รีเซต

'หวย 30ล.' ไม่จบ ภาคต่อมหากาพย์ รอลุ้นอวสาน

'หวย 30ล.' ไม่จบ ภาคต่อมหากาพย์ รอลุ้นอวสาน
มติชน
27 ตุลาคม 2563 ( 08:24 )
82
'หวย 30ล.' ไม่จบ ภาคต่อมหากาพย์ รอลุ้นอวสาน

มหากาพย์หวย 30 ล้าน หรือกรณีครึกโครมว่าด้วย ปัญหาใครเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 หมายเลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่เป็นข่าวครึกโครมตั้งแต่ปลายปี 2560

 

เริ่มต้นจาก ปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี อ้างว่าซื้อลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลดังกล่าวมาจาก รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น ที่บริเวณหลังศาลพระพรหม ตลาดเรดซิตี้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี แต่ทำหล่นหายไป

 

ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี นำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ ไปขึ้นเงินที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล รับเงิน 30 ล้านบาท โดยถอนเงินจากธนาคารไป 5,500,000 บาท คงเหลืออยู่ในบัญชีธนาคารอีก 24,350,000 บาท


ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่ง ในข้อหาละเมิด ลาภมิควรได้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี มีหนังสือถึงธนาคารกรุงไทย ให้อายัดเงินในบัญชี

 

ครูปรีชา ยังฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ในคดีอาญา ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีประทับรับฟ้องในข้อหา ‘ยักยอกทรัพย์ รับของโจร’ คดีอาญาจึงถือเป็นคดีหลัก ศาลจึงจำหน่ายคดีแพ่ง เพื่อรอฟังคำพิพากษาในคดีอาญา

 

วันที่ 4 มิถุนายน 2562 ศาลชั้นต้นจังหวัดกาญจนบุรี มีคำพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญ โดยระบุว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง

 

จากนั้น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายส่วนตัวของหมวดจรูญ ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีธนาคารของหมวดจรูญ กระทั่งวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งอายัดเงิน จากนั้นหมวดจรูญได้ปิดบัญชีไป

 

แต่ครูปรีชาให้ นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความยื่นอุทธรณ์คดี โดยศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้เร็วขึ้นจากวันที่ 21 มกราคม 2564 มาเป็นวันที่ 20 ตุลาคม 2563

 

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องหมวดจรูญ ให้ระบุว่า พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เชื่อได้ว่านายปรีชา ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์คือสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ จึงไม่ได้เป็นผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับร.ต.ท.จรูญ จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง

 

ครูปรีชา ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะนำประเด็นต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วยไปปรึกษากับทนายความ เพื่อมาดูว่ามีความบกพร่องตรงจุดไหน ยังจะขอใช้สิทธิฎีกาต่อ

 

ด้าน วชิระ ทานท่า ทีมงานทนายความของครูปรีชา ระบุว่า เราเคารพในคำตัดสิน แต่เราคงจะต้องใช้สิทธิในการยื่นฎีกาต่อไป หากศาลไม่รับฎีกา คดีก็จะถึงที่สุด ฉะนั้นขึ้นอยู่ว่าศาลท่านจะรับฎีกาหรือไม่

 

ขณะที่ฝ่ายจำเลยที่ศาลยกฟ้องต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งหมวดจรูญ และภรรยา โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เน้นเรื่องหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะคลิปเสียง สัญญาณเบสโทรศัพท์ว่าขณะนั้นครูปรีชาอยู่ที่ไหน และคลิปเสียงที่ครูปรีชาอ้างว่าไปตลาดเรดซิตี้ ซึ่งคลิปเสียงบอกอย่างชัดเจนว่า ครูปรีชาออกจากโรงเรียนแล้วเดินทางไปรับลูก โดยเบสสัญญาณโทรศัพท์จับได้ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง

 

หลังฟังคำตัดสินแล้วเสร็จ เราได้ไปตรวจสำนวนที่เราได้ฟ้องเอาไว้ คือ ฟ้องครูปรีชา เจ๊พัช
(น.ส.พัชริดา พรมตา) และเจ๊บ้าบิ่น เรื่องการเบิกความเท็จ ในช่วงที่ครูปรีชาขออายัดเงินหมวดจรูญเอาไว้ และอีกหนึ่งสำนวนเกี่ยวกับเรื่องของการฟ้องเท็จ ซึ่งฟ้องครูปรีชาและนายวรยุทธ ทนายของครูปรีชาเอาไว้ คดีนี้เพิ่งขึ้นศาลเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ฝ่ายครูปรีชาขอเลื่อนคดีออกไปโดยอ้างว่าขอรอฟังคำพิพากษาในคดีหลัก ซึ่งศาลก็มีคำพิพากษาออกมาแล้ว ต่อจากนี้จะดำเนินต่อไปเกี่ยวกับการฟ้องเท็จเพื่อกลั่นแกล้งหมวดจรูญให้ได้รับโทษทางอาญา

