วาดรูปสวยแต่ระบายสีไม่สวย เป็นปัญหาที่หลายคนมี เทคนิคลงสีเป็นเทคนิคที่ใช้เวลาในการฝึกพอๆกับเทคนิคการวาด ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไรประสบการณ์ความนิ่งของมือก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น การลงสีไม้ก็จะมีความสวยมากขึ้นเท่านั้น นอกจากประสบการณ์การฝึกฝน การเลือกคุณภาพของสีไม้และกระดาษก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเราเลือกสีไม้และกระดาษที่เหมาะสมกัน งานของเราที่ออกมาก็จะสวยงามตามไปด้วย ปัจจุบันมีสีไม้หลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้รวมถึงกระดาษที่ใช้กับสีไม้อีกก็ด้วย และอีกหนึ่งผลงานที่ลงสีไม้ได้ค่อนข้างยาก นั่นก็คือ ตัวละคร เพราะตัวละครหนึ่งตัวมีองค์ประกอบที่หลากหลายทั้งเสื้อผ้า หน้าตา สีผม เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นองค์ประกอบอื่นๆ การจะทำให้ตัวละครหนึ่งตัวมีความโดดเด่นหรือมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองขึ้นอยู่กับการเลือกโทนสีและการระบายสีให้มีระดับความเข้มอ่อน มีแสงเงา จึงจะทำให้ตัวละครนั้นมีความสวยงาม มันจึงเป็นเรื่องที่ต้องมีความละเอียดในการเลือกโทนสีและการกำหนดการระบายสีลงไปตามจุดต่างๆของตัวละคร เพราะฉะนั้นเลือกซื้อสีไม้และกระดาษสักแบรนด์ฝึกระบายตามเทคนิคระบายสีตัวละครต่อไปนี้กันดีกว่า ก่อนจะลงสีอย่าลืมวาดรูปตัวละครหรือเลือกรูปตัวละครมาสักหนึ่งรูป ยิ่งตัวละครมีรายละเอียดของเสื้อผ้า หน้าผมหรือเครื่องประดับมากเท่าไร การระบายสีก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้นเพราะต้องเลือกโทนสีที่จะไม่ทำให้รูปมีความขัดแย้งกัน เลือกโทนสีไม้ที่ต้องการ พยายามเลือกให้อยู่ในโทนเดียวกันเพื่อความง่ายในการคอนโทรลสีไม้ตอนระบาย แนะนำว่าควรเรียงสีไม้ตามหมายเลขเพื่อความสะดวกในการไล่สีตอนระบายสเต็ปที่หนึ่ง การลงสีผิว การลงสีผิวตัวละครให้เน้นไปที่แสงเงาที่อยู่บนตัวละคร ลงสีเนื้อที่เข้มที่สุดก่อน โดยลงไปตามจุดที่คิดว่าเป็นเงา อย่างเช่น ไรผม สันจมูก ใต้คอ ขอบตา จากนั้นก็ลงสีอ่อนกว่าหนึ่งหมายเลขต่อจากสีก่อนหน้านี้ พยายามเกลี่ยให้น้ำหนักสีเท่ากันกับสีแรก สุดท้ายลงสีเนื้อหมายเลขที่อ่อนที่สุด ระบายเทคนิคเดิมคือพยายามเกลี่ยสีให้มีน้ำหนักเท่ากันกับสองสีก่อนหน้า สเต็ปที่สอง การลงสีผม การลงสีผมควรเลือกสีที่มีความโดดเด่นสะดุด เพราะจะทำให้ตัวละครมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เลือกลงสีเข้มตามเส้นผมที่ควรจะเป็นเงาหรือเลือกเส้นผมเส้นเล็กๆ ลงสีอ่อนกว่าหนึ่งหมายเลขตามลงไป ระบายต่อจากสีก่อนหน้าหรือเลือกเส้นผมที่ใหญ่ขึ้น เกลี่ยให้เท่ากันกับสีก่อนหน้า ลงสีหมายเลขที่อ่อนที่สุดเป็นลำดับสุดท้าย โดยลงพื้นที่ส่วนที่เหลือให้หมดและอย่าลืมเกลี่ยให้เท่ากับสองสีก่อนหน้า สเต็ปที่สาม การลงสีเครื่องประดับ การลงสีเครื่องประดับ ควรเลือกโทนสีที่ตัดกับสีผมและสีผิวเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวละครใช้เทคนิคเดียวกันกับสีผมและสีผิว ในส่วนที่ควรจะเป็นเงาให้ลงสีเข้มตามด้วยสีอ่อนและเกลี่ยให้น้ำหนักสีเท่ากัน ควรหาจุดเด่นด้วยการลงสีอ่อนตามจุดที่คิดว่าตัดกัน อย่าง สร้อยคอ ตุ้มหู ที่คาดผม สเต็ปที่สี่ การลงสีเสื้อผ้า การลงสีเสื้อผ้า เน้นไปที่ความเข้ากันกับเครื่องประดับ จะเลือกโทนสีเดียวกันหรือเลือกโทนสีตรงกันข้ามก็ได้ใช้เทคนิคเดียวกันกับการลงสีผิวและสีผม การเลือกโทนสีของเสื้อผ้ามีผลกับบุคลิกของตัวละคร ถ้าใช้สีโทนสดใสตัวละครก็จะดูเป็นคนที่มีบุคลิกร่าเริงแจ่มใส แต่ถ้าใช้สีโทนหม่นๆตัวละครก็จะดูเป็นคนที่มีบุคลิกเงียบขรึม สเต็ปที่ห้า การลงสีใบหน้า เพื่อเพิ่มความสวยงามของตัวละคร การลงสีใบหน้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ทั้งรายละเอียดของคิ้ว ตา แก้ม จมูก ปาก เลือกสีเข้มที่โทนเดียวกับสีผมมาระบายเป็นบรัชออนบัดแก้มจะช่วยให้ใบหน้าตัวละครมีความโดดเด่นมากขึ้น เลือกโทนสีปากที่ดูแล้วให้ความชุ่มชื้นหรือสดใส ระบายสีคิ้วด้วยโทนสีที่ตัดกับสีผมสีแก้มเพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับใบหน้าของตัวละคร ระบายสีเปลือกตาด้วยสีโทนเดียวกับสีแก้มก็จะเพิ่มความกลมกลืนของใบหน้ามากขึ้น อย่าลืมเกลี่ยสีให้เท่ากันเพื่อความสวยงามที่มากขึ้น เมื่อทำครบทั้งห้าสเต็ป เราก็จะได้ตัวละครที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ออกมาหนึ่งตัวละคร หลักสำคัญของทั้งห้าสเต็ปคือ การเลือกโทนสีและการไล่สี ยิ่งเราเลือกโทนสีที่เข้ากันได้ดีเท่าไร ตัวละครของเราก็จะมีความกลมกลืนมากขึ้นเท่านั้น ถ้าจะให้มีความดึงดูดเพิ่มมากขึ้น ควรระบายสีองค์ประกอบนอกร่างกายให้มีสีที่ตัดกัน เช่น ก้านดอกไม้ที่มีสีเขียวจะตัดกับชุดสีชมพู ช่วยให้ตัวละครน่ามองมากยิ่งขึ้น ความสวยงามมาพร้อมกับทักษะการฝึกฝนที่ใช้เวลา ไม่มีใครสามารถทำได้โดยไม่เริ่มจากการเรียนรู้ หมั่นฝึกฝนเป็นประจำไม่ว่าทักษะอะไรก็ดีขึ้นได้ แล้ววันนี้คุณฝึกฝนมันแล้วหรือยัง ภาพถ่ายโดย Atit