จอกผักกาด พืชน้ำใส่อ่างปลา บำบัดน้ำเสียไหม ขยายพันธุ์แบบไหน มาดูกัน! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนที่เลี้ยงปลาในอ่างหรือบ่อเล็กๆ อาจเคยเจอปัญหาน้ำเขียว มีกลิ่นอับ หรือคุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงเร็ว จนทำให้ปลาป่วยหรือไม่ร่าเริง การเลือกใช้พืชน้ำเข้ามาช่วยปรับสมดุล จึงเป็นทางออกที่ได้รับความนิยมค่ะ และหนึ่งในพืชน้ำที่เหมาะสมที่สุดคือ จอกผักกาด ที่เป็นพืชลอยน้ำใบสีเขียวสดที่ดูแลง่าย ให้ความสวยงามเหมือนสวนขนาดย่อม และยังมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของอ่างปลา จอกผักกาดช่วยดูดซับสารอาหารส่วนเกินจากเศษอาหารและมูลปลา ลดการสะสมของธาตุอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดน้ำเขียว ทำให้คุณภาพน้ำคงที่และใสขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี โดยหลายคนยังไม่รู้ว่า จอกผักกาดยังทำหน้าที่เสมือนฟิลเตอร์ชีวภาพขนาดเล็กที่ช่วยบำบัดน้ำเสียไปในตัว ใบที่ลอยคลุมผิวน้ำบางส่วนช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดลงถึงน้ำมากเกินไป ลดการเจริญเติบโตของสาหร่ายน้ำ ป้องกันกลิ่นเหม็นและการขาดออกซิเจนในบ่อ อีกทั้งรากฝอยที่หยั่งลงในน้ำยังเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายของเสีย ช่วยให้น้ำมีความสมดุลทางชีวภาพมากขึ้น เมื่อมองรวมๆ แล้วจอกผักกาดไม่เพียงทำให้บ่อปลาดูมีชีวิตชีวาและร่มรื่น แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ระบบเลี้ยงปลาแข็งแรงและยั่งยืนมากขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากเลี้ยงปลาแบบธรรมชาติ ลดการเปลี่ยนน้ำถี่ และดูแลบ่อปลาได้อย่างง่ายดาย จอกผักกาดเป็นพืชน้ำลอยผิวน้ำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตรง ที่ใบจะเรียงเป็นวงรอบคล้ายกุหลาบ มีสีเขียวสด ใบมีลักษณะหยักเล็กน้อยและปกคลุมด้วยขนสั้นๆ ที่ช่วยให้ลอยน้ำได้ดี เมื่อสัมผัสจะรู้สึกนุ่มราวกำมะหยี่และไม่ลื่นเหมือนผักตบชวา ด้านใต้ของใบจะมีรากฝอยยาวสีน้ำตาลเข้มชี้ลงไปในน้ำ ทำหน้าที่ดูดซับสารอาหารและของเสียในน้ำ จึงมีส่วนช่วยปรับสมดุลระบบนิเวศในอ่างปลาได้อย่างเป็นธรรมชาติ พืชชนิดนี้ไม่ต้องการดินหรือวัสดุปลูกค่ะ เพียงมีน้ำสะอาดและแสงแดดเพียงพอก็เจริญเติบโตได้ดี เหมาะกับอ่างปลาเล็กและใหญ่ทั้งในบ้านและนอกบ้านนะคะ นอกจากนี้จอกผักกาดยังเป็นพืชที่มีอัตราการขยายพันธุ์รวดเร็ว โดยแตกยอดใหม่จากต้นแม่ต่อเนื่องตลอดปี ทำให้สามารถปกคลุมผิวน้ำได้รวดเร็วถ้าไม่ได้ควบคุม ช่วยสร้างร่มเงาและบังแสงบางส่วน ทำให้น้ำเย็นลง ลดการเติบโตของสาหร่ายและป้องกันน้ำเขียว และใบที่หนาแน่นยังเป็นที่หลบภัยของปลาตัวเล็กและเป็นแหล่งวางไข่ที่ปลอดภัย ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้นี่เองที่ทำให้จอกผักกาดได้รับความนิยมมากในอ่างเลี้ยงปลา เพราะนอกจากเพิ่มความสวยงามแล้วยังช่วยรักษาคุณภาพน้ำและสุขภาพของปลาให้ดีในระยะยาวได้ค่ะ จอกผักกาดมีบทบาทสำคัญในการบำบัดน้ำด้วย เพราะช่วยในส่วนของการดูดซับสารอาหารส่วนเกินที่สะสมในอ่างปลา ซึ่งเกิดจากมูลปลาและเศษอาหารที่จมอยู่ในน้ำ เมื่อสารเหล่านี้มีปริมาณมากเกินไป จะกระตุ้นให้สาหร่ายเติบโตจนเกิดน้ำเขียว และทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง การมีจอกผักกาดช่วยชะลอปัญหานี้ เพราะจอกผักกาดนำสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ในการเจริญเติบโต จึงทำให้คุณภาพน้ำคงที่ใสขึ้นโดยไม่ต้องใช้สารเคมี อีกทั้งรากฝอยของจอกผักกาดยังทำหน้าที่เป็นตัวกรองตามธรรมชาติ ที่คอยดักจับเศษอินทรีย์ขนาดเล็กก่อนที่จะสลายตัวเป็นของเสีย นอกจากนี้รากของจอกผักกาดยังเป็นแหล่งอาศัยของจุลินทรีย์ ที่ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำ ทำให้เกิดกระบวนการบำบัดน้ำแบบชีวภาพอย่างต่อเนื่อง น้ำที่ผ่านการย่อยสลายจะมีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของปลาค่ะ เมื่อจอกผักกาดลอยคลุมผิวน้ำบางส่วนยังช่วยบังแสงแดดไม่ให้ส่องลงน้ำมากเกินไป จึงลดการเติบโตของสาหร่ายและควบคุมอุณหภูมิน้ำให้เย็นลง ทำให้บ่อปลามีสมดุลที่ดี ปลาสดชื่นและลดความจำเป็นในการเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่ต้องการเลี้ยงปลาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จอกผักกาดเป็นพืชน้ำที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับอ่างปลา ด้วยลักษณะใบสีเขียวสดที่เรียงซ้อนกันเป็นวงคล้ายดอกกุหลาบ เมื่อลอยกระจายอยู่บนผิวน้ำจะสร้างบรรยากาศธรรมชาติ ทำให้อ่างปลาดูมีชีวิตชีวา การมีพื้นที่สีเขียวลอยเด่นอยู่กลางน้ำช่วยดึงสายตาให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนมองสวนขนาดย่อมทุกครั้งที่เดินผ่านอ่างปลา และจอกผักกาดยังช่วยซ่อนท่อ ปั๊มน้ำ หรือขอบอ่างที่ดูแข็งกระด้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่อยากตกแต่งสวนหรือระเบียงบ้าน ให้มีความร่มรื่นโดยไม่ต้องลงทุนสูงค่ะ และความหนาแน่นของจอกผักกาดที่เราจัดวางให้พอเหมาะ ยังช่วยทำให้ผิวน้ำดูไม่โล่งจนเกินไป และสร้างมุมมองที่สมดุลให้กับบ่อปลา โดยเฉพาะเมื่อมีปลาว่ายลอดใต้รากฝอยของจอกผักกาด จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้มุมนี้กลายเป็นจุดพักสายตาและจุดถ่ายรูปสวยๆ ของบ้านได้เลยค่ะ อีกทั้งการเปลี่ยนสีของใบเมื่อได้รับแสงมากหรือน้อย ยังทำให้เราเห็นความเคลื่อนไหวของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เหมือนมีสวนที่เปลี่ยนไปทุกวัน ช่วยให้พื้นที่เลี้ยงปลาดูอบอุ่นและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร รู้ไหมคะว่า จอกผักกาดเป็นเหมือนบ้านเล็กๆ สำหรับปลาในอ่าง เพราะใบที่ลอยปกคลุมผิวน้ำช่วยสร้างร่มเงาและบรรยากาศปลอดภัย ทำให้ปลารู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียด โดยเฉพาะปลาเล็กหรือปลาที่ขี้ตกใจ การมีมุมที่มืดและสงบใต้รากฝอยของจอกผักกาด ช่วยให้ปลาเล็กมีที่หลบซ่อนจากปลาใหญ่หรือสิ่งรบกวนภายนอก จึงส่งผลให้ปลากล้าว่ายน้ำออกมาหากินมากขึ้นและมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ยังเป็นที่ซ่อนตัวที่ดีเมื่อเราเลี้ยงปลาหลายชนิดรวมกัน ทำให้การอยู่ร่วมกันในอ่างเป็นไปอย่างสงบค่ะ โดยในส่วนของรากฝอยของจอกผักกาด ยังเป็นจุดวางไข่ที่ดีสำหรับปลาหางนกยูง ปลากัด หรือปลาขนาดเล็กชนิดอื่นๆ ที่ต้องการพื้นที่ยึดเกาะ ไข่ปลาจะเกาะอยู่ตามรากและได้รับการปกป้องจากศัตรูตามธรรมชาติ ทำให้อัตราการรอดของลูกปลาสูงขึ้น เมื่อไข่ฟักเป็นตัว ลูกปลาก็สามารถใช้รากฝอยและใบของจอกผักกาด เป็นที่หลบภัยและแหล่งอาหารจุลินทรีย์ตามธรรมชาติไปพร้อมกัน ทำให้วงจรการเลี้ยงปลามีความสมบูรณ์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือวัสดุเทียมเพิ่มเติมค่ะ จอกผักกาดเป็นพืชน้ำที่มีอัตราการขยายพันธุ์สูงมาก โดยขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศผ่านการแตกหน่อ หรือต้นอ่อนใหม่จากต้นแม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้การมีเพียงต้นเล็กๆ ไม่กี่ต้น ก็สามารถปกคลุมผิวน้ำได้เต็มอ่างภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม กระบวนการเติบโตที่รวดเร็วนี้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพน้ำอย่างเร่งด่วนค่ะ เพราะยิ่งมีพื้นที่ใบลอยน้ำมากก็ยิ่งช่วยดูดซับสารอาหารส่วนเกินและลดน้ำเขียวได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเป็นวิธีเพิ่มปริมาณพืชน้ำโดยไม่ต้องซื้อเพิ่มบ่อยๆ อย่างไรก็ตามความสามารถในการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วนี้ ก็อาจกลายเป็นปัญหาได้หากเราไม่คอยจัดการ เพราะเมื่อจอกผักกาดปกคลุมผิวน้ำหนาแน่นเกินไปจะบังแสงแดด ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลงและเสี่ยงต่อน้ำเน่า เราจึงควรตักออกเป็นประจำเพื่อรักษาสมดุลในอ่างปลา การตักออกยังเป็นโอกาสที่ดีในการนำจอกผักกาดส่วนเกินไปใช้ประโยชน์ เช่น ทำปุ๋ยหมักหรือใส่โคนต้นไม้ในสวน ช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และถึงแม้ว่าจอกผักกาดจะมีประโยชน์ต่อคุณภาพน้ำ แต่หากปล่อยให้เจริญเติบโตจนปกคลุมผิวน้ำหนาแน่นเกินไป จะทำให้แสงแดดส่องลงน้ำไม่เพียงพอ ทำให้การสังเคราะห์แสงของสาหร่ายที่ดีและพืชน้ำชนิดอื่นเสียสมดุล และอาจทำให้ระดับออกซิเจนละลายในน้ำลดลงจนส่งผลกระทบต่อปลา ซึ่งวิธีควบคุมที่ง่ายที่สุด คือ การตักออกบางส่วนเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้งหรือทุกครั้งที่เห็นว่าพืชปกคลุมเกินครึ่งของผิวน้ำ การเก็บออกบางส่วนยังช่วยกระตุ้นให้ต้นที่เหลือแข็งแรงและแตกยอดใหม่อย่างสม่ำเสมอค่ะ และเรายังสามารถใช้วิธีการเสริมเพื่อควบคุมได้ เช่น ใช้ตะแกรงหรือทุ่นลอยน้ำกั้นพื้นที่ให้จอกผักกาดอยู่เฉพาะมุมที่ต้องการ ไม่ให้กระจายทั่วอ่างปลา รวมทั้งคอยสังเกตสีใบ หากใบเริ่มเหลืองหรือหนาแน่นมากควรเอาออกและเปลี่ยนน้ำบางส่วนเพื่อรักษาคุณภาพน้ำ การดูแลแบบนี้ทำให้จอกผักกาดยังคงมีบทบาทบำบัดน้ำและสร้างร่มเงาอย่างสมดุล โดยไม่กลายเป็นภาระหรือสาเหตุของปัญหาน้ำเน่าในระยะยาวค่ะ ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า จอกผักกาดเป็นพืชน้ำที่ชอบแสงแดดค่อนข้างมาก เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พืชสังเคราะห์แสงและเติบโตอย่างแข็งแรง หากได้รับแสงเพียงพอใบจะมีสีเขียวสด รูปร่างกางเต็มสวยและแตกหน่ออย่างสม่ำเสมอ เหมาะกับการวางอ่างปลาในตำแหน่งที่มีแสงแดดครึ่งวันเช้าหรือแดดรำไรตลอดวัน เพื่อให้พืชไม่เครียดและน้ำในอ่างยังคงเย็นพอเหมาะ หากอ่างอยู่ในที่ร่มมากเกินไปใบจอกผักกาดจะเหี่ยว เหลือง และเจริญเติบโตช้า ทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารลดลงค่ะ ในขณะเดียวกันเราต้องระวังไม่ให้จอกผักกาดโดนแดดแรงทั้งวันโดยไม่มีการบังบางส่วน เพราะอาจทำให้ใบไหม้หรือเหี่ยวเร็ว โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูง การใช้พืชน้ำชนิดอื่นช่วยบังแดดบางส่วน หรือวางอ่างในตำแหน่งที่มีร่มเงาช่วงบ่าย จะช่วยให้จอกผักกาดคงความเขียวสดนานขึ้น การจัดสภาพแสงอย่างสมดุลยังช่วยรักษาคุณภาพน้ำ ป้องกันการเกิดสาหร่ายมากเกินไป และทำให้บ่อปลามีบรรยากาศสบาย เหมาะกับการพักผ่อนและเลี้ยงปลาในระยะยาวค่ะ จอกผักกาดไม่เพียงแต่เป็นพืชน้ำที่ช่วยบำบัดน้ำ แต่ยังทำหน้าที่เสมือนตัวบอกคุณภาพน้ำได้อย่างดี เพราะเมื่อคุณภาพน้ำเริ่มเปลี่ยนไป ลักษณะของจอกผักกาดจะเปลี่ยนตามทันที หากน้ำมีสารอาหารเพียงพอ ใบจะเขียวสดและแตกหน่อรวดเร็ว แต่ถ้าน้ำเริ่มมีปัญหา เช่น มีสารเคมีตกค้าง คลอรีนสูง หรือค่า pH ไม่เหมาะสม ใบจะเหลือง ซีด หรือเน่าตายอย่างรวดเร็ว ทำให้เรารู้ได้ว่าน้ำควรได้รับการพักหรือปรับสภาพก่อนเลี้ยงปลา นอกจากนี้ถ้าจอกผักกาดเติบโตเร็วผิดปกติจนปกคลุมทั้งผิวน้ำ เป็นสัญญาณว่าน้ำมีสารอาหารส่วนเกินมากเกินไปจากมูลปลาและเศษอาหารค่ะ โดยสัญญาณจากจอกผักกาดเป็นเหมือนระบบเตือนภัยธรรมชาติ ที่ช่วยให้เราดูแลบ่อปลาได้อย่างใกล้ชิดได้ โดยไม่ต้องรอให้ปลาแสดงอาการป่วย โดยเราสามารถใช้การสังเกตใบ สี และความหนาแน่นของจอกผักกาดเป็นเกณฑ์ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนน้ำ เติมอากาศ หรือปรับปริมาณอาหารปลาในแต่ละวันได้ด้วย การใช้พืชน้ำชนิดนี้เป็นตัวชี้วัดทำให้การดูแลอ่างปลาประหยัดเวลาและต้นทุน ลดความเสี่ยงของโรคในปลา และช่วยให้ระบบนิเวศในบ่อคงที่ในระยะยาวค่ะ เมื่อจอกผักกาดในอ่างปลาเติบโตจนหนาแน่นเกินไป การตักออกไม่เพียงช่วยรักษาสมดุลของน้ำ แต่ยังเป็นโอกาสดีที่จะนำพืชส่วนเกินมาใช้ประโยชน์ต่อได้หลายทาง เราสามารถนำจอกผักกาดที่เก็บออกมาทำปุ๋ยหมักหรือนำไปคลุมดินในแปลงผัก เพราะจอกผักกาดอุดมด้วยธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงดินและเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นอาหารเสริมให้สัตว์เลี้ยงบางชนิด เช่น เป็ด ไก่ หรือปลาน้ำจืดที่ชอบกินพืชน้ำ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารได้อีกด้วยค่ะ ถ้าเราไม่ต้องการใช้เอง สามารถแบ่งปันจอกผักกาดให้เพื่อนบ้านหรือคนที่เลี้ยงปลาในชุมชน เพื่อช่วยกันปรับสมดุลคุณภาพน้ำในบ่อได้ การแบ่งปันพืชน้ำส่วนเกินยังช่วยลดปัญหาขยะอินทรีย์ และลดการทิ้งพืชลงท่อระบายน้ำ ซึ่งอาจทำให้ท่ออุดตัน การใช้จอกผักกาดอย่างคุ้มค่าจึงเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ช่วยให้เราดูแลทั้งบ่อปลาและพื้นที่รอบบ้านให้สะอาดเป็นระเบียบโดยไม่สร้างของเสียเพิ่ม ที่โดยสรุปแล้วจอกผักกาดไม่เพียงเป็นพืชน้ำที่ช่วยตกแต่งอ่างปลาให้ดูมีชีวิตชีวา แต่ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยฟื้นฟูคุณภาพน้ำแบบธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะพืชชนิดนี้ช่วยดูดซับธาตุอาหาร ซึ่งเกิดจากมูลปลาและเศษอาหาร ลดการสะสมของสารอาหารที่ทำให้เกิดน้ำเขียว และทำให้ระบบนิเวศในอ่างสมดุลขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างร่มเงาและความรู้สึกปลอดภัยให้ปลา ลดความเครียด และเป็นพื้นที่วางไข่ของปลาขนาดเล็กได้อย่างดี จอกผักกาดยังช่วยดักจับฝุ่นและเศษขยะอินทรีย์ในน้ำ ทำให้บ่อปลาใสสะอาดโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อปลาและจุลินทรีย์ที่ดี การเลือกนำจอกผักกาดมาเลี้ยงประโยชน์ จึงเป็นทางเลือกที่ทั้งสวยงามและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเราสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงเลือกต้นที่แข็งแรง ใบเขียวสด และล้างทำความสะอาดก่อนปล่อยลงน้ำ แล้วคอยสังเกตและควบคุมปริมาณไม่ให้ปกคลุมผิวน้ำจนหนาแน่นเกินไป การตักออกอย่างสม่ำเสมอทำให้เราได้พืชน้ำส่วนเกินไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น ทำปุ๋ยหมักหรือแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน ซึ่งถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและสร้างความเชื่อมโยงกับชุมชนในเวลาเดียวกัน เมื่อเราดูแลอย่างถูกวิธี อ่างปลาของเราจะกลายเป็นมุมธรรมชาติเล็กๆ ที่สร้างความสุขให้คนในบ้านทุกครั้งที่มองเห็นค่ะ ที่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเคยเห็นจอกผักกาดมาในหลายลักษณะนะคะ ตั้งแต่การนำจอกผักกาดมาใส่ในทุ่นลอยน้ำ เพื่อบำบัดน้ำเสียในระบบบำบัดน้ำเสียแบบสระพักน้ำผันสภาพและบึงประดิษฐ์ และเคยเห็นการเกิดเองตามธรรมชาติของจอกผักกาดในนาข้าว และคลองระบายน้ำในพื้นที่ทำการเกษตร การขายจอกผักกาดเพื่อการจัดสวนและเลี้ยงปลาสวยงามที่ตลาดจตุจักร การนำจอกผักกาดมาใส่ในอ่างเลี้ยงปลาสวยงามและอ่างพืชน้ำตามบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ โดยจอกผักกาดดูสวยงามค่ะ เวลาเลี้ยงไม่ยากมาก โตเร็วและเพิ่มจำนวนเร็ว ในระบบบำบัดน้ำเสียจอกผักกาดงามมากค่ะ เพราะในน้ำเสียมีธาตุอาหารจำนวนมาก โดยหลายที่ที่ได้นำจอกผักกาดมาใช้เพื่อการบำบัดน้ำเสีย เมื่อมีต้นแก่และเก็บออกทิ้ง สิ่งหนึ่งที่พบบ่อยๆ คือ การเอาประโยชน์จากการหมักทำปุ๋ยและนำไปบำรุงดินและพืชค่ะ ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านสนใจเรื่องจอกผักกาด พืชน้ำชนิดนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจค่ะ ก็ลองไปหามาเลี้ยงกันค่ะทุกคน และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #จอกผักกาด #พืชน้ำบำบัดน้ำเสียได้ #จัดสวนบ่อปลา #AquaticPlants เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา ถ่ายภาพโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล สาหร่ายหางกระจอก มีที่ไหนบ้าง มีประโยชน์ยังไง ในสิ่งแวดล้อม จอกหูหนู คืออะไร กำจัดยากไหม ช่วยบำบัดน้ำเสียไหม แหนแดงในธรรมชาติ เกิดจากอะไร ช่วยบำบัดน้ำเสียไหม เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !