การอ่านนิทานภาษาอังกฤษให้เด็กฟังตั้งแต่เล็ก เป็นการปูพื้นฐานทางภาษาที่แนบเนียนและดีที่สุด เด็กทุกคนชอบฟังนิทาน แต่ทำไมพออ่านนิทานภาษาอังกฤษให้ลูกฟังทีไร ลูกเดินหนีทุกที จนรู้สึกกลัว ไม่กล้าอ่านอีก หรือจะเป็นเพราะเราสำเนียงไม่ดี หลายเหตุผลที่คุณคิดกันไปต่าง ๆ นานา ทำให้เราล้มเลิกภาระกิจไปในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป เรามี 4 เหตุผล ทำไมลูกไม่ชอบนิทานภาษาอังกฤษ มาฝากกันค่ะ1. เลือกนิทานไม่เหมาะกับวัยเรื่องนี้ถือว่าเป็นปัจจัยหลักของหลายครอบครัว ที่ยังเลือกนิทานไม่เหมาะกับวัยของเค้า เด็กบางคนยังไม่ถึงช่วงเวลาที่จะอ่านหรือฟังอะไรยาว ๆ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ซื้อนิทานที่มีเนื้อหายาวเกินไปมาอ่าน จะทำให้เด็กไม่อยากฟัง เดินหนีไปเฉย ๆ จนคุณสะเทือนใจและเลิกอ่านไปในที่สุด ดังนั้นตอนเริ่มต้นอ่านนิทานภาษาอังกฤษ ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไร ควรเริ่มต้นจากหนังสือที่ง่ายที่สุด เพื่อทำให้เด็กรู้สึกชอบก่อนเป็นอันดับแรก2. เด็กอยู่ในช่วงปรับตัวถ้าคุณแม่เคยอ่านนิทานภาษาไทยให้ลูกฟังมาก่อน และเด็กชอบฟังนิทานเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ก็คงไม่ยากที่จะชักจูงให้เด็กลองมาฟังนิทานภาษาอังกฤษบ้าง แต่การจะปรับเปลี่ยนทันที คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กจะงง ต้องใช้เวลาในการปรับตัว อย่างเช่นเราเองเริ่มอ่านนิทานภาษาอังกฤษให้ลูกฟังตอน 2 ขวบกว่า ๆ ตอนนั้นเค้าปฏิเสธค่ะ แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ ค่อย ๆ สอดแทรกภาษาอังกฤษไปเรื่อย ๆ ตอนแรก ภาษาไทย 10 เล่มเต็ม ต่อมา ภาษาไทยเหลือ 8 เล่ม อังกฤษ 2 เล่ม และต่อรองกันเป็นอย่างละครึ่ง จนในที่สุดเธอชอบฟังนิทานภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทย เพราะรูปสวยกว่า3. เป็นเรื่องที่ลูกไม่สนใจ ไม่ถูกใจเด็กบางคนอาจจะมีตัวละคร หรือเรื่องที่ชอบเป็นพิเศษอยู่ในใจ เช่น รถยนต์ รถไฟ พ่อมด แม่มด มังกร นางฟ้า เจ้าหญิง ถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าลูกชอบนิทานแบบไหน แล้วไปเลือกเรื่องที่เด็กไม่ได้สนใจ เค้าอาจจะไม่อยากฟัง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ใจลูกในครั้งแรก พ่อแม่มีหน้าที่เลือกมาค่ะ แล้วเด็กจะเป็นคนคัดกรองเอง ว่าแบบไหนชอบ และแบบไหนไม่ชอบ พ่อแม่จะได้เรียนรู้จากลูกค่ะ4. อ่านไม่ถูกช่วงจังหวะเวลาว่ากันว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการอ่านนิทานคือก่อนนอน เพราะเป็นช่วงที่เด็กรู้สึกสงบ มีสมาธิในการฟังนิทาน จึงเหมาะที่จะอ่านให้กับเด็กที่ยังไม่เปิดใจยอมรับนิทานภาษาอังกฤษ สำหรับเราแล้ว ใช้เทคนิคนี้ในช่วงเริ่มต้นค่ะคืออ่านก่อนนอน ลูกหนีไปไหนไม่ได้ เดี๋ยวก็กลับมาฟังอยู่ดี พอเค้าเริ่มเปิดใจยอมรับนิทานภาษาอังกฤษ ทีนี้อ่านกันทั้งวันค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงก่อนนอนเท่านั้นอ่านบทความนี้แล้ว พอจะนึกออกหรือยังคะ ว่าลูกของเราติดอยู่ที่ข้อไหน ลองค่อย ๆ ปรับกันไปนะคะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ แต่อยากจะบอกว่า การอ่านนิทานให้ลูกฟัง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก คุณจะต้องทึ่ง เมื่อวันหนึ่งลูกของคุณเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่รักการอ่าน ขอบคุณภาพจาก Pixabayภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4