AMATAวัคซีนชัดยอดมา AMATAVเป้าแตก430ไร่
ทันหุ้น – วิเคราะห์เจาะAMATA ผู้บริหารมั่นใจลูกค้ากว่า 30 รายพร้อมเข้ามาเซ็นสัญญา ดันยอดขายที่ดินชนเป้า 950 ไร่ โบรกเคาะพื้นฐาน 22.60 บาท ขณะที่ AMATAV ทำยอดขายทะลุเป้า หลังปัจจุบันทำได้แล้ว 430 ไร่ เดินหน้าพัฒนาพื้นที่ยกระดับความเป็นเมือง โชว์สาธารณูปโภคครบ
นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ รองประธานอาวุโส ฝ่ายบัญชีและการเงินแผนกไอทีและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวว่า กลุ่มบริษัทยังคงเป้ายอดขายที่ดินทั้งปี 2564 ที่ 950 ไร่ สูงกว่าปี 2563 ที่มียอดขาย 212 ไร่ โดยคาดว่าปี 2564 จะเริ่มมีนักลงทุนการลงต่างชาติเดินทางเข้ามาดูพื้นที่ภายในนิคมทั้งที่ชลบุรี และระยองมากขึ้น หนุนจากการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในทุกประเทศทั่วโลก เบื้องต้นคาดว่าในไตรมาส 3-4/2564 การลงทุนจะกลับมาในระดับ 50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19
สำหรับปี 2564 กลุ่มบริษัทมีลูกค้าเดิมที่รอเดินทางเข้ามาเรจราซื้อทีดินตั้งโรงงาน 20-30 ราย รวมถึงมีนักลงทุนใหม่อีก 10 รายที่อยู่ระหว่างเจรจา และรอสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งนี้หากรัฐบาลจะให้การสนับสนุนให้เกิดการลงทุน อยากให้มีมาตรการปรับลดระยะเวลาการกักตัวให้กับกลุ่มนักลงทุนที่ฉีดวัคซีนแล้ว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชิงธุรกิจ
พร้อมกันนี้ กลุ่ม AMATA ยังคงพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในพื้นที่นิคมอุตสหกรรมทุกแห่งให้มีความเป็น “เมือง” มีโครงการบ้านพักอาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับทุกด้าน รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี 5G เพื่อรองรับอุตสาหกรรมชั้นสูง และยังมีแผนที่จะต่อยอดไปสู่ธุรกิจดิจิทัลที่มาพร้อมกับ 5จี เพื่อเพิ่มรายได้ในธุรกิจที่ไม่ใช่การขายที่ดินมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้จากการขายที่ดินและเช่าโรงงาน 65%, รายได้จากการบริการอื่น 35% โดยตั้งเป้าว่าจะพยายามเพิ่มรายได้จากภาคบริการและสาธารณูปโภคให้มีอัตรการเติบโตเฉลี่ย 5-10% ต่อปี
*AMATAV ยอดขายชนเป้า
ด้านนางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผย ว่า ปัจจุบันบริษัทสามารถขายที่ดินในประเทศเวียดนามได้ตามเป้าหมายที่ 430 ไร่แล้ว แบ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง จังหวัดกว่างนิงห์ 300 ไร่, และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ลองถั่น ทางภาคใต้ อีกประมาณ 130 ไร่ โดยกลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นนักธุรกิจจีน, ไต้ไหว, ญี่ปุ่น ฯลฯ
"ปัจจุบันเวียดนามกำลังควบคุมสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ จึงกลับมาใช้นโยบายกักตัวผู้เดินทางเข้าจากต่างประเทศ 21 วัน และต้องกลับไปกักตัวในบ้านต่ออีก 7 วันส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้รัฐบาลเวียดนาอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อพิจารณาผ่อนผันให้นักธุรกิจเดินทางเข้ามาติดต่อ-ดำเนินการทางธุรกิจไม่ต้องกักตัวในช่วงครี่งหลังของปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะหนุนยอดขายในเวียดนามให้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้"
*ชูหุ้นเด่นรับเปิดเมือง
นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เช่นจีน ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 600 ล้านโดสทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเกิด ภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในไตรมาส 4/2564 ส่วนไทยคาดว่าจะเห็นการฉีดวัคซีนเร่งตัวขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งคาดจะเกิดภูมิคุ้มกันหมูอย่างเร็วสุดในไตรมาส 1/2565 และยังคงแผนการทยอยเปิดประเทศในกรอบเดิม ทำให้คาดว่าจะเห็นนักลงทุนเดินทางเข้ามามากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไป
ฝ่ายวิเคราะห์จึงเลือกคัดเลือกกลุ่มหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์จากการทยอยเปิดประเทศมาให้พิจารณาลงทุน อาทิ HMPRO, CPALL, MINT และ AMATA ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรของ AMATA จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปี ทั้งจากการขายที่ดิน 212 ไร่ของ AMATAV, รวมถึงเงินปันผลจากธุรกิจอื่น และยอดขายที่ดินในไทยที่จะเริ่มชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เป็นต้นไป จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” AMATA ให้ราคาเหมาะสมที่ 22.60 บาท