เจ้าของรถที่ทำประกันแล้ว มักคิดว่ารถตนเองเมื่อมีประกันแล้วก็มักจะไม่สนใจ ไม่ศึกษาสิทธิของตนเองตามคู่มือที่บริษัทประกันส่งมอบให้พร้อมกับตารางกรมธรรม์ ว่าตนเองมีสิทธิและหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมาเห็นหรือศึกษาอีกครั้งก็เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วซึ่งอาจไม่ทันการก็เป็นได้ ผมจึงขอเชิญชวนคุณมาดูกันเลยว่า เมื่อคุณทำประกันรถแล้ว คุณมีสิทธิอะไรบ้าง 1. เรื่องการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งหากกรณีบริษัทประกันเป็นผู้บอกเลิกต่อผู้เอาประกันไม่ว่าโดยทางหนังสือหรือทางอิเล็กทรอนิกส์ (mail ) ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้เอาประกัน ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อให้ผู้เอาประกันมีเวลาในการที่จะหาบริษัทประกันแห่งใหม่เข้ามาคุ้มครองแทน แต่ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเป็นผู้บอกเลิกเองไม่ว่าทางหนังสือหรือทางอิเล็กทรอนิกส์ มีสิทธิให้กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นสุดลงได้ทันที ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนหรือจะระบุวันเวลาในหนังสือให้เป็นวันใดก็ได้ ดังนั้นเมื่อมีการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว ผู้เอาประกันมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืน ตามอัตราการคืนเบี้ยประกันภัย 2. การประกันตัวผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่นั้น โดยทั่วไปกรมธรรม์ประกันภัย จะมีการขายความคุ้มครองนี้ไว้เป็น ความคุ้มครองเพิ่มเติมอยู่แล้ว โดยขึ้นอยู่กับวงเงินไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ ในกรมธรรม์ เว้นแต่ผู้เอาประกันจะปฏิเสธที่จะซื้อความคุ้มครองส่วนนี้เอง ซึ่งการประกันตัวผู้ขับขี่นั้นจะทำหน้าที่คือ เมื่อผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ในคดีอาญา ยกตัวอย่างเช่น ผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่ขับรถคันเอาประกันไปชนกับรถคันอื่น และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีและมีสิทธิที่จะควบคุมตัวผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่ ไว้ก่อนที่จะส่งฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งในชั้นนี้หากมีชื้อความคุ้มครองการประกันตัวเอาไว้ บริษัทประกันจะเป็นผู้ดำเนินการประกันตัวผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยื่นหลักประกันตามที่กฎหมายกำหนด โดยจำนวนเงินประกันตัวนั้น ขึ้นอยู่กับข้อหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดี โดยหลักประกันที่บริษัทประกันให้ความคุ้มครองนี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่ชั้นตำรวจไปจนถึงชั้นศาล ซึ่งหากไม่มีซื้อความคุ้มครองในส่วนนี้เอาไว้ ผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่ก็ต้องใช้หลักทรัพย์ของตัวเองเช่น เงินสด มาประกันตนเอง 3. เรื่องค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี ถ้าผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่ ต้องถูกคู่กรณีฟ้องต่อศาลให้ชดใช้ค่าเสียหาย เช่นนี้ ค่าใช้จ่ายที่ตามมานอกจากค่าเสียหายที่ถูกฟ้องให้ชดใช้แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือค่าใช้จ่ายและค่าวิชาชีพของทนายความ ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี ซึ่งบริษัทประกันจะเป็นผู้ว่าจ้างทนายความเข้ามาต่อสู้คดีแทนผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง เว้นแต่ผู้เอาประกันจะจ้างทนายความของตนเองเช่นนี้อยู่นอกเหนือความคุ้มครอง 4. ค่าดูแลขนย้ายรถยนต์คันเอาประกัน กรณีที่รถคันประกันไปเกิดอุบัติเหตุขึ้นจนรถยนต์ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ และต้องมีการใช้รถมายกลากรถยนต์คันเอาประกันไป ไม่ว่าจะยกลากไปที่สถานีตำรวจหรือไปที่อู่ซ่อม เช่นนี้บริษัทประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่ายกลากนี้ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 20 ของค่าซ่อม เช่นหากค่าซ่อมรถคันเอาประกันภัยซ่อมในวงเงิน 50,000 บาท ค่ายกลากจะได้รับความคุ้มครองที่วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท เป็นต้น 5. สิทธิของผู้เอาประกันที่จะใช้สิทธิเรียกร้องต่อบริษัทประกันเมื่อเกิดเหตุดังต่อไปนี้ อาทิ เช่น 5.1 กรณีกุญแจรีโมทที่ใช้เป็นระบบควบคุมการเปิดปิดประตูรถหรือสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่มีการใช้กันอยู่แพร่หลาย เกิดการสูญหายขึ้น กรณีนี้สามารถใช้สิทธิเรียกร้องหรือแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันรถได้ เพราะกุญแจรถนั้นถือเป็นอุปกรณ์ของรถ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ควบคู่ไปกับตัวรถยนต์ จึงอยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย เว้นแต่ว่าเป็นกรณีไปลืมกุญแจรถไว้ที่ใดที่หนึ่งแล้วหายก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง 5.2 ยางอะไหล่ของรถคันเอาประกันภัย ก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น มีไว้เพื่อประโยชน์ต่อการใช้รถ เพราะหากยางล้อรถล้อใดล้อหนึ่งเกิดฉีกขาดหรือระเบิดย่อมต้องใช้ยางอะไหล่มาใช้สำรอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อรถ ดังนั้นหากเกิดการสูญหายหรือถูกงัดขโมยไป ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้เช่นเดียวกันที่บริษัทประกันต้องชดใช้ และต้องชดใช้ 100% มิใช่ชดใช้เพียง 50% เนื่องมาจากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากการใช้งาน เพราะยางอะไหล่ที่ติดรถคันเอาประกันนั้น ยังมิได้มีการใช้งานจนเสื่อมสภาพ จึงควรต้องได้รับการชดใช้ 100% สิทธิของผู้ทำประกันรถ ทั้ง 5 ประการเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เจ้าของรถหรือผู้เอาประกัน ยังไม่รู้สิทธิของตนเอง จึงอาจเสียประโยชน์ในสิ่งที่ตนเองควรต้องได้รับ มิใช่ปล่อยผ่านไปโดยตนเองเป็นผู้แบกภาระเองเพื่อตัดความรำคาญยุ่งยากกับปัญหาที่เกิดขึ้น ผมจึงอาสามาชี้ช่องให้ทุกท่านที่ทำประกันรถพึงรับรู้รับทราบสิทธิของตนเองให้คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่ตนต้องเสียไปครับเครดิต ภาพหน้าปกเครดิต รูป 1 / รูป 2 / รูป 3 / รูป 4