เครดิตสวิสชูโรงแรม เพิ่มเป้าAWC-CENTEL
#โรงแรม #ทันหุ้น-เครดิตสวิสชอบกลุ่มโรงแรมและท่องเที่ยว นำโดย CENTEL เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 58 บาท ส่วน AWC ปรับขึ้น 6.50 บาท, ERW เป็น 5 บาท และ AOT เป็น 84.50 บาท ด้านบัวหลวงชอบ AWC ที่สุดเติบโตแกร่ง คาดพลิกเป็นกำไรในไตรมาส 4/2565 ปี 2566 กำไรโดดแตะ 1.4 พันล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด ปรับเพิ่มเป้าหมายหุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว โดย บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL จากราคาเป้าหมาย 43 เป็น 58 บาท แนะนำ Outperform จาก Neutral พร้อมกันนี้ยังปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จากราคา 6 บาท เป็น 6.50 บาท แนะนำ Neutral
ส่วน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ปรับราคาเป้าหมาย เป็น 5 บาท จาก 3.20 บาท แนะนำ Outperform และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ปรับราคาเป้าหมาย เป็น 84.50 บาท จากเดิม 78 บาท แนะนำ Outperform
*กิจกรรมท่องเที่ยวเร่งตัว
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง กิจกรรมการท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง 2565 นักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศไทยได้เกินกว่า 1 ล้านรายเดือน ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2565 โดยยอดรวม 8 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 4.6 ล้านราย เชื่อว่าเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 10 ล้านรายในปีนี้เป็นไปได้
โดยมีปัจจัยหนุนมาจาก 1. ประเทศไทยกลับมาเป็นปกติแล้วโดยยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางเข้า ประเทศและสนับสนุนการท่องเที่ยว 2. ราคาห้องพักของโรงแรมในประเทศไทยยังคงต่ำกว่าปี 2562 (ตรงกันข้ามกับ ของประเทศสิงคโปร์ที่เฉลี่ยสูงสุดในรอบ 6 ปี) และ 3. ธุรกิจไมซ์ของประเทศไทยมีความน่าดึงดูดกว่าฮ่องกงและจีน จากข้อจำกัดเพื่อควบคุม การระบาดของโควิด ขณะที่สิงคโปร์ราคาสูงกว่า
ทั้งนี้อีเวนต์ที่ต่อคิวเข้ามาจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะหนุนมุมมองเชิงบวกของต่อภาพการฟื้นตัวของ นักท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์
ชอบ AWC ที่สุดในกลุ่มโรงแรม นอกจากการฟื้นตัวจากโควิดจะเห็นการเติบโตที่แข็ง 4 เหตุผลที่ต้องซื้อ AWC 1.อัตราการเติบโตสะสมเฉลี่ย ปี 2567-2569 สูงที่สุดถึง 66% หนุนจากโรงแรมใหม่ 12 แห่ง 2. PEG ที่ต่ำเพียง 0.88 (ต่ำสุดในกลุ่ม) 3. คาดจะพลิกกลับเป็นกำไร ในไตรมาส 4/2565 และ 4.ราคาหุ้นAWC เพิ่งจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ระดับ เดียวกับปี 2562
แต่บริษัทเป็นเพียงรายเดียวในบริษัทที่จัดทำบทวิเคราะห์ 10 แห่ง ซึ่งน่าจะรายงานกำไรปี 2566 สูงกว่าปี 2562 โดย AWC ยังเป็นพาร์ตเนอร์กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งมีพื้นที่ 3 แสนตร.ม. คาดจะเห็นการจองพักโรงแรมที่มากขึ้นใน กทม. เชียงใหม่ และเกาะสมุย จากอีเวนต์ไมซ์จากต่างชาติที่กำลังจะมาถึง
ภาพการเติบโตของกำไรที่เร็วของ AWC จะเป็นปัจจัยที่หนุนให้พี/อีของบริษัทสูงกว่ากลุ่ม โดย ณ สิ้นปี 2565 พอร์ตโรงแรมของบริษัทจะขยายตัวขึ้น 22%จากปี 2562 ในด้านของจำนวนห้องและที่เปิดตัวใหม่ ล่าสุด เช่น บันยันทรี กระบี่ มีเลีย สมุย และ มีเลีย เชียงใหม่ ได้รับผลตอบรับที่ดี
นอกจากนี้ 12 โรงแรมที่จะเปิดตัวในปี 2566-69 รวมไปถึง พัทยา แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่หาดจอมเทียน อควาติก ดิสทริค พัทยา และโรงแรมคิมป์ตัน หัวหิน บริษัทมีสถานที่ตั้งโรงแรมที่ได้เปรียบและมีผู้บริหารโรงแรมระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญ
*AWC เริ่มเห็นกำไรไตรมาส 4
ธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและสำนักงานให้เช่า ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ30% ของรายได้ทั้งหมด มีแนวโน้มที่จะรายงานรายได้ในปี 2565 ที่ลดลง 30% จากปี 2562 อย่างไรก็ตามอัตราการใช้ที่ปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่สิ้นเดือนมิถุนายน และการให้ส่วนลดค่าเช่าเฉลี่ยในไตรมาส 3/2565 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ดังนั้นคาดรายได้จากธุรกิจนี้จะปรับตัวขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 3/2565 สำหรับไตรมาส 4/2565 AWC จะนำประสบการณ์ระดับโลกของดิสนีย์มาสู่ เอเชียทีค ใน กทม. เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมมากขึ้น
คาดจะเห็นการขาดทุนหลักที่ลดลงอย่างมาก จาก 382 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2565 มาเหลือ 166 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2565 ตามด้วยกำไร เล็กน้อย 3 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2565 ทั้งนี้คาดกำไรปี 2566 ที่ 1.4 พันล้านบาท (เทียบกับที่ขาดทุน 1 พันล้านบาท ในปี 2564 และ 3 พันล้านบาท ในปี 2563)