หมออินเดียโดนหลอกขายตะเกียงวิเศษ สูญเงินเป็นล้าน
เว็บไซต์ www.ndtv.com และ www.thehindu.com รายงานว่า ตำรวจอินเดียจับกุมตัวชาย 2 คน ในเมืองมีรัต รัฐอุตตรประเทศ ข้อหาหลอกลวงนายแพทย์รายหนึ่งด้วยการขายตะเกียงวิเศษของอาละดิน มูลค่า 3.1 ล้านรูปี (ราว 1.3 ล้านบาท) ที่อ้างว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ
นายแพทย์ลาอิก ข่าน เหยื่อที่ถูกต้มตุ๋นครั้งนี้ เปิดเผยว่า คนร้ายได้หลอกว่าตะเกียงวิเศษนี้สามารถเรียก “จีนี่” ออกมาได้ แล้วจะนำโชคลาภมาให้ โดยเขาได้พบกับคนร้ายทั้งสองหลังจากที่รักษาหญิงรายหนึ่ง ที่ถูกระบุว่าเป็น “แม่” ของนายอิครามุดดิน หนึ่งในผู้ต้องหา
นายแพทย์ข่านกล่าวว่า เขาได้เริ่มเดินทางไปยังบ้านของผู้ป่วย และได้พบกับนายอิครามุดดิน และนายอานีส คนร้ายอีกคนซึ่งเป็นน้องเขย และไปอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 1 เดือน โดยชายทั้งสองได้เริ่มเล่าเรืองเกี่ยวกับ “บาบา” ผู้มีพลังวิเศษที่ชายทั้งสองอ้างว่าเคยไปที่บ้านมาแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มล้างสมองของนายแพทย์ และขอให้นายแพทย์ได้พบกับ “บาบา”
ndtv รายงานว่า หลังจากนั้นนายแพทย์ข่านระบุว่า เขาได้พบกับบาบาที่แสดงพิธีกรรมต่างๆ ก่อนที่คนเหล่านี้จะเริ่มเสนอขาย “ตะเกียงวิเศษ” ให้ในราคา 15 ล้านรูปี (ราว 6.26 ล้านบาท) แต่นายแพทย์ข่านได้ขอต่อราคาเหลือเพียงแค่ 3.1 ล้านรูปีเท่านั้น ฝ่ายกลุ่มคนร้ายก็ได้พยายามบอกว่า ตะเกียงนี้จะนำมาซึ่งความร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง และความโชคดี พร้อมกับบอกว่า นี่คือตะเกียงของ “อาละดิน”
ขณะที่ thehindu รายงานว่า คนร้ายเสนอขายตะเกียงให้นายแพทย์ข่านในราคา 25 ล้านรูปี และนายแพทย์ข่านบอกว่า คนร้ายได้ขู่ว่าเขากำลังโชคร้าย ทำให้เกิดความกลัว และในที่สุด ตกลงที่จะซื้อตะเกียงในราคา 7 ล้านรูปี (ราว 2.9 ล้านบาท) พร้อมกับสั่งห้ามว่า ต้องห้ามใช้ตะเกียงเป็นเวลา 6 เดือน มิเช่นนั้นครอบครัวหมอจะพินาศ
อย่างไรก็ตาม นายอิครามุดดินให้การกับตำรวจว่า เขาได้เงินจากนายแพทย์ข่านเพียง 4 ล้านรูปี และเงินที่เหลือได้คืนให้กับเหยื่อไป เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น
นายแพทย์ข่านเล่าว่า ครั้งหนึ่งที่ไปบ้านของคนเหล่านี้ ปรากฏร่างของ “อาละดิน” ขึ้นมาจริงๆ ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าคนคนนี้คือใคร ก่อนที่จะมารู้ในภายหลังว่า เป็นหนึ่งในคนร้ายที่แต่งตัวเป็นอาละดินเท่านั้น
ทั้งนี้ ตำรวจเมืองมีรัต ได้จับกุมตัวคนร้ายทั้งสองพร้อมกับตะเกียงวิเศษ นอกจากนี้ ยังพบว่าคนเหล่านี้เคยหลอกคนอื่นๆ ในเมืองมาแล้วเกี่ยวกับตะเกียงวิเศษเช่นกัน โดยขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่เป็นหญิงอีกคนหนึ่งที่หลบหนีการจับกุมตัวไปได้