 

“ส่วนที่ครูปรีชาหาช่องทางยื่นฎีกานั้น ขึ้นอยู่ที่ว่าศาลจะอนุญาตหรือไม่ แต่ผมคิดว่าคดีนี้คงจะจบแล้ว จากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับหมวดจรูญว่าจะเอาอย่างไรต่อไป แต่ที่ผ่านมาเราฟ้องไปแล้ว 2 สำนวน คือ เรื่องฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ขึ้นอยู่กับหมวดจรูญแล้วว่าจะตัดสินใจฟ้องพยานคนไหนบ้าง” ทนายตั้มระบุ

 

ด้าน ‘หมวดจรูญ’ กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า หลังจากนี้คงจะต้องฟ้องกลับ เพราะศาลได้คืนความเป็นธรรมให้ผมมาแล้ว ต่อไปนี้จะกลับมาเป็นเรื่องของผมบ้างที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม โดยจะเอาคืนจากคนที่ปั้นเรื่องปั้นราวขึ้นมาเพื่อที่จะให้ศาลลงโทษผม โดยจะฟ้องกลับทุกคนที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนจะฟ้องแพ่งหรือไม่คงจะพิจารณาก่อน เพราะที่ผ่านมาผมก็หมดไปเยอะ หมวดจรูญระบุ

 

ทนายษิทรา กล่าวเสริมว่า พยานบางคนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 เพราะในคำพิพากษาก็ระบุอยู่แล้วว่าในวันดังกล่าวครูปรีชาไม่ได้ไปที่ตลาดเรดซิตี้ แต่พยานมาเบิกความว่าเจอครูปรีชา มาคุยเรื่องเลข จนเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าหากศาลเชื่อในพยานที่เบิกความเหล่านี้ หมวดจรูญอาจถูกจำคุกได้ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่กองปราบฯ และ ปอท.ลงมาช่วยคลี่คลายคดี จนทำให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษายกฟ้อง

 

สำหรับบุคคลที่จะถูกฟ้องกลับ เช่น ครูปรีชา เจ๊เกียว (นางปณัญชยา สุขพูล) เจ๊พัช รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และนายแผน คาดว่าประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ น่าจะสรุปได้ว่าจะฟ้องใครเพิ่มเติมบ้าง ทนายษิทรากล่าวปิดท้าย

 

ทั้งนี้ ระหว่างการต่อสู้คดียาวนานนี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย มีจังหวะเกมพลิกไปพลิกมา เมื่อตำรวจกองบังคับการปราบปราม สรุปสำนวนคดีอาญาออกมา และดำเนินคดีกับครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น 4 ข้อหา แจ้งความเท็จ,ให้การเท็จ,กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และให้เจ้าพนักงานจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ

 

เป็นการพลิกคดีนี้อีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้ คณะทำงานตำรวจภูธรภาค 7 สรุปว่า เชื่อได้ว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวน่าเป็นของครูปรีชา และเตรียมจะแจ้งความดำเนินคดีกับหมวดจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ที่หายและรับของโจร

 

แต่ หมวดจรูญไม่ยอมจำนนง่ายๆ ไปร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สุดท้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้โอนคดีนี้มาให้กองปราบปรามทำ นำมาซึ่งผลสรุปดำเนินคดีกับครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น และทำให้ หมวดจรูญ รอดตัว ไม่ถูกดำเนินคดีตามที่ตำรวจภูธรภาค 7 จะแจ้งข้อหาก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ ยังมีตำรวจ 5 นาย ที่เกี่ยวข้องและมีชื่อของ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ขณะดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีด้วย แต่ต่อมาถูกสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 ขณะนั้นชี้ผลว่าลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชา

 

หากมองย้อนไปจะพบว่ามีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายคน ส่วนมากจะเป็นฝ่ายครูปรีชา ขณะที่ ฝ่ายหมวดจรูญ ส่วนมากจะเป็นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจพบลายนิ้วมือ ร.ต.ท.จรูญ บนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1

 

ส่วนทางครูปรีชา จะเป็นพยานบุคคลซึ่งมีหลายคน หลักๆ จะเป็นแม่ค้าขายลอตเตอรี่ ทั้ง เจ๊บ้าบิ่น, เจ๊เกียว, เจ๊พัช ที่ยืนยันว่าครูปรีชา เป็นคนซื้อลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล

 

ขณะนี้ ยังพูดได้ไม่เต็มปากนักว่า ปิดฉาก ‘คดีหวย 30 ล้าน’ เพราะครูปรีชา ยังไม่ยอมจบง่ายๆ พร้อมยืนยันว่าจะใช้สิทธิฎีกาต่อ

‘มหากาพย์หวย 30 ล้าน’ อาจมีภาคต่อ ที่จะพิสูจน์ต่อไปว่าใครจริง-ใครเท็จ อวสานจะจบที่คุกหรือที่ใด ต้องติดตาม