คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า "ภาษาอังกฤษ คือ ใบเบิกทางการทำงาน" ที่ไม่ว่ายุคสมัยไหน ภาษาอังกฤษ ยังคงเป็นตัวชี้วัดที่จะทำให้องค์กรต่างๆ พิจารณาคัดสรรบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อเข้ามาร่วมงานกับองค์กรชั้นนำต่างๆ ซึ่งหนึ่งในตัวชี้วัดที่หลายคนรู้จักกันดี คือ การที่ต้องมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ...ข้อสอบโทอิค TOEIC (Test of English for International Communication) ซึ่งในวันนี้จะมาแชร์เคล็ดลับดีๆ ที่จะทำให้ทุกคนสามารถได้คะแนนอย่างที่หวัง เพื่อที่จะใช้คะแนนโทอิคเป็นใบเบิกทางในอาชีพที่เราหวังไว้ หากใครที่เคยสอบโทอิคก็จะทราบว่า ทักษะทางภาษาย่่อมต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ต้องใช้ประสบการณ์ในการใช้ภาษา ซึ่งทักษะต่างๆ เหล่านี้ ย่อมต้องใช้เวลาในการฝึกฝน เรียนรู้ และพัฒนา โดยปกติแล้ว ข้อสอบโทอิคจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ข้อสอบส่วนฟัง (TOEIC Listening) และข้อสอบส่วนอ่าน (TOEIC Reading) ซึ่งแตละส่วนจะมีจำนวน 100 ข้อ ใช้เวลาสอบส่วนละ 75 นาที แต่ละส่วนมีคะแนน 495 คะแนน และมีคะแนนรวมทั้งสิ้น 990 คะแนน ส่วนใครที่จะไปสมัครสอบก็ควรเตรียมตัวฝึกฝน และพัฒนาทักษะด้านการฟังและอ่านให้ดี เพราะค่าธรรมเนียมการสอบในแต่ละครั้งนั้น ผู้สอบจะต้องชำระค่าธรรมเป็นเงิน 1,800 บาท ซึ่งก็ไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยนิสิต นักศึกษา เพราะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะดีที่สุด ... ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำการเริ่มต้นฝึกฝนทักษะการฟังและการอ่านเบื้องต้น เพื่อเตรียมตัวในการเตรียมสอบโทอิคในอนาคต สำหรับเทคนิคการเตรียมตัวสอบในส่วนแรกที่จะมาแนะนำกัน คือ ข้อสอบส่วนฟัง (TOEIC Listening) ซึ่งหากใครเคยสอบแล้ว หากพื้นฐานทางการฟังภาษาไม่ดี ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ข้อสอบพูดเร็ว ฟังไม่รู้เรื่อง ... ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะทุกอย่างเราสามารถเรียนรู้ได้ สำหรับเทคนิคแรกที่อยากจะแนะนำ สำหรับผู้ที่สนใจฝึกทักษะด้านการฟัง นั่นคือ เริ่มจากฟังจากงานอดิเรกที่ชอบ เช่น การดูหนัง ซึ่งการดูหนัง ถือเป็นกิจกรรมผ่อนคลายสำหรับใครหลายๆ คน แต่จะดีกว่ามั้ย หากกิจกรรมผ่อนคลายที่ทำอยู่ จะสามารถเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางด้านภาษาไปในตัว ภาพจาก https://pixabay.com/photos/woman-girl-headphones-music-977020/ เราอาจเริ่มต้นจากการเลือกหนังโปรดมาสักหนึ่งเรื่อง รอบแรกอาจเปิดดูคำบรรยายภาษาไทย เพื่อให้เราเข้าใจเนื้อเรื่อง หลังจากนั้นลองดูซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งที่สองโดยเลือกคำบรรยายภาษาไทยออก และครั้งที่สามลองดูหนังเรื่องเดิมโดยไม่ดูคำบรรยายปล่อยอารมณ์ให้ผ่อนคลาย เพราะการที่เราดูมาแล้วสองรอบ นั่นทำให้เราสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องโดยรวมแล้ว ระหว่างดูหากมีคำศัพท์ไหนที่น่าสนใจเราอาจหาคำแปลเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มคำศัพท์ใหม่ๆ ให้กับตัวเราเอง โดยสำหรับวิธีการนี้ อยากแนะนำให้เลือกหนังเบาๆ ผ่อนคลายสมอง หรืออาจจะเริ่มจากการ์ตูนน่ารักๆ มีประโยคสนทนาที่ไม่ยากและซับซ้อนเกินไป หากหนังแต่ละเรื่องที่เราเลือกดูซ้ำตามเทคนิคที่กล่าว รับรองว่าทักษะการฟังจะพัฒนาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งในข้อสอบโทอิคนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการฟัง ประกาศ การสื่อสารทางธุรกิจ หรือประโยคถามตอบสั้นๆ ซึ่งประโยคต่างๆ เหล่านี้ ปรากฏอยู่ในหนัง ซีรีส์ ภาพยนตร์ ต่างๆ อยู่แล้ว ภาพจาก https://www.freepik.com/premium-photo/happy-young-couple-watching-comedy-movie-cinema-theater_6098504.htm#page=2&query=watch+movies&position=0 สำหรับเทคนิคการฝึกฝน เพื่อเตรียมตัวสอบโทอิค ในส่วนการอ่าน (TOEIC Reading) ซึ่งทักษะนี้ถือเป็นทักษะที่ต้องใช้ความอดทน และพยายามในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อสอบการอ่าน ถือเป็นข้อสอบปราบเซียนของใครหลายๆคน เนื่องจากปริมาณข้อสอบที่มากถึง 100 ข้อ และมีเวลาทำเพียง 75 นาที ทำให้ใครหลายคนท้อแท้ และหมดแรงในห้องสอบกันเลยทีเดียว โดยเทคนิคดีๆ ที่อยากจะแชร์สำหรับการฝึกฝนทักษะการอ่าน คือ เริ่มต้นจากสิ่งที่สนใจ เช่น หากใครเป็นแฟนแฟชั่น อาจจะเริ่มต้นหาเวปไซต์แฟชั่นภาษาอังกฤษ โดยอาจจะอ่านเฉพาะหัวข้อ หรือพาดหัวข่าว โดยที่ยังไม่ต้องอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด ให้เราพอเข้าใจว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน และอย่างไร และทยอยอ่าน อย่างน้อยวันละ 10 บรรทัด พร้อมกับหาคำแปล เพราะหากเริ่งอ่านทั้งหมดให้จบภายในวันเดียว อาจจะเบื่อและท้อแท้จนหยุดการฝึกฝนทักษะการอ่านไป และอย่าลืมหาสมุดจดคำศัพท์ เพื่อบันทึกและสะสมคลังคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยพบเจอ ว่างเมื่อไรก็อย่าลืมที่จะหยิบมาทบทวน หรือใครสะดวกบันทึกลงในมือถือก็ตามแต่สะดวกไม่ว่ากัน ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/concentrated-man-enjoying-reading-book_2559842.htm อย่าลืมว่าการฝึกฝนทางภาษา ไม่ว่าภาษาใดก็ตามต้องใช้ทักษะ และความพยายามในการฝึกฝน โดยการฝึกฝนที่ดีที่สุดคือการฝึกฝนจากสิ่งที่ชอบ เริ่มต้นที่ละน้อยดีกว่าไม่เริ่มต้นเลย และหากใครได้ลองฝึกฝนตามเทคนิคง่ายๆ ที่แนะนำแล้ว รับรองว่าจะเป็นการปูพื้นการเตรียมสอบโทอิคได้เป็นอย่างดี และถ้าหากใครฝึกฝนจนชำนาญ อย่าลืมหาตัวอย่างข้อสอบต่างๆ มาฝึกฝน ลองทำเพื่อที่เราจะได้รู้แนวข้อสอบ และสามารถทำคะแนนอย่างที่คาดหวัง เพื่อเป็นใบเบิกทางในการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตขอบขอบคุณ ภาพหน้าปกจาก Canva.com