ไฟฟ้าชุมชนเกิดปีนี้ “สุพัฒนพงษ์”ชูนำร่อง

ทันหุ้น-สู้โควิด-กระทรวงพลังงาน เดินหน้าปรับเงื่อนไขโรงไฟฟ้าชุมชน ต้องสร้างใหม่ มีการปลูกพืชใหม่ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร คาดชัดเจนภายในต.ค.เตรียมเรียกผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาประชุม มั่นใจประกาศรับซื้อไฟฟ้าภายในปีนี้ นำร่อง 100-150 เมกะวัตต์ ส่วนการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณของ PTTEP ยันเดินหน้าตามแผน พร้อมเดินหน้าช่วยราคาพลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าสำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจะต้องมีการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร จะต้องให้เกิดการจ้างงาน มีการเม็ดเงินในระบบ โดยให้ความสำคัญกับพืชพลังงานที่ปลูกใหม่ เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าในโรงงานโดยตรง จึงจะต้องมีการพิจาณาเงื่อนไขใหม่ ทั้งการปรับราคาซื้อขาย การพิจารณาเรื่องความสมดุลของผลตอบแทน โดยจะมีการนัดเจรจากับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบเงื่อนไข เบื้องต้นจะมีโครงการนำร่อง ขนาดกำลังการผลิต 100-150 เมกะวัตต์โดยจะต้องเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ และมีการปลูกพืชพลังงานใหม่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ตอบโจทย์การสร้างงานหรือสร้างอาชีพเพิ่ม เกษตรกรจะต้องรวมตัวกัน ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนไม่ได้ปิดกั้นผู้ประกอบการรายเดิมที่มีความพร้อม หากแต่จะต้องปรับให้เข้ากับเงื่อนไขใหม่เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์

*เร่งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน

“โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเป็นโครงการที่ละเอียดอ่อน ต้องมีการพิจารณากลายส่วนมากๆแต่สุดท้ายจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร เกิดการจ้างงาน จึงต้องมีการไปพิจารณารายละเอียดใหม่ โดยจะมีการนัดเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน เกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆซึ่งจะไม่มีควิกวินแล้ว แต่จะเป็นโครงการนำร่อง 100-150เมกะวัตต์”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

ขณะที่นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีพัฒนาพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า สำหรับเงื่อนไขหลักเกณฑ์ ทุกส่วนที่มีการปรับใหม่ เช่นการปรับขึ้นราคารับซื้อ เรื่องของพื้นที่เพาะปลูก โดยจะต้องมีเจรจารายละเอียดเพิ่มเติมกับกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยด้วย รวมไปถึงการเจรจากับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน แต่จะตัดเรื่องของโซลาร์ออกเพราะมองว่าเกษตรจะไม่ได้รับประโยชน์ อย่างไรก็ดีคาดว่าจะจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคม 2563และนำเข้าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ต่อไป โดยเงินลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1 เมกะวัตต์ ต่อ 120ล้านบาท ระยะเวลาในการก่อสร้างจะอยู่ที่ประมาณ 1ปี โดยมั่นใจว่าจะสามารถประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ในภายในปลายปีนี้

*แหล่งเอราวัณเดินหน้าต่อ

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่ากระทรวงพลังงานก็ดำเนินการในหลายๆ เรื่อง ทั้งในส่วนของราคาพลังงานที่จะช่วยเหลือประชาชน การตรึงราคา LPG ไปจนถึงช่วงสิ้นปี เพื่อช่วยเหลือประชาชน เรื่องการนำเข้า LNG ก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มราคาพลังงานขณะนี้ราคาน้ำมันดิบ เฉลี่ยอยู่ที่ 40ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ก็อาจจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ราคาดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2563 แต่ยืนยันว่าการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ขณะนี้ทุกอย่างจะดำเนินการไปตามแผน อยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อมหลายๆ เรื่อง เช่นการทำ EIA เป็นต้น