มารู้จัก Command-Line Interface ของ linux และ Mac os กันเถอะ สำหรับท่านใดที่ใช้ระบบปฏิบัติการ linux และ เขียนโปรแกรมคงรู้จัก terminal เป็นอย่างดี แต่บางท่านอาจจะยังไม่รู้จัก ก่อนอื่นคงต้องแนะนำ terminal คราวๆให้ทุกท่านได้รู้จักกันก่อนการใช้งานระบบปฏิบัติการ linux ผู้ใช้งานสามารถสั่งการทำงานได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ 1.การกดการใช้เมาส์ปกติที่เราใช้กันใน windows 2.การเขียนคำสั่งการทำงานผ่านโปรแกรม terminal (terminal ของ linux ) รูปภาพโดย SONE4EVA (terminal ของ mac os ) รูปภาพโดย SONE4EVA แต่สำหรับท่านใดที่ไม่ได้ใช้ linux หรือ mac os แต่ใช้ windows ท่านก็ยังสามารถใช้โปรแกรม command prompt ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับ terminal ได้ ( command prompt ) รูปภาพโดย SONE4EVA การที่เราจะใช้งาน terminal ให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ ต้องรู้คำสั่งว่าแต่ละคำสั่งทำงาน อย่างไร ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับ os ของเรา เราจะเปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆอย่างไร เราจะปิดใช้งานโปรแกรมต่างๆอย่างไร เอาละกล่าวมานานพอสมควรแล้วเรามาเริ่มรู้จักคำสั่งพื้นฐานกันก่อนดีกว่า เริ่มกันเลยถ้าต้องการแสดงรายการไฟล์และโฟล์เดอร์ในรูปแบบของต้นไม้command —> treeก่อนที่จะใช้งานต้องติดตั้ง tree ก่อน ซึ่งสามารถติดตั้งผ่านคำสั่งนี้ --> sudo apt install tree ( เขียนคำสั่งติดตั้ง tree ) รูปภาพโดย SONE4EVAหลังจากที่รันคำสั่งติดตั้ง tree ใน terminal ไป ต่อไปให้รันคำสั่ง tree พอ enter จะแสดงข้อมูลออกมาเป็น รูปแบบต้นไม้ดังภาพข้างล่า ( ลักษณะของ terminal หลังจากรันคำสั่ง tree ) รูปภาพโดย SONE4EVA2. คำสั่งแสดงตำแหน่งโฟลเดอร์ที่ทำงานอยู่ถ้าต้องการทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ในโฟลเดอร์ไหนทำงานอยู่ส่วนไหนของโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ใช้คำสั่งนี้เลย command —> pwd 3. การเปลี่ยนโฟลเดอร์ทำงานถ้าหากต้องการเปลี่ยนโฟลเดอร์ที่ทำงานจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่ง หรือต้องการเข้าถึงในโฟลเดอร์นั้นให้ใช้คำสั่ง cdcommand —> cd แล้วตามด้วยชื่อโฟลเดอร์ ที่ต้องการเปลี่ยนไปอยู่เช่น cd snsd ถ้าหากใช้ cd เฉยๆจะเป็นการย้ายไปที่ root directory , ถ้าอยากย้ายการทำงานเข้าไปใน desktop ก็แค่ใช้ cd desktop 4.การแสดงรายการไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ถ้าต้องการทราบว่าในโฟลเดอร์นี้ที่เราทำงานอยู่มีไฟล์หรือโฟลเดอร์อะไรบ้างสามารถใช้คำสั่ง ls เพื่อดูไฟล์ได้เลยcommand —> lsกรณีที่คอมพิวเตอร์ทำงานอยู่ในโฟลเดอร์ที่ต้องการทราบอยู่แล้ว สามารถใช้คำสั่ง ls ได้เลย แต่ถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ได้ทำงานอยู่ในโฟลเดอร์นั้นให้ใช้ ls แล้วตามด้วยชื่อไฟล์เช่น ls desktop 5.การ copy ไฟล์ถ้าหากต้องการ copy ไฟล์โดยใช้ terminal สามารถใช้คำสั่ง cp แล้วตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการที่จะ copycommand —> cp เช่น cp file.txt 6.การย้ายไฟล์ไปที่ โฟลเดอร์อื่นcommand —> mv แล้วตามด้วยชื่อ ไฟล์ที่ต้องการย้าย แล้วตามด้วยชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการย้ายไปอยู่เช่น mv yoona /snsd/ (หมายถึงการย้ายโฟลเดอร์ yoona ไปอยู่ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่า snsd ถ้าเราลอง ls snsd ดู เราจะเห็น yoona อยู่ใน snsd) 7.การลบไฟล์ถ้าต้องการลบไฟล์ให้หายไปสามารถใช้คำสั่ง rm แล้วตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการลบcommand —> rm แล้วตามด้วยชื่อไฟล์เช่น rm taeyeon.txt (หมายถึง ให้ลบไฟล์ที่มีชื่อว่า taeyeon.txt) 8.การลบ directory หรือโฟลเดอร์ถ้าต้องการลบโฟลเดอร์ให้หายไปสามารถใช้คำสั่ง rmdir แล้วตามด้วยชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการลบcommand —> rmdir หรือ rm -rf แล้วตามด้วยชื่อโฟลเดอร์เช่น rmdir snsd (หมายถึง ให้ลบโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่า snsd) 9.การสร้าง directory หรือ โฟลเดอร์ถ้าหากต้องการสร้างโฟลเดอร์ว่าง ๆ เก็บไว้ใช้งานสามารถใช้ mkdir แล้วตามด้วยชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการcommand —> mkdir แล้วตามด้วยชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการสร้างเช่น mkdir snsd 10.ถ้าต้องการสร้างไฟล์ถ้าหากต้องการสร้างไฟล์ เก็บไว้ใช้งานสามารถใช้ touch แล้วตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการcommand —> touch แล้วตามด้วยชื่อไฟล์เช่น touch mk.txt (หมายถึง ให้สร้างไฟล์ที่มีชื่อว่า mk ซึ่งเป็นนามสกุล txt หรือที่เรียกกันว่าไฟล์ text) 11.การค้นหา content ใน text filescommand —> grep แล้วตามด้วยชื่อไฟล์เช่น grep mk.txt 12.การแก้ไข text filesถ้าหากอยากจะเปิดไฟล์เพื่อแก้ไขข้อมูลด้านในไฟล์ สามารถใช้คำสั่ง nano แล้วตามด้วยชื่อไฟล์command —> nano แล้วตามด้วยชื่อไฟล์เช่น nano nk.txt (หมายถึงเปิดไฟล์ nk.txt เพื่อแก้ไข) 13.ถ้าต้องการที่จะรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ใน user ที่ชื่อว่าอะไรปกติแล้วเวาลาที่เราใช้งานใน linux หรือ mac os ก็ต้องมี account ในการเข้าใช้งาน ถ้าเราต้องการรู้ว่าเราเข้าใช้งานอยู่ใน account ไหนสามารถใช้คำสั่ง whoami ได้เลยcommand —> who หรือ whoami หรือ groups 14.ถ้าต้องการที่จะเพิ่ม user เข้าไปใน osถ้าต้องการเพิ่มaacount ของผู้ใช้งานสามารถเพิ่มได้ด้วยคำสั่ง adduser แต่คุณต้องมี user และ password ของ admin ถึงจะสามารถสร้างเพิ่มได้command —> adduser แล้วตามด้วยชื่อ userเช่น adduser jack 15.ถ้าต้องการที่จะลบ user ใน osถ้าต้องการลบ aacount ของผู้ใช้งานสามารถลบได้ด้วยคำสั่ง deluser แต่คุณต้องมี user และ password ของ admin ถึงจะสามารถสร้างลบได้command —> deluser แล้วตามด้วยชื่อ userเช่น deluser jack 16.การออกจาก manualถ้าหารคุณต้องการออกจาก manual หรือ สิ่งต่างๆที่กำลังรันอยู่ใน terminal สามารถออก หรือหยุดด้วย qcommand —> q 17.ถ้าต้องการให้โปรแกรมต่าง ๆ หยุดทำงานการที่เรามีโปรแกรมหลาย ๆ โปรแกรมที่ทำงานอยู่ในเครื่องเรา อาจจะทำให้เครื่องทำงานช้า เพราะฉะนั้นเราสามารถ kill โปรแกรมที่เราไม่ได้ใช้งานด้วยคำสั่ง kill แล้วตามด้วยชื่อโปรแกรม เพื่อให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้เราขึ้นcommand —> kill แล้วตามด้วยชื่อโปรแกรมเช่น kill firefox หรือ ถ้าต้องการหยุดการทำงานทุกโปรแกรมสามารถใช้ killall เจ้าของบทความหวังว่า command ทั้ง 17 จะสามารถช่วยท่านใช้งาน terminal ได้สะดวกยิ่งขึ้นขอบคุณข้อมูลจาก https://www.w3schools.com/whatis/whatis_cli.asp