สวัสดีครับผู้อ่านทุกคน แน่นอนว่าเมื่อเราได้เข้าไปทำงานอยู่ที่ใดหนึ่ง แล้วได้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนในนั้นมากมาย เราเองก็ควรที่จะปรับตัวให้กับงานและเข้ากับคนทุกคนทุกประเภทให้ได้ และยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็น "เจ้านาย" หรือ "หัวหน้า" ซึ่งเขาจะคอยทำหน้าที่กำกับดูแลพวกเราซึ่งเป็นพนักงาน คอยจ่ายงานให้เราทำ และคอยรับผิดชอบในหลายๆ เรื่อง และแน่นอนว่าหัวหน้าหรือว่าเจ้านายมันก็มีกันอยู่แทบจะทุกที่เลยถูกต้องไหมครับ ? คือไม่มีที่ไหนหรอกที่จะไม่มีหัวหน้า ยกเว้นแต่ว่างานบางงานเราจะเป็นเจ้านายตัวเองซึ่งการที่เราจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้นั้น สิ่งที่พนักงานหรือว่าลูกจ้างอย่างเราควรทำเลยนั่นก็คือ "การทำให้หัวหน้าประทับใจในตัวเรา" ถ้าหากเราประพฤติตัวดีกับเขาบ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ เราเองก็อาจจะได้รับความดีความชอบจากเขาก็เป็นได้ ดังนั้นในเนื้อหาบทความนี้ผู้เขียนจะมาแชร์ถึง 12 เทคนิคทำให้ "หัวหน้า" ชื่นชอบในตัวเรามาฝากกันครับ ก็ไม่ได้ถึงขั้นชื่นชอบมากอะไรขนาดนั้น แค่ทำให้เขาพอที่จะประทับใจในตัวเราบ้างไม่มากก็น้อยก็เท่านั้นเอง โดยผู้เขียนจะแชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวโดยเฉพาะ 12 ข้อจะมีอะไรกันบ้างเราลองค่อยๆ อ่านกันเรื่อยๆ นะครับ หมายเหตุ : เนื้อหาบทความนี้เป็นเพียงการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวจากผู้เขียน รูปภาพทั้งหมดเป็นเพียงรูปภาพที่ผู้เขียนได้ออกแบบขึ้นมาเอง ไม่ใช่ภาพจริงๆ แต่อย่างใด หากผิดพลาดแต่ประการใด ทางผู้เขียนก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย 1. มีสัมมาคารวะ ไปลามาไหว้ : ข้อนี้ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากที่พนักงานหรือว่าลูกจ้างทุกคนควรปฏิบัติกับหัวหน้าเป็นประจำ เจอหน้ากันครั้งแรกก็ต้องทักทายกันตลอด ยกมือไหว้สวัสดี เลิกงานก็ยกมือไหว้ร่ำลา ไปลามาไหว้ เวลาเขาให้อะไรเราก็ยกมือไหว้ขอบคุณเขาทุกครั้ง ทำแบบนี้เป็นประจำเชื่อว่าหัวหน้าจะรักและเอ็นดูเราอย่างแน่นอนแชร์ประสบการณ์ : ตอนเราเจอเจ้านายเป็นครั้งแรกเราก็ยกมือไหว้เขาทุกครั้ง และก่อนจากกันเราก็ยกมือไหว้อีกรอบ แล้วเวลาที่เขาให้สิ่งของอะไรกับเรามาก็แล้วแต่เราก็จะยกมือไหว้ขอบคุณเสมอ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนมีสัมมาคารวะ ได้รับการอบรมปลูกฝังมาจากครอบครัวเป็นอย่างดี แค่เจ้านายได้เห็นแล้วเขาก็รู้สึกว่าประทับใจกับเรามาก และอยากร่วมงานกับเราต่อ 2. ต้องตรงต่อเวลา : การเป็นพนักงานหรือว่าลูกจ้างจะต้องตรงต่อเวลาเสมอ นอนให้เร็วขึ้นและตื่นให้เช้าขึ้น เพื่อที่จะได้เดินทางมาถึงที่ทำงานได้โดยที่ไม่ต้องเร่งรีบ และถึงก่อนเวลาที่กำหนดด้วยซ้ำ เจ้านายหรือหัวหน้าส่วนใหญ่เขาจะชอบพนักงานหรือว่าลูกจ้างที่มีความตรงต่อเวลา มาถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลาที่กำหนด ถ้าขาดงานหรือมาสายเพียงแค่นิดเดียว ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนตำหนิหรือต่อว่าได้เช่นกันแชร์ประสบการณ์ : เรายอมรับว่าตัวเราเองก็เคยมาทำงานสาย บางครั้งก็นอนดึกตื่นสาย ขี้เกียจไม่อยากทำบ้างก็มี จนมีอยู่วันหนึ่งเจ้านายเราไม่พอใจ เขาก็เลยตำหนิและตักเตือนเราเล็กน้อย เมื่อเห็นแบบนี้เราก็เลยปรับปรุงตัวเอง เราจึงมาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม พยายามนอนให้เร็วและตื่นให้เช้าขึ้น จะได้ไม่ต้องถูกตำหนิอีก เจ้านายชื่นชมและประทับใจ 3. ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด : ทุกที่ย่อมมีกฎระเบียบเสมอ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราเองก็ต้องทำตามกฎของที่นั่นอยากเคร่งครัด เฉกเช่นเดียวกัน เราอยู่ในที่ทำงาน เมื่อเจ้านายหรือว่าหัวหน้าเขาตั้งกฎอะไรไว้ เราเองก็ต้องปฏิบัติตามกฎของเขา แล้วจะได้ปลอดภัยไม่โดนตำหนิ เหมือนดั่งสุภาษิตที่ว่า "เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด" ถ้าทำตามกฎได้ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเราก็จะอยู่สบาย แล้วเจ้านายก็จะรักและเอ็นดูเราไปตลอดแชร์ประสบการณ์ : เรารู้ดีว่าที่ทำงานแต่ละที่มันก็ต้องมีกฎระเบียบของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา แน่นอนว่าเมื่อเราไปอยู่ที่นั่นแล้วเราก็ต้องทำตามกฎของเขาทุกอย่าง ไม่ควรที่จะละเมิดหรือว่าแหกกฎแต่อย่างใด เราทำตามกฎของเขาในแต่ละครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้คือเราอยู่สบาย เราไม่ถูกตำหนิ มันก็มีโดนบ้างเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้เยอะมากจนเกินไป 4. มีความรับผิดชอบ : ทุกคนล้วนมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเป็นของตัวเอง หน้าที่ใครหน้าที่มัน เพราะความรับผิดชอบคือสิ่งหลักๆ ที่สำคัญที่สุดในชีวิตการทำงาน ถ้าหากว่าเราขาดความรับผิดชอบ ผลงานที่ได้มันก็ออกมาแบบเสียๆ หายๆ เพื่อนๆ ในทีมต่างพากันเมินหน้าหนี แล้วก็มักจะถูกหัวหน้าหรือว่าเจ้านายตำหนิอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเราต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองให้มากขึ้นแชร์ประสบการณ์ : งานแต่ละอย่างที่เราทำล้วนมีความสำคัญ เรารับผิดชอบกับทุกงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง เราค่อนข้างมีความรับผิดชอบกับงานตรงหน้า ถ้าหากเรารับผิดชอบกับงานที่ทำอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่จะได้รับคือความดีความชอบจากเจ้านายหรือหัวหน้า และการไม่ถูกตำหนิ ซึ่งตัวเราก็พอจะได้รับสิ่งนี้มาบ้าง ซึ่งมันเป็นอะไรที่โอเคสำหรับเรา 5. ซื่อสัตย์และจริงใจ : อีกหนึ่งสิ่งที่พนักงานหรือลูกจ้างทุกคนควรจะมีเป็นอย่างมากนั่นก็คือ "ความซื่อสัตย์และความจริงใจ" ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะสามารถทำให้ทุกคนในที่ทำงานชื่นชอบและไว้วางใจได้ ทำให้ตัวเราเองเป็นคนที่น่าเชื่อถือของทั้งเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายหรือหัวหน้า ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างจริงใจ ไม่ทำให้เขาต้องผิดหวังในตัวเราแชร์ประสบการณ์ : ตอนช่วงที่เราทำงานอยู่ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาขอช่วยให้เราทำบางสิ่งบางอย่างแทนเขา ซึ่งก็เป็นช่วงที่เขาติดธุระ ถึงแม้มันจะไม่ใช่หน้าที่เราก็เถอะ ซึ่งนี่ก็เป็นสัญญาณที่ชี้ชัดได้ว่าเขาเริ่มที่จะไว้วางใจเราแล้ว แล้วเราก็ยังได้รับปากกับเขาว่าจะช่วยทำอย่างเต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ โดยที่ไม่มีข้อกังขาแต่อย่างใด 6. ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว : ในที่นี้หมายถึงการเปิดใจรับฟังเรื่องราวต่างๆ เปิดรับความรู้ใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ยอมรับในทุกคำติชมต่างๆ ที่เจ้านายหรือหัวหน้าได้สั่งสอนให้กับเรา การที่เราทำตัวไม่ให้เป็นน้ำเต็มแก้วจะทำให้ตัวเราเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย เป็นคนที่เชื่อฟัง ไม่มีข้อกังขาและไม่มีข้อต่อรองแต่อย่างใด ถ้าไม่รู้ก็บอกเขาไปแบบตรงๆ เพื่อที่เขาจะได้ให้คำแนะนำในเรื่องที่เรายังไม่รู้ได้แชร์ประสบการณ์ : เราไม่เคยมีข้อกังขาใดๆ เลยเวลาที่เขาแนะนำหรือว่าตักเตือนเรา เรื่องบางเรื่องที่เราเองก็ไม่รู้เขาก็จะแนะนำและบอกขั้นตอนเราทุกอย่าง คนไม่รู้ไม่ได้แปลว่าโง่เสมอไป ถ้าเรามีข้อสงสัยหรือปัญหาอะไรก็แล้วแต่เราก็มักจะถามเขา เราพร้อมเปิดรับในทุกคำติชมต่างๆ เปิดครับความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยสัมผัสมาก่อน ยอมรับในคำตักเตือนเพื่อนนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป เราจะทำตัวไม่ให้เป็นน้ำเต็มแก้วเพื่อเปิดรับสิ่งเหล่านี้เข้ามาในชีวิตอยู่เสมอ 7. จัดให้ได้ตามคำขอ : ในฐานะที่เราเป็นพนักงานหรือว่าลูกจ้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้านายหรือหัวหน้าเขาอยากได้อะไร หรืออยากให้เราทำอะไร เราก็ต้องจัดให้เขาได้ตามคำขอ เช่นเขาจะให้เราไปซื้อของไม่ว่าจะเป็นของอะไรก็แล้วแต่ จะของกินก็ดีหรือของใช้ก็ดี เราก็ต้องซื้อให้ตามที่เขาสั่ง อย่าให้ผิดพลาด หรือถ้าหากเขาขอช่วยให้เราทำงานชิ้นนึงให้กับเขาเราก็ต้องทำ ถ้าสิ่งนั้นมันไม่ได้แย่หรือไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงเกินไปแชร์ประสบการณ์ : เคยมีอยู่ช่วงนึงที่เขาใช้ให้เราไปซื้อของ เราก็ต้องไปซื้อให้เขาตามที่เขาสั่งแบบถูกต้องเป๊ะๆ เพราะเราซื้อของให้เขาเสร็จแล้วเขาก็ได้รับของ เมื่อเขาได้รับของที่เขาต้องการเขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเรา และเขาก็ยังขอช่วยหรือขอแรงเราให้ทำนั่นทำนี่ ซึ่งเราก็พร้อมช่วยได้ทุกเมื่อโดยไม่มีข้อกังขา แบบนี้ก็ทำให้เจ้านายพึงพอใจได้ขึ้นมาบ้าง 8. แต่งตัวให้ดูดี ดูสะอาด : การแต่งตัวถือว่าสิ่งสำคัญสำหรับทุกๆ คน ไปทำงานแต่ละครั้งจะต้องแต่งตัวให้ดูดี ดูสะอาดสะอ้าน ดูเรียบร้อย ถูกกาละเทศะ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับต่างๆ จะต้องดูสะอาดสะอ้าน ไม่จำเป็นต้องรูปร่างหน้าตาดีอะไรมากขนาดนั้น ขอแค่รูปลักษณ์ภายนอกดูดีดูสะอาด เจ้านายเห็นแล้วชื่นชอบและประทับใจแค่นี้ก็เพียงพอแล้วแชร์ประสบการณ์ : ในช่วงที่เราทำงานอยู่เขาก็จะมีชุดฟอร์มของบริษัทของเขาอยู่แล้ว เขาจะให้เราแบบครบชุดในตอนแรก แล้วเราก็ใส่ชุดนี้มาทำงานทุกครั้ง และอีกอย่างหนึ่งคือชุดเราจะต้องสะอาด และมีเครื่องหมายครบ เจ้านายเห็นแต่ละครั้งก็ยังคงประทับใจอยู่เรื่อยๆ จะได้ไม่ตำหนิเรา 9. มีความกระตือรือร้น : ในการทำงานแต่ละครั้งจะต้องมีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ ถ้าหากเราขาดความกระตือรือร้นคุณภาพของงานที่ได้มันก็จะดรอปลง ทำให้เจ้านายหรือหัวหน้าเห็นแล้วต่างก็ไม่พอใจอย่างมาก การใส่ใจกับงานที่ทำถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตการทำงาน ข้อนี้ถือไปอีก 1 สิ่งที่พนักงานหรือลูกจ้างทุกคนควรพึงปฏิบัติ ถ้าอยากให้เจ้านายหรือหัวหน้าเขารัก เอ็นดู และประทับใจในตัวเราแชร์ประสบการณ์ : ยอมรับว่าตัวเราเองก็เคยเป็นคนที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นในเรื่องงานเช่นเดียวกัน เราออกจะเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจ เบื่อง่าย ไม่ค่อยมีพลังงาน ดูห่อเหี่ยวทุกครั้ง ทำให้เจ้านายเห็นแล้วก็อดที่จะตักเตือนเราไม่ได้ จนกระทั่งเราก็ได้ปรับปรุงตัวเอง ปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้น ทำตัวเองให้ดูกระจับกระเฉงมีพลังมากขึ้น พร้อมที่จะทำงานตรงหน้าต่อไป 10. ต้องเป็นคนร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส : คงไม่มีเจ้านายหรือหัวหน้าคนไหนที่จะชอบพนักงานหรือลูกจ้างที่สีหน้าดูเคร่งเครียดตลอด หน้าบูดหน้าบึ้งทุกครั้ง ตัวเราเองก็ต้องเป็นคนที่ร่าเริงบ้าง ยิ้มแย้มแจ่มใสบ้างเป็นครั้งเป็นคราว แต่ก็ไม่ควรเป็นบ่อยจนเกินไป เพราะเจ้านายหรือหัวหน้าก็ใช่ว่าจะอารมณ์ดีไปทั้งหมด บางคนที่ดูซีเรียสจริงจังก็มี อยู่ที่ว่าเจ้านายที่เราร่วมงานด้วยเขามีอารมณ์แบบไหน ถ้าเขาเล่นกับเราเราก็เล่นกับเขาได้ แต่ถ้าเขาดูซีเรียสจริงจังอันนี้เราก็ไม่ควรเล่นแชร์ประสบการณ์ : เจ้านายหรือหัวหน้าที่เราเจอส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนที่เป็นกันเองมาก เป็นคนตลก สนุกสนานร่าเริง เข้ากับใครได้ง่าย เราสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา อยู่ด้วยแล้วรู้สึกไม่เครียด พร้อมร่วมงานกับเขาได้ทุกเมื่อ เรายอมรับว่าเราเป็นคนที่ยิ้มยาก ด้วยความที่เป็นสังคมที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย เราจะทำตัวไม่ค่อยถูก แต่ทุกครั้งที่เจ้านายเล่นกับเรา เราเองก็มีเล่นกับเขาบ้างเล็กน้อย มียิ้มแย้มบ้างเป็นบางเวลา มีอัธยาศัยที่ดีต่อกัน 11. มีทัศนคติที่ดีกับผู้อื่น : เจ้านายหรือหัวหน้าจะประทับใจในตัวเราได้ก็ตรงที่ว่าเราปฏิบัติกับคนอื่นอย่างไร โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในระดับธรรมดาทั่วๆ ไปเช่นแม่บ้าน แม่ค้าพ่อค้า พนักงานเสิร์ฟ พนักงานปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่รปภ. นักการภารโรง ฯลฯ หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานด้วยกันเอง ทัศนคติที่ดีมีผลต่อการใช้ชีวิตในที่ทำงานแบบเต็มๆ เพราะว่าคนที่มีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวก