ธปท.ระบุ อี-เพย์เมนท์บูม3เท่า สาขาแบงก์ฮวบ242แห่ง

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ได้ทยอยปรับลดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นเดือนมิ.ย.63 มีสาขาในประเทศรวม 6,357 แห่ง เทียบสิ้นเดือนธ.ค.62 ที่มี 6,508 แห่ง หรือช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสาขาธนาคารลดลงสุทธิ 151 แห่ง แต่ถ้าหากเทียบกับสิ้นเดือนมิ.ย.62 ที่มีจำนวนสาขา 6,599 แห่ง หรือช่วงเวลา 1 ปี ธนาคารพาณิชย์ลดสาขาแล้วถึง 242 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลด ตามพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินสดของประชาชนที่หันมาใช้ผ่านโมบาย แบงกิ้งมากขึ้นตามการสนับสนุนโครงการอี-เพย์เมนท์

สำหรับสาขาธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่สิ้นเดือนมิ.ย.63 พบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มี 954 แห่ง ช่วง 6 เดือนลดลงมากที่สุด 80 แห่ง รองลงมาเป็นธนาคารกรุงไทยช่วง 6 เดือนลดลง 39 แห่ง เหลือ 1,028 แห่ง ธนาคารกรุงเทพ 1,135 แห่ง ลดลง 13 แห่ง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 684 แห่งลดลง 7 แห่ง และธนาคารกสิกรไทย 883 แห่งลดลง 6 แห่ง เป็นต้น

ทั้งนี้ หากดูข้อมูลของ ธปท.ในช่วงที่ผ่านมา พฤติกรรมการชำระเงินของคนไทยยังนิยมใช้เงินสด แต่การใช้จ่ายชำระเงินผ่านอี-เพย์เมนท์มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาปริมาณการใช้อี-เพย์เมนท์เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จาก 49 ครั้งต่อคนต่อปีในปี 59 เป็น 151 ครั้งต่อคนต่อปีในปี 63 สอดคล้องกับพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐโดยเฉพาะการโอนเงินพร้อมเพย์ที่ช่วยทำให้ต้นทุนการโอนเงินถูกลงจนฟรีค่าธรรมเนียม และยังใช้จ่ายเงินผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดปัจจุบันมีจุดบริการกว่า 6 ล้านจุดทั่วประเทศ

ขณะที่การใช้อี-เพย์เมนท์ของคนไทยในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากระดับปกติ จากธุรกรรมอินเทอร์เน็ตและโมบายแบงกิ้งที่ขยายตัวสูงขึ้นกว่า 72% ส่วนการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์สูงสุดถึง 16.3 ล้านรายการต่อวันในเดือน เม.ย. 63 และคาดว่าในอนาคตยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นผลจากความคุ้นชินในการใช้อี-เพย์เมนท์หลังเกิดโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงเป็นยุคนิวนอร์มัล

เกาะติดข่าวที่นี่