รีเซต

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 'อบจ.' คุมเข้มรับกลยุทธ์ชิงเก้าอี้

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 'อบจ.' คุมเข้มรับกลยุทธ์ชิงเก้าอี้
มติชน
9 ธันวาคม 2563 ( 07:28 )
71
โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 'อบจ.' คุมเข้มรับกลยุทธ์ชิงเก้าอี้

เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายก อบจ. ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. โดยในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง และการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง

 

โดยจัดผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด และชุดเคลื่อนที่เร็วที่เป็นตำรวจ ทั้ง 76 จังหวัดร่วมกันลงพื้นที่หาข่าวในแต่ละพื้นที่ ตามกลยุทธ์การช่วงชิงคะแนนเสียงเพื่อคว้าชัยศึกเลือกตั้ง อบจ.

 

สำหรับการเตรียมความพร้อมของ กกต.นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. อธิบายว่า ประธาน กกต.บัญชาการให้มีการบูรณาการการทำงานเลือกตั้งร่วมกันทุกจังหวัด ในแต่ละจังหวัดหลังจากนี้ ชุดเคลื่อนที่เร็วและผู้ตรวจการเลือกตั้งจะได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผน ปฏิบัติหน้าที่ และลงพื้นที่พบกับผู้ใหญ่บ้านตามที่ปลัด มท. กำชับและให้ผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านในแต่ละจังหวัดให้ความร่วมมือเรื่องการให้ข้อมูลคนทุจริตซื้อเสียง เพราะเป็นผู้ปกครองในพื้นที่ตามกฎหมายย่อมรู้ความเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน หากต้องมีการจับกุมตรวจค้น กกต.จังหวัดสามารถขอหมายศาลและชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าค้นได้ แต่ถ้าพบว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านมีการปกปิด จะมีการประสาน มท.เพื่อดำเนินการ เหลืออีก 12 วันจะถึงวันเลือกตั้งยังไม่พบการหาเสียงผิดกฎหมายแต่ก็มีความเข้มข้นขึ้น

 

ประธาน กกต.ได้ตั้งมอตโตว่า 4 ประสานต้านทุจริตคือ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็วที่เป็นตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ต้องทำงานประสาน สอดรับกันจึงจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยประธาน กกต.ฝากว่า หลังจากนี้ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็วและ ผอ.กกต.ทุกจังหวัด ตั้งกลุ่มไลน์ รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ เกิดเหตุในจุดใดก็จะได้ร่วมมือกันปฏิบัติในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว และการที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเพิ่งเริ่มปฏิบัติงานวันนี้ก็ไม่ถือว่าช้า เพราะยิ่งใกล้วันเลือกตั้งสถานการณ์จะยิ่งเข้มข้น ขณะนี้ก็มีการรายงานทุจริตเข้ามาจากทั่วประเทศแล้ว 4-5 ราย ในลักษณะมีการสำเนาบัตรประชาชนใน 5-6 แห่ง กำลังตรวจมูลอยู่และรู้แล้วว่าเป็นใครบ้าง ใครเก็บบัตร กำลังติดตามอยู่ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นการกระทำโดยตัวผู้สมัครหรือทีมงาน พ.ต.อ.จรุงวิทย์อธิบาย

 

ส่วนการช่วงชิงคะแนนเสียง ผู้สมัครจากทั้งสังกัดพรรค ผู้สมัครอิสระ และผู้สมัครที่มีฐานเสียงเก่าในเครือข่ายของบ้านใหญ่ ต่างงัดกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงคะแนนจากประชาชน ตามแบบที่แต่ละฝ่ายถนัด

 

 

โดยผู้สมัครจากคณะก้าวหน้า นำคณะโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินหน้าทำหน้าที่ไว้ตั้งแต่ก่อนประกาศรับสมัครเลือกตั้ง อบจ. ชูประเด็นหาเสียงในเชิงนโยบายและเชิงอุดมการณ์ ซึ่งมีทั้งนโยบายรวมทั้งประเทศที่จะอาศัยพลังของ นายก อบจ.ในการขับเคลื่อนนโยบายที่จะสะเทือนไปถึงการเมืองระดับใหญ่ ขณะที่นโยบายเฉพาะพื้นที่ด้วยความที่คณะก้าวหน้าเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ การนำเสนอนโยบายในแต่ละพื้นที่จึงได้รับความสนใจจากประชาชนที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ อาทิ การจัดการขยะ การขนส่งสาธารณะ ผลักดันกฎหมายจังหวัดจัดการตนเอง

 

ขณะที่ผู้สมัครที่มีพรรคสนับสนุน นอกจากจะอาศัยฐานเสียงและคะแนนนิยมของพรรคในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งยังส่งระดับคีย์แมนพรรคไปลงพื้นที่ปราศรัยช่วยผู้สมัคร อย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรค พท. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค พท. ด้านเศรษฐกิจ ไปปราศรัยขอคะแนนเสียงจากประชาชนชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องและราคาสินค้าเกษตรกรรม ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคม

 

ส่วนผู้สมัครในเครือข่ายของกลุ่มบ้านใหญ่ในแต่ละพื้นที่ จะใช้กลยุทธ์ความเป็นเจ้าของพื้นเก่าที่มีฐานเสียงของประชาชนสนับสนุนมาต่อเนื่องหลายปี รวมทั้งกลไกกับความสัมพันธ์ของภาครัฐบางส่วนในการสนับสนุน

 

นายบุญธรรม บุญหมื่น อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ อ.สารภี ในฐานะโฆษกกลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ระบุกลยุทธ์หาเสียง ช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนเลือกตั้งวัน ที่ 20 ธันวาคมนี้ ว่า นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง ผู้สมัครนายก อบจ.

 

หมายเลข 1 กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ และผู้สมัคร ส.อบจ. 42 เขต ใช้โอกาส ดังกล่าว เดินหน้าหาเสียงเต็มรูปแบบ ไม่มีวันหยุด ทั้งเปิดเวทีปราศรัยย่อย ใช้รถแห่ แจกแผ่นพับ เดินเคาะประตูบ้าน พบปะแกนนำและเครือข่ายเพื่อขอเสียงสนับสนุน

 

โค้งสุดท้าย แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ชุดใหญ่ จะปราศรัยหาเสียงช่วยจนถึงวันเลือกตั้ง มีเวทีปราศรัย ที่ อ.พร้าว และยังให้ผู้สมัคร ส.อบจ.ทุกคน เดินเคาะประตูบ้านเป็นหลักเพื่อปลุกพลังเงียบ สู้พลังเงิน เชื่อมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงŽ นายบุญธรรมกล่าว

 

ส่วนนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ. 2 สมัย ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 2 กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม กล่าวว่า ยังหาเสียงตามปกติ ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ใดเป็นพิเศษ เน้นเปิดเวทีปราศรัย เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา นำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนวิเคราะห์ และตัดสินใจด้วยตัวเอง พร้อมเรียกร้องความยุติธรรม และศักดิ์ศรีกลับคืนมาเท่านั้น ไม่โจมตี ใส่ร้ายป้ายสีใคร เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ไม่สับสน เพราะใช้วิจารณญาณเลือกใครเป็นนายก อบจ.ได้

 

 

ส่วนสนามเลือกตั้งที่ จ.นครราชสีมา การหาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ช่วงโค้งสุดท้าย ทุกคนยังคงมุ่งมั่นลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ 2 ได้ลงพื้นที่พบปะพ่อค้า และประชาชนในตลาดสดเทศบาลเมืองปัก อ.ปักธงชัย พร้อมกับแจกโบรชัวร์นโยบายให้กับประชาชนได้นำไปอ่าน ประกอบการตัดสินใจเลือกตั้ง

 

ส่วน นพ.สำเริง แหยงกระโทก ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 3 คู่แข่งคนสำคัญ ได้ลงพื้นที่ไปปราศรัยที่วัดสระจระเข้ ต.สระจระเข้ อ.ด่วนขุนทด กล่าวปราศรัยชู 3 นโยบายเร่งด่วนด้านการเกษตร

 

ช่วงใกล้โค้งสุดท้ายแล้ว แม้จะลงสมัครในนามอิสระ ไม่มีกลุ่ม ไม่มีพรรคพวก มีแต่พี่น้องโคราช ตนก็จะสู้ เพราะต้องการทำงานเพื่อบ้านเกิดของตน แหยงกระโทก คือ คนโคราช ตั้งใจมาทำงานเพื่อคนโคราชอย่างแท้จริง นพ.สำเริงกล่าวทิ้งท้าย

 

สำหรับในพื้นที่ภาคใต้อย่าง จ.สงขลา ผู้สมัครต่างเร่งเดินหน้าหาเสียง พบปะประชาชน โดยในช่วงโค้งสุดท้ายนั้นก็ได้เน้นวิธีการพบปะกลุ่มประชาชนที่เป็นกลุ่มก้อนมากขึ้น โดยคู่ชิง ในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา มี พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล จากทีมสงขลาประชารัฐ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ส่งลงสมัครในนามพรรคเพียงคนเดียวในประเทศ ส่วนคู่แข่งคน สำคัญคือ นายไพเจน มากสุวรรณ์ จากทีมประชาธิปัตย์ อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน เน้นลงพื้นที่ ร่วมกับผู้สมัคร สมาชิกสภา อบจ.ในแต่ละเขต

 

ส่วนปัญหาการร้องเรียนทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่ละพื้นที่นั้น กกต.ได้ทำงานสอบข้อร้องเรียนต่างๆ นายเสน่ห์ รักรงค์ ผอ.กกต.สงขลา กล่าวว่า ในขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้ว 1 เรื่อง

 

โดยทีมสงขลาประชารัฐ เป็นผู้ร้องซึ่งทางชุดสืบสวนสอบสวนได้รับเรื่องเอาไว้ ขั้นตอนก็จะต้องมีการตรวจสอบคำร้อง ว่าครอบคลุม มีข้อมูลเพียงพอที่จะตั้งเรื่องดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อหรือไม่

 

ขณะที่ พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมาวางมาตรการป้องปรามการทุจริตการเลือกตั้งอย่างเข้มงวด การส่งตำรวจชุดสืบสวน 9 ชุด พร้อมกับผู้ตรวจการ กกต.อีก 8 คน ลงพื้นที่หาข่าวแล้ว เป็นการทำงานป้องปรามการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งเชิงรุก ขณะเดียวกันการทำงานเชิงรับ จะมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 48 เขต เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาควบคู่กันไปด้วย

 

เหล่านี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้ง การแข่งขันย่อมดุเดือด เพื่อช่วงชิงคะแนนจากประชาชน