ส.อ.ท.กางเป้าผลิตรถยนต์ปี’65 มีลุ้นแตะ 1.85 ล้านคัน หากโควิดคลี่คลาย-เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
ส.อ.ท.กางเป้าผลิตรถ - นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2565 อยู่ที่ 1,800,000 คัน เพิ่มขึ้น 114,295 คัน คิดเป็น 6.78% จากปีก่อนผลิตได้ 1,685,705 คัน แยกเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน คิดเป็น 55.56% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 4.54% คิดเป็น 43,470 คัน จากปีก่อนผลิตได้ 956,530 คัน และเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 800,000 คัน คิดเป็น 44.45 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 70,825 คัน คิดเป็น 9.71% จากปีก่อนผลิตได้ 729,175 คัน
“แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย คนคลายความกังวลมากขึ้น ทำให้กิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาดำเนินเข้าสู่ภาวะปกติได้ดีขึ้น รัฐบาลสามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น สร้างรายได้ให้ธุรกิจและคนในภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ก็มีโอกาสที่ยอดผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศจะผลิตได้ 850,000 คัน”
ทั้งนี้ ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน เซมิคอนดักเตอร์ หรือชิปที่ประกอบในรถยนต์จะรุนแรงแค่ไหน เห็นได้จากผู้ผลิตในหลายประเทศต้องชะลอหรือลดกำลังการผลิตรถยนต์บางรุ่นชั่วคราว โดยประเมินว่าปัญหานี้จะคลี่คลายช่วงปลายไตรมาส 2/2566 แต่ส่วนตัวมองว่าจะดีขึ้นในปี 2567 เพราะผู้ผลิตชิปทั้งสหรัฐและยุโรปเพิ่งลงทุนสร้างโรงงานกว่าจะแล้วเสร็จต้องใช้เวลา 1-2 ปี อีกทั้งต้องติดตามมาตรการคลายล็อกดาวน์ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลว่าจะมีความต่อเนื่อง สามารถดึงดูดการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ไหน
สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนและความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน ต้องรอภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาและแนวทางส่งเสริมด้านต่างๆ ให้ได้ข้อสรุป ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนภาษี ราคา สถานีชาร์จ เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบก่อน จึงจะสามารถให้ความเห็นได้ ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการลงทุนผลิตรถยนต์อีวี 8 ปี และการผลิตชิ้นส่วนลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 5 ปี ดึงดูดให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายมีการลงทุนในรูปแบบร่วมลงทุนกันมากขึ้น และคาดว่าจะมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่จูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศมากขึ้น ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ไทยมีสัดส่วนการผลิตรถยนต์อีวี 30% ของยอดการผลิตทั้งหมดในปี 2573 คิดเป็น 725,000 คัน ผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อีวีในอนาคต