นุ่นอยู่เป็นฟูกหมอนของไทยมาอย่างยาวนาน นุ่นเป็นวัสดุธรรมชาติที่ได้มาจากต้นนุ่น ปัจจุบันมีวัสดุใยสังเคราะห์และวัสดุอื่น ๆ เข้ามาใช้แทนที่ ทำให้เครื่องนอนที่ทำมาจากนุ่นซื้อหาได้ยากขึ้น มีผู้ผลิตจำหน่ายไม่กี่ราย กลายเป็นสินค้าชุมชนการเตรียมนุ่นมาทำเครื่องนอน เริ่มจากการเลือกฝักนุ่นที่แก่จัด ซึ่งเราจะเห็นฝักเป็นสีน้ำตาลเข้มและแตกปริออกจนเห็นปุยนุ่นและเมล็ด นำฝักนุ่นมาตากแดดให้แห้ง แล้วจึงแกะเอานุ่นออกจากฝัก นำไปเข้าเครื่องปั่นแยกเพื่อเอาเมล็ดนุ่นกับแกนนุ่นออกจนหมด จากนั้นนำไปตากแดดอีกครั้งจนแห้งสนิท จึงเอาไปยัดทำเป็นหมอนที่นอนนุ่นได้ สินค้าชุมชนที่ทำมาจากนุ่นดูมีเอกลักษณ์ทั้งรูปแบบและลวดลาย เป็นหมอนขิด หมอนสามเหลี่ยม ราคาขายไม่แพง ด้วยคุณสมบัติที่ดีของนุ่นในเครื่องนอน ตอนใช้ใหม่ ๆ มีความแน่นแข็งอยู่ตัว หากใช้ไปนาน ๆ จะนิ่มหนุนนอนสบายขึ้น อีกทั้งนุ่นยังเป็นวัสดุระบายอากาศได้ดี ในงานออกร้านตามเทศกาลหรือในร้านสินค้าท้องถิ่น จึงยังมีคนซื้อไปปูนั่งหนุนนอนเล่นหรือให้เป็นของฝากการที่เครื่องนอนทำจากนุ่นได้รับความนิยมน้อยลงมีหลายสาเหตุ ประการแรกคือ มีวัสดุอีกหลายชนิดนำมาทำเป็นเครื่องนอนได้ อาทิเช่น ใยสังเคราะห์ ยางพารา ขนเป็ด ธัญพืช(เปลือกโซบะ ใบชา) แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่ดีแตกต่างกันไปประการต่อมาคือ คำแนะนำทางสุขภาพต่อคนเป็นโรคภูมิแพ้ว่าไม่ควรใช้หมอนที่นอนนุ่นเพราะใช้ไปนาน ๆ จะมีไรฝุ่น ถ้าจะใช้ควรหุ้มพลาสติกหรือผ้าใบ และไม่ควรห่มผ้าขนสัตว์ ผ้าสักหลาด ผ้าสำลี แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ใยสังเคราะห์ ยางพาราหรือฟองน้ำแต่หมอนที่นอนใยสังเคราะห์ จะมีอายุการใช้งานสั้น ควรเปลี่ยนใหม่หลังจากใช้ไปประมาณ 2 ปี ซึ่งต่างจากนุ่นที่มีความทนทานใช้ได้ยาวนานการจะเลือกเครื่องนอน ด้วยวัสดุแบบใด ควรศึกษาให้ดี ถึงข้อดีข้อเสียและความเหมาะสมของแต่ละคน เพราะการนอนหลับที่สบาย ส่งผลกับสุขภาพของเราด้วย