จีนเปิดตัววีซ่า K ดึงหัวกะทิสวนทางสหรัฐฯ

ทางการจีนมีกำหนดเปิดโครงการวีซ่าใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพื่อดึงดูดแรงงานต่างชาติที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่จะช่วยส่งเสริมให้จีนอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ ที่มีนโยบายสวนทาง

วีซ่าใหม่ของจีนเรียกว่า วีซ่า K ซึ่งประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พุ่งเป้าไปที่ชาวต่างชาติรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) พร้อมให้คำมั่นว่าจะอนุญาตให้เข้าประเทศ อยู่อาศัย และทำงานได้โดยไม่ต้องมีนายจ้างเสนองานก่อน 

นโยบายวีซ่าใหม่ของจีนน่าจะเป็นทางเลือกของแรงงานต่างชาติทักษะสูงแทนการไปทำงานในสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแรงงานต่างชาติทักษะสูงที่เรียกว่า H-1B อยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน

แม้ว่าจีนจะมีวิศวกรทักษะสูงมากมายในประเทศ แต่โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ในฐานะประเทศที่ยินดีต้อนรับการลงทุนและเปิดรับบุคลากรมากความสามารถจากต่างประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน

ที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และเสนอการยกเว้นวีซ่าให้กับพลเมืองจากประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และหลายประเทศ

“ไมเคิล เฟลเลอร์” หัวหน้านักยุทธศาสตร์จากบริษัทที่ปรึกษา Geopolitical Strategy มองว่า สหรัฐฯ ขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B เพื่อทำร้ายตัวเอง และเป็นจังหวะที่ดีสำหรับวีซ่า K ของจีน 

ขณะที่หลายประเทศ ทั้งเกาหลีใต้ เยอรมนี และนิวซีแลนด์ ก็กำลังผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับวีซ่าเพื่อดึงดูดแรงงานต่างชาติทักษะสูงเช่นกัน