เกาหลีใต้ขึ้นแท่นอันดับ 1 เดินทางไปทำงานนานที่สุดในโลก

พนักงานชาวเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับเวลาการเดินทางไป-กลับที่ยาวนานที่สุดในโลก เฉลี่ยวันละ 108 นาที ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพสาธารณะที่รุนแรง เกินกว่าจะเรียกว่า “ความไม่สะดวกสบาย” ได้อีกต่อไป

การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences โดยนักวิจัยจาก Autonomous University of Barcelona และ McGill University ระบุว่า เกาหลีใต้ติดอันดับ 1 จาก 43 ประเทศที่สำรวจเรื่องระยะเวลาการเดินทาง โดยค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 68 นาที ขณะที่โมร็อกโกมีเวลาการเดินทางสั้นที่สุดที่ 48 นาที ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเกาหลีใต้

การเดินทางยาวนานเชื่อมโยงกับโรคอ้วน ความดันสูง และอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยศาสตราจารย์โช ซู-ฮยอน แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชุงอัง อธิบายว่า การเดินทางนานทำให้เวลาสำหรับการออกกำลังกายและการเข้าสังคมลดลง ส่งผลให้ต้องรับประทานอาหารเย็นช้าหรือหลับพักผ่อนอย่างไม่มีคุณภาพ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างง่ายดาย ความสามารถในการออกกำลังกายลดลง และความดันโลหิตสูงได้

งานวิจัยระดับนานาชาติก็พบผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกัน งานวิจัยโดยคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่า ผู้ที่เดินทางเกิน 24 กิโลเมตรต่อวันมีความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างชัดเจนต่อการเกิดโรคอ้วนและการออกกำลังกายไม่เพียงพอ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยอูเมโอของสวีเดนติดตามข้อมูลบุคคลเป็นเวลา 14 ปี และพบว่าผู้หญิงที่เดินทางนานมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นถึง 54% เมื่อเทียบกับผู้ที่เดินทางระยะสั้นกว่า

การเดินทางที่ยาวนานยังกัดกร่อนกิจวัตรด้านสุขภาพที่จำเป็น เช่น การนอน การออกกำลังกาย และกิจกรรมผ่อนคลาย ศาสตรจารย์โชเตือนว่า ความเครียดจากการเดินทางที่นานสามารถทำให้ระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และโคเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและแม้กระทั่งการเสียชีวิต

เธอเสริมว่า ผู้ที่ต้องเดินทางยาวมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล รู้สึกโดดเดี่ยว หงุดหงิดง่าย ความสามารถในการคิดลดลง คุณภาพการนอนแย่ลง และมีปัญหากล้ามเนื้อและกระดูก

ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า หลายคนไม่สามารถลดเวลาการเดินทางได้จริง เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยและที่ตั้งของสถานที่ทำงาน จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพระหว่างเดินทางมากขึ้น

ด้านศาสตราจารย์อี ซัง-ยุน ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชุงอัง แนะนำว่า เวลานั่งในระบบขนส่งสาธารณะ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง นั่งให้สะโพกชิดพนักพิง และตั้งคอ หลัง และไหล่ให้ตรง เพื่อลดแรงกดบนกระดูกสันหลังและข้อต่อ

เขายังกล่าวว่า ผู้ที่ยืนระหว่างเดินทางควรยืดเข่าและข้อเท้าเป็นระยะ ๆ รวมถึงยกส้นเท้าขึ้นและลงเป็นจังหวะซ้ำ ๆ หากใช้สมาร์ทโฟนหรืออ่านหนังสือ ควรหมุนคอซ้าย-ขวาทุก 20 นาที เพื่อป้องกันอาการตึง