หมอศิริราชคาด "วัคซีนโควิด-19" จะสำเร็จเร็วสุดกลางปี 64
วันนี้( 3 พ.ย.63) ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล แถลงผ่านไลฟ์สดถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 และไทย ว่า ขณะนี้อัตราการพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ย 2 วัน 1 ล้านคน โดยเฉพาะในพื้นที่ยุโรป เนื่องจากเข้าฤดูหนาว
ทำให้คนส่วนใหญ่อยู่ในอาคาร และ ไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย การป้องกันตัวเองลดลง โดยพบแต่ละประเทศมีอัตราการป่วยเพิ่มขึ้น และเริ่มกระทบต่อขีดความสามารถของสถานพยาบาลในการรองรับผู้ป่วย เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีอัตราป่วยเพิ่ม 1 แสนคนต่อวัน คาดไม่เกินสัปดาห์นี้ อัตราป่วยสะสม 10 ล้านคน ส่วนอัตราการเสียชีวิตก็เพิ่มคู่ขนานเช่นกัน
ส่วนในเอเซีย ประเทศที่ควบคุมได้ดีมี เกาหลีใต้ สิงค์โปร์ ออสเตเรีย มีอัตราป่วยค่อนข้างต่ำ ควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ที่น่าห่วง คือประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับชายแดนไทยทั้งมาเลเซียและเมียนมา
โดย มาเลเซีย มีอัตราการป่วยใหม่เพิ่ม 800-900 คนต่อวัน เพียงแค่ 10 วันก็มีอัตราป่วยสูง 8,000 คน เช่นเดียวกับที่เมียนมา อัตราป่วยก็เพิ่มขึ้นสูงมีผู้ป่วยสะสม. 50,000 คน ขณะที่อัตราการตาย เฉลี่ยต่อวันเป็นตัวเลข 2 หลัก
สำหรับประเทศไทย ร้อยละ 90 มาจากผู้ป่วยเข้ามาในไทย มาอยู่น state quarantine พร้อมย้ำอย่าชะล่าใจ ขณะเดียวอากาศหนาวเป็นอีกปัจจัยส่งเสริมเพราะคนส่วนใหญ่จะอยู่ในอาคาร ซึ่งเป็นสถานที่ปิด ดังนั้น ต้องป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ เลี่ยงไปในพื้นที่ชุมชน
ส่วนความคืบหน้าวัคซีนที่มีการทดลองและผลิตในทั่วโลก พบว่า แบ่งเป็นการทดลอง ในสัตว์ 88 บริษัท ,ทดลองในคนเฟศที่ 1 มี 35 บริษัท ,ทดลอง ในเฟส 2 มี 14 บริษัท ,ทดลองในคน เฟส 3 มี 11 บริษัท ซึ่งต้องมีการทดลองคนในทุกวันไม่ต่ำกว่า 30,000 คน โดยกระบวนการทดลอง มีทั้งได้ยาจริง ยาหลอก และ มี 6 บริษัทที่เข้าสู่ทดลอง เฟส 3 แต่อนุญาตให้ใช้ก่อนในกรณีฉุกเฉินบางพื้นที่ โดยวัคซีนคาดว่าจะสำเร็จได้อย่างเร็วที่สุดไม่ต่ำกว่ากลางปี 2021
สำหรับการทดลองในสัตว์โอกาสสำเร็จ มีร้อยละ 7 การทดลองในคน มีโอกาสสำเร็จร้อยละ 20 และ การทดลองวัคซีนในคนเฟส 3 มีโอกาสสำเร็จร้อยละ 50 เนื่องจากมีปัจจัยจากคนต่างพื้นที่ ต่างวัย อาจต่อสนองต่อการฉีดวัคซีนไม่เหมือนกัน ดังนั้นวัคซีนที่ดีสุดคือการดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ เลี่ยงการอยู่ในชุมชน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE