เจพีมอร์แกนเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย

ซีซีทีวีรายงาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25) นักวิเคราะห์ของ "เจพี มอร์แกน" ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประจำปีนี้ (2025) ลงร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1.3 พร้อมเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสร้อยละ 40 ที่จะประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ (2025)

นักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกนเตือนต่อไปว่า การเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงต่อสินค้าที่เข้าสู่สหรัฐฯ ตามนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยจะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคชาวอเมริกันและธุรกิจของสหรัฐฯ โดยในฝั่งผู้บริโภคจะกระทบกับอำนาจซื้อของผู้บริโภค ส่วนฝั่งธุรกิจจะส่งผลกระทบกับผลกำไรของบริษัทสหรัฐฯ จะหดแคบลง

พร้อมกับเตือนด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังน่าเป็นห่วงจากปัญหา 2 เรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือ ผลผลิตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง และปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ในยุคที่เรียกว่า "stagflation" คือเกิดสภาวะเศรษฐกิจชะงักเกิด พร้อมกับเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสภาวะทางเศรษฐกิจที่ผิดปกติ เนื่องจากปกติแล้วเงินเฟ้อจะเกิดเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว

เจพี มอร์แกนยังคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะใช้ความระมัดระวังกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียงไม่เกิน 100 จุดพื้นฐาน หรือร้อยละ 1 เท่านั้นภายในช่วงถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า (2026) การชะลอการลดดอกเบี้ยของเฟดนี้ จะนำไปสู่สภาวะการเงินตึงตัวมากขึ้นที่นานขึ้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันทั้งต่อธุรกิจและผู้บริโภคสหรัฐฯ ด้วย