What-If Analysis คือเหมือนการถาม Excel ว่า "ถ้าแบบนี้จะเป็นยังไง?" ใช้เพื่อวางแผนหรือคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ เช่น อยากรู้ว่าเงินเดือนเท่านี้ ผ่อนบ้านยังไงไม่เจ็บตัว หรือขายของต้องกี่ชิ้นถึงจะได้กำไรเท่าที่ฝันไว้ 1. What-If Analysis มันคืออะไรนะ? What-If Analysis ใน Excel มีเครื่องมือเด็ด 3 อย่าง: Scenario Manager: สร้างสถานการณ์หลายแบบ เช่น "ถ้าขึ้นเงินเดือน 10% จะรวยแค่ไหน?" Goal Seek: บอก Excel ว่า “ฉันอยากได้ผลลัพธ์แบบนี้ ต้องเปลี่ยนค่าตรงไหนยังไง” Data Table: ช่วยดูผลลัพธ์หลายๆ แบบในคราวเดียว (เหมือนมองอนาคตหลายเส้นทางพร้อมกัน) แต่ในที่นี้จะพูดถึงข้อ 1 และ 2 เท่านั้นก่อนนะ 2. ใช้ Scenario Manager แบบเนียนๆ สมมติว่า... เรากำลังวางแผนรายจ่ายแต่ละเดือน เริ่มต้น: สร้างตารางง่ายๆ เช่น รายได้: 50,000 บาท รายจ่าย: 30,000 บาท เงินเหลือ: ใช้สูตร =รายได้-รายจ่าย ไปที่ Data > What-If Analysis > Scenario Manager กด Add แล้วตั้งชื่อสถานการณ์ เช่น "รายจ่ายขึ้น 10%" "รายจ่ายลด 5%" ใส่ค่าที่ต้องการในช่อง Changing Cells เช่น คอลัมน์ "รายจ่าย" กด Show เพื่อดูว่าแต่ละสถานการณ์มีผลยังไง ผลลัพธ์: เราจะเห็นว่าเงินเหลือของเราขึ้น-ลงเท่าไหร่ตามสถานการณ์ (กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย) (ใส่ข้อมูล Scenario 1) (ใส่ข้อมูล Scenario 1 ต่อ) (ใส่ข้อมูล Scenario 2) (ใส่ข้อมูล Scenario 2 ต่อ) (ลองกด Show ตาม Scenario ต่างๆ เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง) 3. ใช้ Goal Seek หาคำตอบในพริบตา สมมติว่า... เราอยากเก็บเงินได้ 300,000 บาทในปีนี้ แต่ไม่รู้ว่าต้องหารายได้เพิ่มแค่ไหน ใส่สูตรในเซลล์ที่คำนวณผล เช่น เงินที่อยากเก็บ = รายได้ - รายจ่าย ไปที่ Data > What-If Analysis > Goal Seek กรอกข้อมูล: Set Cell: เซลล์ผลลัพธ์ที่มีสูตร To Value: 400,000 (เป้าหมายเงินเก็บ) By Changing Cell: เซลล์รายได้ กด OK แล้ว Excel จะบอกว่าเราต้องหารายได้เพิ่มเท่าไหร่ (ตั้งรายรับรายจ่ายทั้งปีเอาไว้) (กำหนดเป้าหมายที่ต้องการ คือเงินเก็บ 300,000 บาท) (ดูผลลัพธ์จะเห็นว่าถ้าจะมีเงินเก็บให้ถึง 300,000 บาท จะต้องมีรายได้เพิ่มอีกเท่าใด) 5. ทริคสำหรับโปรจริงๆ (แต่ทำง่ายกว่าที่คิด) ลองผสมเครื่องมือเข้าด้วยกัน: ใช้ Scenario Manager + Goal Seek เพื่อดูหลายสถานการณ์พร้อมๆ กับตั้งเป้าหมาย ใช้ Pivot Table ช่วยเสริม: วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากใช้ Data Table หรือ Scenario Manager Visualize ด้วย Chart: แปลงผลลัพธ์เป็นกราฟเพื่อให้อธิบายง่ายขึ้น 6. สรุปง่ายๆ: ใช้ให้โปรแบบเนียนๆ Scenario Manager = สร้างสถานการณ์หลายแบบ Goal Seek = ตั้งเป้าหมายแล้วให้ Excel หาวิธีให้เรา แค่เข้าใจ 2 ตัวนี้ เราก็ใช้ Excel แบบเก่งกว่าคนทั่วไป 80% แล้ว! ลองเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันดูนะ รับรองว่าทั้งเพลินและงานไวขึ้นเยอะ! ภาพโดยนักเขียน หมีขั้วโลก ทอดกรอบ〔´(エ)`〕 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !