เรียกได้ว่าเป็นการเดินหน้าต่ออย่างไม่หยุดยั้ง สำหรับนโยบายส่งเสริม sorf power โดยสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Thailand Creative Culture Agency) หรือ THACCA ในวันที่ 28-30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานซอฟต์พาวเวอร์ฟอรั่มครั้งแรกของประเทศไทยขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ชื่องาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum ซึ่งภายในงานก็จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการแสดงนิทรรศการจากทั้ง 11 สาขาซอฟต์พาวเวอร์ไทย สำหรับใครก็ตามที่ไม่ได้ไปแล้วอยากจะรู้ว่าบรรยากาศภายในงานนั้นจะมีอะไรบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมเก็บตกบรรยากาศภายในงานดังกล่าวมารีวิวให้ได้อ่านกันแล้ว ไปดูเลย...เริ่มตั้งแต่บรรยากาศหน้างานจะมีการเข้าแถวต่อคิวรอเข้างานกันเป็นกลุ่ม ๆ มีการจัดระเบียบเรียบร้อยดี พอเข้าไปในงานก็จะมีนิทรรศการของทั้ง 11 อุตสาหกรรมให้ได้เดินเยี่ยมชมกันไปทีละจุด เริ่มด้วยอุตสาหกรรมแรกคืออุตสาหกรรมด้านหนังสือ มีการจัดแสดงรูปเล่มจำลองหนังสือขนาดใหญ่ มีบอร์ดสำหรับแนะนำหนังสือไทยให้ผู้ร่วมงานได้มีส่วนร่วมเขียนแนะนำอะไรก็ได้ บรรยากาศในโซนนี้ก็จะดูสบาย ๆ แล้วก็น่ารักถัดไปอีกนิดหน่อยก็จะมีโซนของอุตสาหกรรมด้านศิลปะ มีการจัดแสดงอาร์ตทอยต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชิ้นก็มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ติด ๆ กันก็จะเป็นอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น และอุตสาหกรรมด้านการออกแบบ มีการจัดแสดงผลงานของศิลปินในรูปแบบที่หลากหลาย ระหว่างทางก็จะมีบอร์ดที่ให้ความรู้รวมถึงเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าชมงานมากมายด้วยการให้เขียนบนกระดาษโพสอิทตามหัวข้อคำถามต่าง ๆ ที่น่าสนใจต่อเนื่องมาก็จะเป็นอุตสาหกรรมด้านดนตรี และอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล ซึ่งก็จะมีการจัดเวทีการแสดงดนตรีสดภายในงาน ให้ผู้ชมเดินมาเมื่อย ๆ สามารถหยุดนั่งพักฟังเพลงเบา ๆ ได้ นอกจากนี้ในนิทรรศการของอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัลยังมีการยกรถแห่เทียนพรรษาขนาดกลางจากจังหวัดอุบลราชธานี ที่แกะสลักสวยงามประณีตมาตั้งโชว์เอาไว้ในงานด้วย ซึ่งแค่ขนาดกลางก็เรียกได้ว่าโดดเด่นเป็นสง่า ไม่รู้ว่าขนาดใหญ่จะตระการตาแค่ไหน ซึ่งต่อมาก็จะเป็นในส่วนของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมด้านการกีฬาที่มีการยกสังเวียนมวยไทยมาโชว์ภายในงาน และยังมีการจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกางเกงมวยที่ดังไกลไปทั่วโลก แล้วยังมีพวกของที่ระลึกพวงกุญแจต่าง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในกีฬาดังกล่าวอีกมากมายเดินออกจากโซนกีฬามาก็จะเข้าสู่โซนของอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ ซึ่งในโซนนี้จะมีโดมที่ฉายตัวอย่างภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ไทยให้เข้าไปนอนดูกันได้แบบชิว ๆ ออกมาก็จะเป็นโซนของอุตสาหกรรมด้านเกม ที่แม้จะมีพื้นที่เล็ก ๆ แต่ทางทีมงานก็ขนอุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้เราได้เดินชมกันอย่างมากมาย มีเวทีโชว์การแข่งขันเกม แล้วยังมีมุมเล็ก ๆ สำหรับคนที่ชอบเล่นบอร์ดเกมด้วย ก่อนจะออกไปถึงโซนสุดท้ายคืออุตสาหกรรมด้านอาหาร ซึ่งจะมีนิทรรศการจัดแสดงวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์จากภูมิภาคต่าง ๆ และมีเวทีสัมมนาย่อย ๆ ด้วยในภาพรวมบรรยากาศงานก็เป็นไปอย่างเรียบร้อยดี พอเดินชมครบทั้ง 11 สาขา ก็รู้สึกว่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยนั้นยังมีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้อีกมากมาย ขอเพียงแค่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะในส่วนของภาครัฐก็มีการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามุ่งมั่นอยากจะพัฒนาศักยภาพของคนไทยให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในแง่มุม creative ซึ่งบางอย่างมันก็แสดงให้เห็นความเป็น thailand only แบบมีแต่คนไทยเท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีความพยายามจะรับฟังความคิดเห็นของผู้ชมภายในงาน ให้ร่วมระดมความคิดเห็นลงบนกระดาษโพสอิทตามจุดต่าง ๆ ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการปักหมุดเตรียมพร้อมออกเดินทาง หวังว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือทำให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะในความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ไปเดินเที่ยวชมงานนี้รู้ว่าอาจจะยังไม่ค่อยได้รับข้อมูลที่จะนำไปต่อยอดได้มากเท่าไหร่ แต่ที่มีแน่ ๆ แล้วก็คือแรงบันดาลใจ อยากให้มุ่งมั่นต่อไปเชื่อว่าความฝันนี้จะถูกเติมเต็มให้สมบูรณ์ได้อย่างแน่นอน ถ่ายภาพโดย : ต้นโอ๊คไกลเกาะทะเล, YimmyBussakorn เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !