พืชสมุนไพรนั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด บางชนิดนั้นเราอาจคิดว่าเป็นเพียงวัชพืช จึงทำให้ไม่เห็นความสำคัญเท่าไรนัก และไม่ได้รับการอนุรักษ์ อีกทั้งบางครั้งเห็นว่าขึ้นรกก็อาจถอนทำลายทิ้งไปเสีย ซึ่งนั้นก็เป็นเพราะเรามีความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรน้อยมาก ทำให้สมุนไพรบางชนิดมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์สูง ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีการใช้ตัวยาแผนปัจจุบันเป็นหลัก แต่พืชสมุนไพรก็ยังมีความสำคัญและมีคุณค่าที่ควรได้รับการอนุรักษ์ไว้ ผู้เขียนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ในการนำข้อมูลของพืชสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาเผยแพร่ให้ข้อมูลเป็นความรู้แก้ผู้สนใจทั่วไป เพื่อให้พืชสมุนไพรกลับมาเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลของพืชสมุนไพรหนึ่งชนิด ที่หลายคนไม่ทราบว่ามีสรรพคุณสามารถรักษาโรคได้ และอาจคิดว่าเป็นเพียงวัชพืชเท่านั้น สมุนไพรชนิดนี้มีชื่อว่า “ผักกาดน้ำ” ที่หลาย ๆ ท่านคาดไม่ถึงว่ามีสรรพคุณไม่น้อยเลยทีเดียวภาพถ่ายจากผู้เขียนลักษณะของ “ผักกาดน้ำ” เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก โคนของลำต้นจะอยู่ติดกันพื้นดิน มีรากที่สั้นแต่จะแตกเป็นฝอยออกมามากโคนลำต้นมีกาบใบหุ้มอยู่ ลำต้นมีเนื้อที่อ่อนแต่มีอายุยืนหลายปี มักจะพบขึ้นมาตามท้องนา ท้องสวนที่มีดินนุ่มชื้น ใบจะแทงออกมาจากใต้ดินซ้อนกันเหมือนใบผักกาด ลักษณะของใบจะเป็นรูปไข่รี ปลายใบมน โคนใบจะกว้างกว่าปลายใบ ขอบใบเป็นหยักแบบคลื่นจากปลายใบจนถึงโคนใบ ดอกเป็นช่อ โดยช่อดอกจะชูขึ้นมาจากกลางกอ มีดอกย่อยขนาดเล็ก แห้ง เป็นสีเขียวอ่อนหรือสีน้ำตาล และไม่มีก้านดอก ผลจะอยู่ในดอก ลักษณะเป็นผลแห้ง ค่อนข้างกลม มีรูปร่างไม่แน่นอน ผลมีขนาดเล็กสีเขียวอมสีน้ำตาลหรือเป็นสีน้ำตาลถึงสีดำ เมื่อสุกแล้วจะแตกออกภาพถ่ายจากผู้เขียนสรรพคุณของ “ผักกาดน้ำ” แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ แก้กษัย ลดความดันโลหิต แก้โรคตาแดง แก้ร้อนใน แก้เจ็บคอ แก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ ช่วยขับเสมหะ แก้เลือดกำเดาไหล แก้ท้องร่วง แก้ลำไส้อักเสบ แก้บิด รักษาแผลหายยาก แก้เคล็ดขัดยอก แก้เส้นเอ็นพลิกภาพถ่ายจากผู้เขียนเมื่อสมัยที่ผู้เขียนเป็นเด็กนั้น เห็นต้น “ผักกาดน้ำ” ขึ้นอยู่ในจำนวนมากในทุ่งนาที่เกี่ยวข้าวแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าเป็นเพียงแค่วัชพืชทั่วไปไม่สามารถนำมาทำประโยชน์อะไรได้ จนมีครั้งหนึ่งผู้เขียนป่วยเป็นโรคตาแดงปู่ได้นำต้นของ “ผักกาดน้ำ” ทั้งต้น มาล้างน้ำจนสะอาด แล้วล้างด้วยน้ำเกลืออีกที จากนั้นนำมาต้ม ประมาณ 15 นาที ให้ผู้เขียนดื่ม เช้าและเย็นวันและแก้วติดต่อกัน 3 วันก็ทำให้หายจากอาการตาแดง อีกทั้งยังเป็นยาช่วยขับเหงื่อและปัสสาวะได้เป็นอย่างอีก ปู่ยังบอกอีกว่า การดื่มน้ำต้น “ผักกาดน้ำ” ต้มนั้นยังช่วยรักษาอาการลำไส้อักเสบและท้องร่วงได้ผลดีมากที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณบางส่วนที่ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์มาเท่านั้น ซึ่งนอกจากนี้ “ผักกาดน้ำ” ยังสามารถนำมาเป็นยารักษาอาการได้อีกมาก และสามารถนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นประกอบเป็นยารักษาโรคได้อีกหลายอาการ ซึ่งผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะทำให้ทุกท่านหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับพืชสมุนไพรมากขึ้น เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป