ศบค.คลอดเกณฑ์คุมโควิด ย้ำไร้ประกาศเคอร์ฟิว

การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ในเดือนเมษายน มีผู้ติดเชื้อทำสถิติใหม่รายวัน ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) ต้องเพิ่มมาตรการควบคุมป้องกันเข้มข้นขึ้น โดยเมื่อวันที่ 16 เมษายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ในทางยุทธศาสตร์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ต้องไปดูพื้นที่ที่มีอัตราติดเชื้อสูงมาก ซึ่งพบว่าอยู่ใน จังหวัดสีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยมีการติดเชื้อประมาณ 3 หลักขึ้นไป มี 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า และ สีส้ม หรือพื้นที่ควบคุม มี 59 จังหวัดที่เหลือ มีข้อกำหนด ประกอบด้วย ข้อที่ 1 ห้ามกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ได้แก่ 1.ห้ามใช้อาคาร สถานที่เพื่อจัดการเรียน การสอนทุกประเภท รวมถึงการสอบและฝึกอบรม แต่หากไม่สามารถงดจัดได้ เช่น การสอบของโรงเรียนนานาชาติ ที่ต้องสอบพร้อมกันทั่วประเทศหรือทั่วโลก ก็ให้ทำเรื่องขออนุญาต 2.ห้ามทำกิจกรรมที่รวมคนมากว่า 50 คนขึ้นไป เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ข้อที่ 2 การปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร ได้แก่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด หรือกิจการที่คล้ายกัน อย่างน้อย 14 วัน ข้อที่ 3 สำหรับพื้นที่ควบคุมสุงสุด 18 จังหวัด มีมาตรการย่อย ดังนี้ 1.การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเปิดร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. แต่ซื้อกลับบ้านได้ถึง 23.00 น. 2.งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านเด็ดขาด 3.ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า เปิดได้ตามเวลาปกติและปิดในเวลา 21.00 น. 4.ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน เปิดได้ถึงเวลา 23.00 น. โดยให้เริ่มเปิดในเวลา 04.00 น. และ 5.สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกายเปิดได้ถึง 21.00 น. สามารถจัดกิจกรรมแข่งกีฬาได้แต่ต้องจำกัดผู้เข้าชม มาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนเป็นต้นไป

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับมาตรการย่อยของพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด จะคล้ายกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด แต่ร้านอาหารสามารถนั่งในร้านและให้ปิดร้านในเวลา 23.00 น. แต่ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ ส่วนห้างสรรพสินค้าเปิดได้ถึง 21.00 น. เช่นเดียวกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด ข้อที่ 5 การงดหรือเลี่ยงเดินทาง ขอให้ชะลอการเดินทางที่ไม่มีเหตุจำเป็นออกไป เลี่ยงการเดินทางเข้าเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ข้อที่ 6 ขอความร่วมมืองดจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ หรือเลื่อนออกไปก่อน ข้อที่ 7 ขอความร่วมมือมาตรการทำงานจากที่บ้าน(Work From Home) ซึ่งขอให้ภาครัฐดำเนินการเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่ามาตรการวันนี้ไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวแต่อย่างใด