กรมส่งเสริมการค้าฯ โชว์ผลงานเจรจาซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ ฟันรายได้กว่า 1.44 หมื่นล้าน
เปิดเผยถึงผลการขยายตลาดต่างประเทศด้วยช่องทางออนไลน์ ว่า กรมฯ ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เพิ่มช่องทางการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีผลการดำเนินการตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ย.2563 รวม 84 ครั้ง มีผู้ส่งออกเข้าร่วม 485 ราย ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เข้าร่วม 352 ราย มียอดตัวเลขซื้อขายรวม 14,454.7 ล้านบาท
สำหรับ ยอดการเจรจาซื้อขายรวม 14,454.7 ล้านบาท แยกเป็นสินค้าเกษตร มูลค่า 9,265.8 ล้านบาท โดยเป็นการขายข้าว 1,417.9 ล้านบาท ผลไม้ 6,086.3 ล้านบาท (เฉพาะลำไย ขายได้สูงถึง 5,152.5 ล้านบาท) ยางพารา 1,761.7 ล้านบาท สินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่า 3,025.4 ล้านบาท สินค้าอาหารแปรรูป มูลค่า 1,075.2 ล้านบาท และสินค้าอื่นๆ มูลค่า 1,088.1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภูมิภาคที่มีการเจรจาซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้มากที่สุด คือ เอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน บังคลาเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย และเวียดนาม มีมูลค่า 8,436 ล้านบาท รองลงมา คือ อเมริกาเหนือและลาตินอเมริกา มูลค่า 4,068.9 ล้านบาท แอฟริกา มูลค่า 1,226 ล้านบาท ยุโรป มูลค่า 497.72 และตะวันออกกลาง มูลค่า 226.1 ล้านบาท
นายสมเด็จ กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ ในปี 2564 กรมฯ จะยังคงจัดต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์โควิด-19 ยังคงไม่คลี่คลายลงโดยเร็ว แม้ว่าจะมีวัคซีนออกมาแล้วก็ตาม แต่คงต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง ถึงจะสามารถเดินทางไปเจรจาซื้อขายได้แบบปกติ โดยการจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ มีแผนจัดต่อเนื่องทุกเดือนตั้งแต่ม.ค.-ก.ย.2564 ครอบคลุมถึงกลุ่มสินค้า เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป ประมง ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ของตกแต่งบ้าน อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-มี.ค.) กรมฯ จะเร่งจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ให้มากขึ้น โดยมีแผนจัดรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง และสามารถกำหนดวันได้ชัดเจนแล้ว ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตลาดสหรัฐฯ ในช่วงการจัดงาน Consumer Electronics Show 2021 วันที่ 11-14 ม.ค.2564 , สินค้าแม่และเด็ก และของเล่น ทุกตลาด วันที่ 11-20 ม.ค.2564 , สินค้าไม้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ อาหารสัตว์เลี้ยง น้ำมันปาล์ม ของเล่นเด็ก เครื่องสำอาง ตลาดอินเดีย วันที่ 18-22 ม.ค.2564 , สินค้าไลฟ์สไตล์ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน ตลาดยุโรป วันที่ 22-26+ ม.ค.2564 , สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ทุกตลาด วันที่ 2 ก.พ.2564 , อาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มเครื่องมือแพทย์ ทุกตลาด วันที่ 2-5 ก.พ.2564 , อัญมณีและเครื่องประดับ ผลไม้และผลิตภัณฑ์ ทุกตลาด วันที่ 21-28 ก.พ.2564 , อาหารฮาลาล ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ทุกตลาด วันที่ 11-20 มี.ค.2564 และชิ้นส่วนยานยนต์ ตลาดจีน วันที่ 21-31 มี.ค.2564
อย่างไรก็ตาม ส่วนการจัดกิจกรรมที่ยังกำหนดวันไม่ได้ คือ สินค้าอาหารฮาลาล และผัก ผลไม้ ตลาดตะวันออกกลาง, สินค้าที่จะผลักดันเจาะตลาดมณฑลไหหนาน ตลาดจีน และสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง ตลาดเอเชีย กำลังรอการยืนยัน จากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ที่จะเข้ามาเจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทย แต่คาดว่าน่าจะจัดได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564