สัญลักษณ์ที่เราสื่อถึงกันอย่าง อีโมจิ (Emoji) ถือได้ว่าเป็นการสื่อสารด้วยภาษารูปภาพที่ได้รับความนิยม จนเรียกได้ว่าเป็น ภาษาสากล ที่ไม่ว่าชนชาติใด ภาษาไหน ได้เห็นสัญลักษณ์ อีโมจิ ที่สุดแสนน่ารักต่างเข้าใจความหมายได้เป็นภาษาเดียวกัน โดยไม่ต้องใช้อะไรแปล และวันที่ 17 กรกฎาคมของทุกปี ยังถูกจัดให้เป็น วันอีโมจิโลก World Emoji Day จึงขอพาไปทำความรู้จักกับภาษาสัญลักษณ์ที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความหมายหลายอย่างที่ซ่อนอยู่แบบคาดไม่ถึง และเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจหากย้อนกันไปในอดีต โลกของเรารู้จักกับภาษาสัญลักษณ์ในรูปแบบอีโมจิกันมาตั้งแต่สมัยคอมพิวเตอร์ยุคแรก ๆ ในยุคที่โลกยังสื่อสารกันด้วยตัวอักษรเป็นหลัก แน่นอนล่ะว่ายังไม่มีส่งคลิปหากันเหมือนสมัยนี้ ในปี ค.ศ.1980 ได้เกิด อิโมติคอน ซึ่งเป็นภาษาความรู้สึกตัวแรกของโลก เอาอักขระบนแป้นพิมพ์มาผสมกัน เป็นต้นแบบของอีโมจิขึ้นโดยฝีมือของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกาที่ชื่อว่า Scott Fahlman ลองทายกันดูว่าสัญลักษณ์ความรู้สึกตัวแรกของโลกคืออะไร หลายคนคงทายกันถูก ใช่แล้วครับมันคือการรวมอักขระ สื่อเป็นสัญลักษณ์ที่ง่ายที่สุด คือ :-) และ :-( แน่นอนล่ะไม่ว่าคนประเทศไหน ภาษาได้ ได้เห็นสัญลักษณ์ :-) จะทราบทันทีว่าฉันแฮปปี้กับคุณนะ หรือ :-( แสดงว่าฉันไม่ชอบแล้ว และยังนิยมใช้กันมาถึงปัจจุบันจนถึงในปี ค.ศ.1999 อีโมจิ ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นแบบเป็นเรื่องเป็นราวโดยนักพัฒนาโปรแกรมชาวญี่ปุ่น Shigetaka Kurita เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารบนโลกเราอย่างคอมพิวเตอร์พัฒนาขึ้นมากพอที่จะใส่สัญลักษณ์เป็นรูปภาพเล็ก ๆ แทรกไปกับตัวอักษรได้เช่น 🙂 🙁 ซึ่งจะต่างกับ อิโมติคอน ที่ใช้อักขระบนแป้นพิมพ์มาผสมกัน :-) , :-( อีโมจิชุดแรกมีจำนวน 176 แบบ ซึ่ง Shigetaka Kurita ได้พัฒนา อีโมจิ ที่มาจากคำว่า อี (絵) ที่แปลว่า รูปภาพ และ โมจิ (文字) ตัวอักษร ให้กับ i-mode ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ DOCOMO ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมในประเทศ ด้วยความเข้าใจที่ง่าย สื่อสารกันได้เข้าใจทุกชาติทุกภาษา อีโมจิจึงกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ถูกนำไปพัฒนาต่อยอดจนมีความหลากหลายเข้ากับยุคสมัย อยู่คู่แป้นพิมพ์โทรศัพท์มือถือทั่วโลกที่ในแต่ละวันเราคงผ่านหูผ่านตา หรือกดส่งให้ใครเพื่อบอกว่ารัก 💖 บอกว่าง่วงนอน 😴 บอกว่าเราวันนี้อารมณ์ดี 🤪 หรือตอนนี้ฉันงอนคุณ 🙄นอกจากความน่ารัก เรียบง่าย อีโมจิ ยังได้สื่อถึงความหลากหลายเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะรสนิยมเรื่องคู่ครองแบบไหน 👨❤👨👩❤👩 ชาติพันธุ์หรือวัฒนธรรมอะไร 👳♂👲🧕 อีโมจิยังเป็นภาษาที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้แสดงออกได้อย่างเสรี คนพิการ คนไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจน สามารถแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจความรู้สึกได้ได้ด้วยภาษาอีโมจิอย่างเท่าเทียม จนถึงปี ค.ศ.2014 Jeremy Burge ชาวออสเตรเลียของ ผู้มีความรัก และหลงใหลอีโมจิ และเป็นผู้ก่อตั้ง emojipedia.org ที่รวบรวมอีโมจิจากทั่วโลกให้ได้ดาวน์โหลดกัน จนถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอีโมจิ ได้เลือกวันที่ 17 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ สตีฟ จ๊อบส์ ได้เปิดตัวแอพ iCal หรือ ของ ios และได้เลือกอีโมจิ 17 Jul เป็นสัญลักษณ์ของ iCal ที่เราคุ้นตา Jeremy Burge ผู้ออกแบบอีโมจิตัวนี้ให้แอปเปิล จึงได้ถือเอาวันที่ 17 กรกฎาคมของทุกปี ก่อตั้ง World Emoji Day เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญของการส่งความรู้สึกถึงกันแน่นอนว่าเราสามารถเข้าถึงอีโมจิกันได้แบบฟรี ๆ (อีโมจิคือสัญลักษณ์ที่แทรกในข้อความ อย่าจำสับสนกับสติกเกอร์นะ) สามารถดาวน์โหลดในแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Line , Facebook หรือคัดลอกจาก Emojipedia ไปแทรกในข้อความกันได้เลย เมื่อได้ทราบความหมายกันไปแล้ว อย่าลืมส่งอีโมจิในวัน World Emoji Day ให้กันและกัน จะส่ง 💝 มาทางนี้ก็ได้นะ และวันหน้ามาติดตามเรื่องราวดี ๆ แบบนี้กันได้อีกครับ 🤗...อ้างอิงข้อมูลจาก : emojipedia.orgภาพประกอบโดย Pixabay ภาพปก , shigetaka.kurita Official / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2