เวเนซุเอลากล่าวกลาง UNSC สหรัฐฯ กำลัง "กรรโชกทรัพย์" ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ซามูเอล มอนคาดา เอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาประจำสหประชาชาติกล่าวในวันอังคารว่า การที่สหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา 2 ลำ เป็นการกระทำที่ “เลวร้ายยิ่งกว่าการปล้นของโจรสลัด” เรากำลังเผชิญกับอำนาจที่กระทำการนอกเหนือกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ชาวเวเนซุเอลาออกจากประเทศของเราและยกประเทศให้กับพวกเขาไป

เมื่ออ้างเกี่ยวกับการยึดน้ำมันของเวเนซุเอลาโดยสหรัฐฯ เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่คือการปล้นสะดม การลักขโมย และการล่าอาณานิคมเวเนซุเอลาอีกครั้ง” รัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่มีเขตอำนาจในทะเลแคริบเบียน

การประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ถูกจัดขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับการยึดเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อต้นเดือนนี้ สหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่ากำลังติดตามเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลาลำที่สามอยู่

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวหาประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาว่าเป็นผู้นำเครือข่ายค้ายาเสพติด และกล่าวว่ากลุ่มอาชญากรได้กระทำการโดยไม่ต้องรับโทษมานานเกินไปแล้ว

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ทรัมป์ได้สั่งให้กองทัพเรือปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันทุกลำที่ถูกคว่ำบาตร ทั้งเข้าและออกจากเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ทรัมป์ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯจะเก็บหรือนำน้ำมันดิบที่ยึดมาได้ไปขาย รวมถึงเรือเหล่านั้นด้วย

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เพิ่มกำลังทหารในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน โดยส่งทหารถึง 15,000 นาย พร้อมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบหลายลำเข้ามาในพื้นที่

นี่ถือเป็นการส่งกำลังทหารเข้าสู่ภูมิภาคครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯ บุกปานามาในปี พ.ศ. 2532 โดยมีเป้าหมายที่ประกาศไว้คือหยุดยั้งการลักลอบนำยาเฟนทานิลและโคเคนเข้าสู่สหรัฐฯ

สหรัฐฯ ได้โจมตีเรือที่อ้างว่าเป็นเรือลักลอบขนยาเสพติดของเวเนซุเอลา โดยเล็งเป้าไปมากกว่า 20 ลำ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า การโจมตีดังกล่าวอาจละเมิดกฎหมายที่ควบคุมความขัดแย้งทางอาวุธ

ส่วนไมเคิล วอลต์ซ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ตอบโต้ต่อที่ประชุมว่า สหรัฐฯ ไม่ยอมรับมาดูโรในฐานะผู้นำที่ชอบธรรมของเวเนซุเอลา ความสามารถของมาดูโรในการขายน้ำมันของเวเนซุเอลา ทำให้เขาสามารถอ้างอำนาจอย่างฉ้อฉลและดำเนินกิจกรรมก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้

ด้านรัสเซียและจีนกล่าวหาสหรัฐฯ ว่ากลั่นแกล้งและใช้ความก้าวร้าว โดยวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวต่อที่ประชุมยูเอ็นว่า สหรัฐฯ กำลัง “ทำลายเรือพลเรือนอย่างผิดกฎหมาย” ในทะเลแคริบเบียน พร้อมเตือนว่า ประเทศอื่นอาจตกเป็นเป้าหมายรายต่อไป และถือเป็น “ต้นแบบของการใช้กำลังในอนาคตต่อรัฐในลาตินอเมริกา”

ขณะเดียวกัน ซุน เล่ย ทูตจีนประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้สหรัฐฯ “ยุติการกระทำที่เกี่ยวข้องโดยทันที และหลีกเลี่ยงการยกระดับความตึงเครียดเพิ่มเติม” จีนคัดค้านการแทรกแซงจากภายนอกในกิจการภายในของเวเนซุเอลาไม่ว่าด้วยข้ออ้างใดก็ตาม

ด้านประธานาธิบดีมาดูโร ประกาศเมื่อวันอังคารว่า ประเทศของเขากำลังได้รับ “การสนับสนุนอย่างท่วมท้น” จากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ภายหลังการประชุมฉุกเฉินที่รัฐบาลเวเนซุเอลาขอ เพื่อหารือเกี่ยวกับความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐอเมริกา โดยมาดูโรกล่าวระหว่างการเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าในกรุงการากัส ซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของรัฐว่า “คณะมนตรีความมั่นคงกำลังให้การสนับสนุนเวเนซุเอลาอย่างล้นหลาม รวมถึงสิทธิในการเดินเรืออย่างเสรี และการค้าเสรี” 

การประชุมฉุกเฉินดังกล่าวนับเป็นครั้งที่สองตั้งแต่เดือนตุลาคม ที่มีการหารือในประเด็นนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่สหรัฐฯ ยังคงตรึงกำลังทหารใกล้เวเนซุเอลา และได้ยึดเรือที่บรรทุกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา

มาดูโรยังคงระบุว่าการยึดเรือของสหรัฐฯ เป็นการกระทำแบบ “โจรสลัด” และย้ำว่า “ไม่มีใครสามารถเอาชนะ” ประเทศของเขาได้

สหรัฐอเมริกาแสดงจุดยืนแข็งกร้าวในการประชุม โดยแจ้งต่อสหประชาชาติว่าจะบังคับใช้และดำเนินมาตรการคว่ำบาตร “อย่างถึงที่สุด” เพื่อพรากทรัพยากรจากรัฐบาลของมาดูโร