จะเข้ากับใครก็ได้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ผู้คนอยากเข้าหามากขึ้น เป็นที่รักของหลายๆ คน นอกจากเพื่อนร่วมงานจะชอบแล้ว เจ้านายหรือหัวหน้าเองก็ชอบเหมือนกันอีกด้วย และอยากร่วมงานด้วยต่อไปยาวๆแชร์ประสบการณ์ : เราเองก็ไม่ใช่คนที่ดีแบบเต็มร้อย แต่เราก็ไม่เคยไปว่าร้ายหรือดูถูกใครก่อน ตอนที่เราทำงานอยู่ก็มีคนระดับเดียวกันกับเราเยอะเหมือนกัน แต่ถึงจะเป็นคนระดับไหนก็เถอะเราก็จะพูดดีกับคนอื่นไว้ก่อนเพื่อเป็นการให้เกียรติ มีทัศนคติที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน แค่เราไม่ดูถูกใครหรือไม่ว่าร้ายใคร แค่นี้เจ้านายก็อยากที่จะร่วมงานกับเราต่อแล้ว12. มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ : ลองคิดภาพในหัวกันดูว่าในเวลาที่เจ้านายหรือหัวหน้าของเรานั้นถือข้าวของพะรุงพะรัง แล้วเราซึ่งเป็นพนักงานทนยืนดูหรือนั่งดูอยู่เฉยๆ แบบนี้มันจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย ดูเป็นคนที่แล้งน้ำใจอย่างมาก ไปที่ไหนก็ไม่มีใครชอบ ดังนั้นถ้าเห็นว่าเขาถือของมาไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ ขอให้เราได้แสดงความมีน้ำใจต่อเขา เข้าไปบอกเขาว่า "ให้ผม / ฉันช่วยนะครับ / ค่ะ" ไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยปากขอเอง หรือไม่ถ้าเขาขอให้เราช่วยเราก็ต้องไปช่วยเขาอย่าได้รีรอแชร์ประสบการณ์ : เจ้านายที่เราเคยทำงานด้วยเขาเองก็ดีกับเราอยู่พอสมควร เราเคยนำของฝากไปให้เขา แต่เราก็ไม่ได้เต็มใจอยากจะให้เขาหรอก แต่คนในครอบครัวเราเป็นคนซื้อแล้วฝากให้เราเอาไปให้เขา เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาให้โอกาสเราได้กลับมาทำงานอีกครั้ง เจ้านายที่ได้เห็นก็รู้สึกอิ่มเอมและประทับใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และทั้งหมดนี้ก็คือ 12 เทคนิคที่ผู้เขียนได้นำมาฝากในบทความนี้ครับ ก็ต้องบอกว่าเทคนิคทั้งหมดมันอาจจะใช้ไม่ได้ผลแบบ 100% เพราะว่าเจ้านายหรือหัวหน้าก็ใช่ว่าจะดีไปซะหมดทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะปฏิบัติกับเขาแบบไหน ถ้าเราทำตัวดีเขาก็จะดีตอบ แต่ถ้าเราทำตัวแย่มันก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน เราจะไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากเขาเลย ลองนำทั้ง 12 ข้อนี้ที่ได้บอกไปปรับใช้กันดูก่อน ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติด้วยใจจริงไม่ได้เป็นการฝืนหรือว่าเสแสร้ง ถ้าทำแล้วมันไม่ได้ผลเจ้านายเขาไม่ค่อยปลื้มหรือทำแล้วไม่ได้ผลลัพท์อะไรกลับมาเลยเราก็ค่อยหยุดแล้วถอยออกมา ถ้าเขาปลื้มเราก็ทำต่อไป เชื่อว่ามันจะเกิดผลดีกับเราได้ในอนาคต ไม่แน่เราก็อาจจะได้รับความดีความชอบจากเจ้านายหรือหัวหน้าเราไม่วันใดก็วันหนึ่งก็เป็นได้ใครจะไปรู้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ เครดิตรูปภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาทั้งหมดออกแบบโดย : AloneLife (ผู้เขียน) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !