หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องของธุรกิจเครือข่ายช่วยให้คนธรรมดาสร้างตัวขึ้นมาได้อย่างไร สำหรับผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มองว่า ในเมื่อไม่มีใครสอนเราทำธุรกิจ ธุรกิจเครือข่ายนี่แหละที่จะเป็นฝ่ายสอนเราให้รู้จักเรียนรู้Robert T. Kiyosaki และ Sharon L.Lechter จะมาบอกเล่าถึงข้อดีของธุรกิจเครือข่ายที่ใครหลายคนร้องยี้ เพราะทำให้คนเสียเพื่อนไปมากมาย แต่โรเบิร์ตมองว่าธุรกิจเครือข่ายคือโรงเรียนสอนธุรกิจ และเพื่อนจะไม่รังเกียจเราเลย ถ้าเราขายเป็นเนื้อหาภายในเล่มเครือข่ายที่ 1 ทำไมคุณถึงแนะนำธุรกิจนี้?เครือข่ายที่ 2 โอกาสที่ 1 : โอกาสในการเรียนรู้ธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณเครือข่ายที่ 3 โอกาสที่ 2 : โอกาสในการเปลี่ยนมาอยู่ด้านขวาของเงินสี่ด้านแทนที่เป็นแต่เพียงเปลี่ยนงานเครือข่ายที่ 4 โอกาสที่ 3 : โอกาสที่จะเข้าสู่ด้าน B ด้วยทุนในการเริ่มต้นและการดำเนินการที่ต่ำกว่าเครือข่ายที่ 5 โอกาสที่ 4 : โอกาสที่จะได้ลงทุนในธุรกิจประเภทเดียวกันกับที่คนรวยทำเครือข่ายที่ 6 โอกาสที่ 5 : โอกาสในการสร้างความฝันให้เป็นจริงเครือข่ายที่ 7 โอกาสที่ 6 : คุณค่าของธุรกิจเครือข่ายวัดด้วยอะไรเครือข่ายที่ 8 โอกาสที่ 7 : คุณค่าที่คุณประเมินตัวเองจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่คุณเป็นได้อย่างไรเครือข่ายที่ 9 โอกาสที่ 8 : โอกาสในการพัฒนาทักษะผู้นำของคุณเครือข่ายที่ 10 เหตุที่ทำให้ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายยังคงเติบโตต่อไปเครือข่ายที่ 11 จงขอให้ผู้สปอนเซอร์สอนวิธีเล่นให้กับคุณเครือข่ายที่ 12 พี่เลี้ยงที่ดีที่สุดในโลกพร้อมอยู่แล้วที่จะให้คำแนะนำกับคุณแนวคิดที่ได้ภายในเล่มในมุมมองของผู้เขียนการเข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายไม่ควรเป็นไปด้วยเหตุผลของเงินเป็นหลัก แต่เป็นเพราะกระบวนการอบรมต่างหาก การอบรมและการให้ความรู้จะทำให้เราเห็นว่ากระบวนการของเขามันเป็นอย่างไร ไม่ใช่ดูแค่ตัวสินค้า รายได้ แต่ต้องใช้เวลามากกว่านั้นเพื่อมองให้ออกว่ากระบวนการให้ความรู้ของเขามันดีจริงๆ วิชาความรู้ที่สำคัญที่สอนกันจากประสบการณ์จริงในธุรกิจเครือข่าย ได้แก่ทัศนคติสู่ความสำเร็จทักษะการเป็นผู้นำทักษะในการสื่อสารทักษะในการพบปะผู้คนการเอาชนะความกลัว ความสงสัย และความไม่มั่นใจในตัวเองการเอาชนะความกลัวจากคำปฏิเสธทักษะการบริหารเงินทักษะการลงทุนทักษะในด้านการสร้างความน่าเชื่อถือทักษะการบริหารเวลาการตั้งเป้าหมายการจัดระบบการให้กำลังใจกับตัวเองให้ลุกขึ้นมาใหม่เป็นสิ่งที่ยากกว่าการหาเงิน โรเบิร์ตแนะนำการตลาดแบบเครือข่าย ก็เพราะบริษัทเหล่านี้ให้ความใส่ใจในเรื่องของการสร้างกำลังใจด้วย นั่นทำให้การเลือกบริษัทที่ทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายจะต้องเลือกจากการเน้นพัฒนาตัวเรามากกว่าเน้นให้เราออกไปขายของ หรือขายแผนการตลาดของบริษัทการย้ายจากด้าน E (Employee หรือลูกจ้าง) ไปยังด้าน B (Business หรือผู้ประกอบการ) ต้องใช้มากกว่าเงินหลายเท่า ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายจะช่วยพาเราไปยังด้าน B ได้โดยที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและต้นทุนที่น้อยกว่าผู้ชนะที่แท้จริง รู้ว่าการแพ้เป็นส่วนหนึ่งของการชนะมีแต่ผู้แพ้เท่านั้นที่เข้าใจว่าผู้ชนะไม่เคยแพ้ ผู้แพ้คือผู้ที่ฝันว่าจะชนะและพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อเลี่ยงความผิดพลาดเราจะได้เงินมากก็ต่อเมื่อเราช่วยให้คนอื่นย้ายจากด้าน E (Employee หรือลูกจ้าง) และ S (Self employed หรือกิจการส่วนตัว) มาประสบความสำเร็จในด้าน B (Business หรือผู้ประกอบการ) และ I (Investor หรือนักลงทุน) ได้ หมายความว่า ถ้าเราใส่ใจกับการช่วยเหลือคนอื่นมากเท่าไร เราก็จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้มากเท่านั้นธุรกิจในด้าน B (Business หรือผู้ประกอบการ) ไม่มีขีดจำกัดในเรื่องรายได้และการขยายธุรกิจ การเรียนรู้เรื่องเล็กๆเพื่อที่จะมีประสบการณ์ไปทำเรื่องใหญ่ๆก็เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่ามัวเสียเวลาหาทางออกจากสนามแข่งหนู ด้วยการนำเงินไปลงทุนเหมือนคนทั่วไปเลย สร้างธุรกิจของตัวเอง แล้วนำเงินที่ได้ไปลงทุนแบบเดียวกับที่คนรวยทำคนที่ร่ำรวย ก็เป็นเพราะว่าเขามีความฝันใหญ่ ส่วนคนที่จนก็เพราะเขามีความฝันที่เล็ก ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ต้องเริ่มเปลี่ยนที่ความฝันของเราก่อน อย่ายอมให้ปัญหาการขาดเงินชั่วคราวครั้งนี้มาทำลายความฝันของเราได้คุณค่าทางเศรษฐกิจของเครือข่าย = จำนวนผู้ใช้ ยกด้วยกำลังสองเราจะเป็นอย่างที่ตัวเราคิด เราสามารถเลือกได้เสมอระหว่างความกลัวและความศรัทธา ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่เราคิดในที่สุด ความสามารถในด้านความเป็นผู้นำเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจที่อยู่ในด้าน B (Business หรือผู้ประกอบการ) เพราะคนในด้าน B จะมองหาคนที่ฉลาดกว่า มีประสบการณ์มากกว่า มีความสามารถมากกว่ามาทำงานให้หนังสือเล่มนี้ปรับใช้กับชีวิตประจำวันเราอย่างไรบ้างโรงเรียนสอนธุรกิจเล่มนี้กำลังบอกเราว่าธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่เป็นไปเพื่อหวังเงินแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมันต้องใช้ความอุตสาหะที่จะไม่ล้มเลิกไปเสียก่อน ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่แค่เป็นการคาดคั้นให้ผู้อื่นซื้อสินค้าจากเรา เราต้องขายให้เป็นเท่านั้นเองซึ่งเราจะเรียนรู้จากธุรกิจเครือข่ายนั่นเอง ความประทับใจของหนังสือเล่มนี้ก็คือมันเปลี่ยนทัศนคติผมต่อธุรกิจเครือข่ายไปอย่างสิ้นเชิงประการต่อมาก็คือธุรกิจเครือข่ายก็เหมือนกับการทำธุรกิจ มันมีความเสี่ยง แต่การขับรถออกไปทำงานทุกเช้ามันก็มีความเสี่ยง เพียงแต่เราเข้าใจความเสี่ยงของการขับรถดี การทำธุรกิจก็เช่นกัน ทั้งนี้เราก็ต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเองให้ดีว่าเรายอมรับความเสียหายในวงเงินเท่าไหร่ พอเรารู้ตัวเลขวงเงินนั้นแล้ว เวลาลงมือเริ่มต้นธุรกิจจะจำกัดความเสี่ยงได้บ้างประการที่สาม หนังสือเล่มนี้ช่วยลบล้างอคติต่อธุรกิจเครือข่ายให้กับผมได้ หลักการของการเลือกธุรกิจที่เราจะเข้าไปร่วมด้วยคือวิธีที่เขาสอน ที่เขาให้ความรู้ความเข้าใจในระบบการทำงาน โดยไม่หวังเงินเป็นหลัก หากใครมีความสามารถช่วยสอน ช่วยให้ความเข้าใจกับผู้คนได้ ความมั่งคั่งก็ย่อบังเกิดขึ้น ถ้าใครอยากเข้าร่วมในธุรกิจเครือข่ายจริงๆก็อาจเริ่มต้นจากหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ ส่วนตัวผมเองก้กำลังมองหาโอกาสที่ว่านั้นว่าจะเหมาะกับธุรกิจเครือข่ายของบริษัทไหนการทำธุรกิจอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำได้สำเร็จ ดังนั้น ธุรกิจเครือข่ายถือเสียว่าเป็นโรงเรียนให้เราได้ทำธุรกิจเป็น แล้วนำความรู้ที่เราลงมือทำเป็นแล้วไปสอนคนอื่นที่เข้ามาในธุรกิจเครือข่ายหน้าใหม่ มันอาจใช้เวลามาก กว่าจะเห็นผลขึ้นอยู่กับความทุ่มเทของเราด้วย เครดิตภาพภาพปก โดย 4045 จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย tirachardz จาก freepik.com ภาพที่ 4 โดย ktasimar จาก freepik.comบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูกรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนวัยรุ่นรีวิวหนังสือ WHY THE RICH ARE GETTING RICHER (ทำไมคนรวยยิ่งรวยขึ้น)รีวิวหนังสือ SECOND CHANGE โอกาสอีกครั้ง มั่งคั่งอีกหนรีวิวหนังสือ คนไทยฉลาดการเงินอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565