้ค้ารายนี้ เอารัดเอาเอาเปรียบผู้ซื้อมาตลอด

 

นอกจากนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมขึ้นมาตรวจสอบ กรณีคลิปเสียงสนทนาของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด พูดคุยเกี่ยวกับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาโพสต์ตามสื่อสังคมออนไลน์นั้น ได้มีการจัดตั้ง คณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อความชัดเจนและความโปร่งใส โดยแต่งตั้งนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการแก้หวยแพง มาเป็นประธานกรรมการชุดนี้ และ แต่ตั้งให้

 

“ย้ำว่า การเข้าไปตรวจค้นและจัดการกับแพลตฟอร์มที่ขายสลากทางออนไลน์ 17 แพลตฟอร์ม ตัดสิทธิผู้ค้าที่กระทำผิด รวมถึง การตรวจสอบกรณีที่ นายเสกสกล ซึ่งลาออกไปจากการเป็นรองประธานคณะกรรมการ จากปัญหาคลิปเสียงตามที่เป็นกระแสข่าวนั้น ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ตามกระบวนการทางกฎหมาย ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้รับความเป็นธรรม และจะนำไปสู่การขายสลากในราคา 80 บาทแน่นอน” นายอนุชา กล่าว

 

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขสลากเกินราคา กล่าวว่า การดำเนินการของตำรวจกับแพลตฟอร์มมังกรฟ้า ไม่ได้เลือกปฎิบัติ เนื่องจากการตรวจสอบเชิงลึกแล้วพบว่า มังกรฟ้า มีความสลับซับซ้อน และมีร้านค้าที่อยู่ภายใต้แพลตฟอร์มกว่า 39,000 ร้านค้า รวมทั้งมีลักษณะการขายเอง ขายรวมชุด ขายผ่านตัวแทน ซึ่งได้ส่งฟ้องศาลดำเนินคดี ใน 4 ฐานความผิด 1.โฆษณาเกินจริง 2.ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ 3.ความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง 4.การขายเกินราคา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง