ทุกคนเคยเป็นกันไหมค่ะ พอเราโตขึ้นถึงได้รู้ว่า บางอย่างไม่ต้องพยายาม “เพิ่ม” แค่ “ลด” มันออกไปจากชีวิต เราก็หายใจได้โล่งขึ้นเยอะ นี่คือ 5 อย่างที่เราเคยทำอยู่ทุกวันแบบไม่รู้ตัว แต่พอเลิกได้ ชีวิตก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ 1. เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น สนามของเขา ไม่ใช่สนามของเรา พอหยุดแข่งกับใคร ใจก็เริ่มชนะตัวเอง การเปรียบเทียบทำให้เรามองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง เหมือนวิ่งแข่งในสนามที่ไม่มีเส้นชัย เพราะไม่ว่าเราจะดีแค่ไหน ก็ยังมีคนที่ดีกว่าเสมอ พอหยุดเปรียบเทียบ เราเริ่มมองเห็นตัวตนของตัวเองชัดขึ้น และรักในสิ่งที่เราเป็นมากขึ้น ชีวิตก็เริ่มสงบ ความสุขก็ไม่ต้องรอจากข้างนอกอีกต่อไป 2. เลิกผูกชีวิตไว้กับใคร แม้จะสนิทแค่ไหน คนอื่นคือคนอื่น วันนึงเขาอาจเหนื่อยหรือเปลี่ยน เราเท่านั้นที่อยู่กับตัวเองไปตลอด ไม่มีใครเป็นที่พึ่งให้เราได้ตลอดไป ต่อให้วันนี้เขายังอยู่ พรุ่งนี้เขาอาจเปลี่ยนใจหรือเปลี่ยนทาง การวางใจไว้กับคนอื่นมากไป คือการเปิดโอกาสให้ตัวเองเจ็บโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเราอาจจะเคยคิดว่าความสัมพันธ์คือที่พึ่ง ถ้ารู้สึกแย่ เดี๋ยวคนคนนั้นจะเยียวยาให้ แต่เมื่อวันนึงเขาเหนื่อย เขาไม่เข้าใจ หรือเขาแค่ “ไม่ว่างจะเป็นที่พึ่ง” เราก็พัง มันไม่แฟร์เลย ที่เราฝากความรู้สึกไว้กับคนอื่นทั้งชีวิต พอเราเริ่มกลับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ก็เริ่มเข้าใจว่าไม่มีใครอยู่กับเราได้นานเท่าตัวเราเอง พอเราเริ่มพึ่งตัวเอง ชีวิตก็สงบขึ้นเยอะ 3. เลิกผลัดวันประกันพรุ่ง “พรุ่งนี้” ไม่เคยมาถึงจริง ทำเลยตอนนี้ เบาใจได้ไวกว่าเยอะ “ไว้ก่อน” คือคำหลอกลวงที่ดูไม่ร้ายแรง แต่ค่อยๆ พาเราแย่แบบไม่รู้ตัวเนื่องจากเป็นคำที่เราพูดกับตัวเองจนเคยชิน แต่ไม่มีอะไรหนักใจไปกว่าการปล่อยให้ทุกอย่างค้างคาอยู่ในหัว พอเลิกผัดวัน ชีวิตก็เหมือนเครื่องยนต์ที่ติดไฟทันที รู้สึกมีพลัง มีวินัย และรู้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับมือเรา ไม่ใช่พรุ่งนี้ 4. เลิกทำสิ่งที่เคยชินแต่ทำร้ายตัวเอง ความเคยชินบางอย่างไม่ใช่เซฟโซน แต่คือกรงที่ล่ามเราไว้กับอดีต ความเคยชินคือกับดักที่หลอกเราว่าปลอดภัย ทั้งที่จริงมันกัดกินเราอยู่เงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยแย่ๆ หรือวงจรความคิดลบ พอเลิกได้ แม้ยากในตอนแรก นอกจากนี้อาจบอกได้ว่า เราทุกคนมีนิสัยบางอย่างที่ทำไปเพราะ “ชิน” ไม่ใช่เพราะ “ดี” อาจจะเป็นการคิดลบกับตัวเอง, เลื่อนมือถือก่อนนอน, หรือฝืนทำบางอย่างเพื่อให้คนอื่นพอใจ แต่สุดท้ายมันบั่นทอนเราทีละนิด พอเรากล้าหยุด ลองเปลี่ยน ลองถอย…ก็พบว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลับกันมันทำให้เราเป็นคนใหม่ที่สบายใจขึ้นกว่าเดิมมากและรู้สึกว่าเราเป็นคนคนใหม่ที่ควบคุมชีวิตตัวเองได้มากขึ้น 5.โตขึ้นคือการตัดอะไรบางอย่างออกไป เพื่อให้เราเดินไปข้างหน้าได้แบบไม่หนักเกิน สื่อถึงความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับการเติบโตทางใจและการพัฒนาตัวเอง ซึ่งสามารถขยายความได้ดังนี้: เมื่อเราโตขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวสูงหรืออายุมากขึ้นเท่านั้น แต่คือการเรียนรู้ที่จะเลือกสิ่งที่ควรเก็บไว้ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้เราเจ็บปวด ความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง ความคิดลบ หรือแม้แต่บางความฝันที่ไม่เหมาะกับเราอีกต่อไป การ “ตัด” ในที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางอย่างเคยเป็นส่วนสำคัญของชีวิต แต่เมื่อเราแบกของที่ไม่จำเป็นมากเกินไป มันจะถ่วงเราไว้ ไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การเติบโตจึงหมายถึงการกล้าตัด กล้าปล่อย เพื่อให้เรามีพื้นที่ในใจมากพอสำหรับสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า และเดินต่อไปในชีวิตอย่างเบาใจและมั่นคงยิ่งขึ้น สรุปแล้วว่า บางทีการเติบโตไม่ใช่เรื่องของการ “เพิ่มเติม” อะไรเข้าไปในชีวิต แต่คือการ “เลิก” ทำบางอย่างที่ไม่จำเป็นกับเราจริง ๆ พอเราวางบางอย่างลงได้ ใจก็เริ่มเบา และเราเริ่มรักตัวเองในแบบที่เราเป็นได้มากขึ้นทุกวัน ใครที่กำลังประสบปัญหานี้หวังว่าบทความของเราจะช่วยให้คุณได้ทบทวนตัวเองมากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้มาก เครดิต ภาพประกอบจาก Canva: เทมเพลต canva creative studio Aldona Pivoriene / pixels ภาพประกอบ 3.1,3.2 Dajana Reçi / Pexels ภาพประกอบ 5 Efrem Efre / pixels ภาพประกอบที่ 6 ภาพปก ตกแต่งโดย Canva เนื้อหาประกอบภาพโดย creator Hometownsomi เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !