เมื่อวันที่ยอดอ่านลด... จากคู่แข่งทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น short clip , reel, tiktok ทำให้เส้นทางการเขียนบทความ ถึงเวลา เปลี่ยน "สิ่งที่ชอบ" เป็น "สิ่งที่ใช่" เราสำรวจและหาแนวทางในการปรับตัวเพื่อไปต่อกับงานเขียนที่รัก เราเชื่อว่า นักเขียนทุกคนต่างเจอผลกระทบจากยอดอ่านที่ลดจำนวนลง ส่งผลกระทบต่อนักเขียนโดยตรงทั้งกระเป๋าและจิตใจ แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง เราจะหมดแรงบันดาลใจในการเขียนและต้องทิ้งสิ่งที่เรารักไป เราจึงใช้โอกาสนี้ เรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นและสรุปเนื้อหา เพื่อให้ตัวเองได้ไปต่อ 1. ทบทวนตัวเอง: ค้นหาจุดแข็งที่ซ่อนอยู่ ลองเปิดดูสถิติย้อนหลังในโปรไฟล์ของเรา ตรงจุดนี้ เราต้องจริงใจกับตัวเองด้วยว่า บทความไหน คือ สิ่งที่เราชอบและตั้งใจทำจริงๆ บทความไหนเขียนเพราะอยากเขียนตามความชื่นชอบ จาก "สิ่งที่ชอบ" สู่ "สิ่งที่ใช่": วิเคราะห์งานเขียนที่ผ่านมาทั้งหมด ทั้งแนวทาง, สไตล์, และประเภทเนื้อหาที่เคยทำ คำถามเพื่อทบทวน: อะไรคือแนวที่เราเขียนได้ดีที่สุด? เนื้อหาแบบไหนที่ให้คุณค่ากับคนอ่านได้มากที่สุด? และแนวไหนที่ได้รับความนิยมหรือมีคนติดตามมากที่สุด? 2. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: เขียนเพื่อใคร? และเพื่ออะไร? ถ้าเราเริ่มงานเขียนโดยไม่มีเป้าหมาย ถึงแม้จะได้ผลงานเป็นบทความออกมา แต่อาจจะไม่ได้ยอดคนอ่าน เพราะบทความนั้นไม่ได้เน้นรายละเอียดให้กลุ่มเป้าหมาย รู้จักผู้อ่านของคุณ: กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน (เช่น วัยรุ่น, วัยทำงาน, ผู้สูงอายุ , มือใหม่) เป้าหมายการอ่าน: ตั้งเป้าหมายที่จับต้องได้ เช่น คาดหวังยอดอ่าน 1,000 คนใน 1 เดือน หรือให้อยู่ในหน้าแรก google search 3. ปรับแผนการเขียน: จาก "อารมณ์" สู่ "ความต้องการ" ของตลาด (ผู้อ่าน) เรายอมรับว่า เป็นคนหนึ่งที่เขียนบทความด้วยอารมณ์ ก็อยากจะเขียน อยากจะเล่า แต่สุดท้าย เรื่องนั้น อาจจะไม่มีใครอยากฟังเราก็ได้ การใช้อารมณ์ในการเขียน ทำให้เราขาดความรอบคอบในจุดต่างๆ เช่น การตั้งชื่อบทความ หรือ เขียนในเรื่องที่คนสนใจน้อย ใช้ข้อมูลนำทาง: ไม่ได้เขียนตามใจตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ให้ใช้ข้อมูลจากเทรนด์หรือความต้องการของผู้อ่านเป็นหลัก ตรงนี้แก้ไขได้ด้วยการใช้ Google Trend หรือ ถ้าจะทำบทความคู่กับเรื่องที่นิยมใน Tiktok สามารถดูจากเทรนด์ได้ สร้างจุดขาย: เช่น บทความท่องเที่ยวต้องมีจุดขายที่น่าสนใจ เช่น "5 ที่พักวิวหลักล้าน แต่จ่ายหลักพัน", "ร้านอาหารลับๆ ที่มีแต่คนในพื้นที่รู้" เลือกจาก google search ว่า คนนิยมค้นหาเรื่องนั้นๆ เกี่ยวกับอะไรบ้าง เช่น ลองใช้คำว่า ศาลเจ้าพ่อเสือ ก็จะมีคำค้น อันดับสองให้เราดูว่า คนมักจะค้นหาสถานที่นั้นด้วยคำว่าอะไร 4. วางแผนก่อนเขียน: ทุกนาทีมีค่า ต้นทุนของนักเขียน: ทุกบทความมีต้นทุน ทั้งเวลา, ค่าไฟ, ค่ากาแฟ ชาไข่มุก อีกท้งยังมีแรงกาย, พลังสมอง และ แรงบันดาลใจ ที่เราต้องเสียไป เราต้องหยุดเขียนแบบไร้ทิศทาง เน้นย้ำว่าการวางแผนที่ดีจะช่วยประหยัดเวลาและพลังงาน และทำให้ได้งานที่มีคุณภาพมากกว่า เรามาวิเคราะห์งานตัวเอง และต้องปรับตัวให้ สร้างแนวทางให้งานเขียนบทความของเรามีระบบมากยิ่งขึ้น ดังนี้ งานเขียนแนวท่องเที่ยว จัดว่าเป็นงานเขียนที่เรียกยอดวิวอันดับต้นของเราเลย ด้วยพื้นที่พักอยู่ในชลบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม การเขียนงานท่องเที่ยวก็ต้องปรับตัวสู้กับ short หรือ reel จุดเด่น: เน้นความ "จริง" หรือ "ข้อเท็จจริง" สำหรับผู้อ่าน เนื้อหาที่ควรมี: การเดินทาง: บอกวิธีไปที่เข้าใจง่าย เช่น เดินทางอย่างไร ใช้ทางด่วน ลงด่านอะไร หรือ นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี... แล้วต่อแท็กซี่/รถสองแถว ที่พัก: แนะนำที่พักที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ที่พักราคาประหยัดสำหรับคนเดินทางคนเดียว หรือที่พักบรรยากาศโรแมนติกสำหรับคู่รัก อาหารและคาเฟ่: แทรกรายละเอียดร้านอาหารและคาเฟ่ที่น่าสนใจเข้าไปในเส้นทาง ตรงนี้ เราเลือกได้ว่า เราจะเขียนบทความเพิ่มเติมสำหรับรายละเอียดนี้หรือไม่ ถ้าน่าสนใจเพียงพอแนะนำให้เขียนบทความแยก จะได้ไม่กินพื้นที่ของบทความท่องเที่ยว เพื่อให้ความสำคัญยังอยู่ที่สถานที่ท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวพัทยา ผ่านถนนสาย 36 มีร้านอาหาร/คาเฟ่แนะนำ งานเขียนแนวอาหาร เราเขียนบทความรีวิวอาหารค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ร้านทั่วไป ภัตตาคาร คาเฟ่ หรือ ร้านลับ ความยากคือ ร้านเยอะขึ้น คนรีวิวแบบคลิปเยอะมาก ทำให้คนอ่านรีวิวแนวอาหารน้อยลงจริงๆ ต้องพยายามปรับตัว และ สไตล์การเขียนที่ต้องลงรายละเอียดให้มากขึ้น จุดเด่น: สร้างเอกลักษณ์และใส่รายละเอียดที่เหนือกว่าวิดีโอสั้น เพราะ clip สั้น จะต้องแสดงว่า อาหารนั้นน่าทางอย่างไร แต่งานเขียนสามารถบรรยาย ใส่รายละเอียดได้มากกว่า การรีวิว: นอกจากรสชาติแล้ว ควรเน้นบรรยากาศร้าน, ความสะอาด, และสิ่งอำนวยความสะดวก มีที่จอดรถหรือไม่ ที่วิดีโออาจไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก การคัดเลือกร้าน: เลือกร้านที่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เช่น ร้านที่มีประวัติยาวนาน, ร้านลับๆ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก หรือร้านที่ใช้วัตถุดิบพิเศษ เมนูอาหาร เราอาจจะไม่ได้รีวิวแค่ เมนูอะไรอร่อย ลองเพิ่มเนื้อหา เช่น อาหารจานนี้ ทานคู่กับอะไร เติมพริกน้ำส้ม หรือ สั่งเครื่องดื่มมาทานคู่ คนอ่านที่ต้องการรายละเอียดจะแชร์ให้คนอื่นที่สนใจร้านนี้ คุยกับร้านมากขึ้น การรีวิวคาเฟ่ เพิ่มรายละเอียดเข้าไป เช่น ร้านนี้ ใช้เม็ดกาแฟแบบไหน แล้วเม็ดกาแฟนั้นมีความพิเศษอย่างไร เช่น อเมริกาโน ถ้าใช้อราบริกา รสชาติจะออกแนวไหน บางร้านมีเม็ดเฉพาะ เราสามารถหาข้อมูลสายพันธุ์กาแฟนั้น แล้วเขียนเนื้อหาบรรยายที่เป็นประโยชน์กับคนอ่าน งานเขียนแนวไลฟ์สไตล์ การเขียนบทความแนวให้ความรู้ บอกวิธีทำ มีทั้งส่วนที่ง่าย และ ยาก เราต้องเลือกหัวข้อให้ดี เพราะบางอันดูคลิปทำตามง่ายกว่า แต่ถ้ามีรายละเอียด งานเขียนบทความจะดีกว่า จุดเด่น: เราสามารถบรรยายเป็นข้อได้ ใส่หมายเหตุได้ ความละเอียด: ใช้การเขียนเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องราวหรือให้ข้อมูลเชิงลึก ยิ่งละเอียดเท่าไร โอกาสที่คนจะกลับมาอ่านซ้ำยิ่งมีมากขึ้น และคนที่อ่านแล้วชอบก็จะทำการแชร์บทความนั้น เพิ่มยอดอ่านได้ ความน่าเชื่อถือ: เน้นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และมาจากประสบการณ์จริงที่ผู้อ่านสามารถนำไปทำตามได้ หลายครั้งที่เราดูคลิปแล้ว ทำไม่ได้จริง เช่น อาหาร การทำความสะอาด ถ้าคนอ่านแล้วทำไม่ได้จะไม่กลับมาอ่านซ้ำ สุดท้าย เราก็หวังว่า ยังคงมีคนรักบทความ รักงานเขียน พร้อมที่จะปรับตัว และ พัฒนาคุณค่างานบทความของเราให้สามารถแก้ปัญหาให้กับคนอ่านที่อยากหาข้อมูล ได้ข้อมูลที่ตรง ครบถ้วน และช่วยให้ผู้อ่านมีความสุข เดรดิตภาพประกอบโดยผู้เขียน bepaopao เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !