Killzone 3 คือเกมที่ผมเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่สุดเกมหนึ่งในปีนั้นเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ Killzone 2 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกมแนว FPS บน PlayStation 3 ด้วยกราฟิกที่สวยงามสะดุดตา เกมเพลย์ที่เข้มข้นดิบเถื่อน และบรรยากาศสุดกดดันที่ทำให้ผมแทบหยุดหายใจ ผมจึงคาดหวังไว้สูงมากกับภาคต่อ และเมื่อ Killzone 3 วางจำหน่าย ผมก็รีบพุ่งตัวไปซื้อแผ่นเกมมาเล่นในทันที และแน่นอน Killzone 3 ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เกมภาคนี้ยกระดับคุณภาพขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงามยิ่งขึ้น เกมเพลย์ที่ลื่นไหลและหลากหลาย รวมถึงเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและน่าติดตามยิ่งกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้น Killzone 3 ก็ยังคงมีจุดอ่อนอยู่บ้าง ซึ่งผมจะขอพูดถึงในรีวิวนี้ กราฟิกและบรรยากาศ: งานศิลป์ชั้นยอดที่ทำให้โลกของเฮลแกนมีชีวิต สิ่งแรกที่ต้องชื่นชมเลยคือ กราฟิกของ Killzone 3 นั้นสวยงามอลังการงานสร้างจริงๆ! Guerrilla Games ทำงานได้อย่างน่าทึ่งในการรังสรรค์โลกของดาวเคราะห์เฮลแกนให้ดูมีชีวิตชีวาและน่าตื่นตาตื่นใจ รายละเอียดของฉากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฐานทัพเฮลแกสท์ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรกลขนาดมหึมา ป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ หรือพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ล้วนถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีตบรรจง ผมจำได้ว่าฉากเปิดเกมที่เราต้องบินหนีจากยานอวกาศที่กำลังระเบิด ภาพของเปลวเพลิงที่ลุกท่วม สะเก็ดระเบิดที่กระจายไปทั่ว และยานอวกาศที่แตกเป็นเสี่ยงๆ มันช่างอลังการและสมจริงจนผมขนลุก! นอกจากความสวยงามแล้ว บรรยากาศในเกมก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ Killzone 3 โดดเด่น ความรู้สึกอึดอัด กดดัน และสิ้นหวัง ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านสภาพแวดล้อมที่หดหู่ เสียงประกอบที่ชวนขนลุก และการแสดงอารมณ์ของตัวละคร ผมจำได้ว่ามีฉากหนึ่งที่เราต้องลอบเร้นผ่านฐานทัพเฮลแกสท์ เสียงฝีเท้าของทหารเฮลแกสท์ที่เดินลาดตระเวน เสียงเครื่องจักรที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง และบรรยากาศที่มืดมิด ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นระทึกตลอดเวลา เกมเพลย์: ดุเดือด เร้าใจ และหลากหลาย Killzone 3 ยังคงเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่เน้นความสมจริง แต่ภาคนี้มีการปรับปรุงระบบการควบคุมให้ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีขึ้น การเคลื่อนไหวของตัวละครทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการหน่วงหรือติดขัด ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างไหลลื่น อาวุธปืนในเกมก็มีให้เลือกใช้หลากหลายชนิด ตั้งแต่ปืนพก ปืนกล ปืนไรเฟิล ไปจนถึงอาวุธหนักอย่างจรวดมิสไซล์ แต่ละชนิดก็มีน้ำหนักและแรงถีบกลับที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การยิงปืนในเกมนี้มีความสนุกและท้าทาย ผมชอบปืนลูกซองมาก เพราะมันให้ความรู้สึกหนักแน่น และสามารถเป่าศัตรูให้กระเด็นได้ในนัดเดียว! สิ่งที่ผมประทับใจมากใน Killzone 3 คือระบบการต่อสู้ระยะประชิด ภาคนี้มีการเพิ่มท่าโจมตีระยะประชิดแบบใหม่ๆ เข้ามา เช่น การเตะ การต่อย การแทง และการใช้มีดปาดคอ ทำให้การต่อสู้กับศัตรูในระยะใกล้มีความดุเดือดและโหดเหี้ยมมากขึ้น ผมจำได้ว่ามีอยู่ฉากหนึ่งที่ผมถูกทหารเฮลแกสท์ล้อม ผมเลยคว้ามีดออกมาไล่แทงพวกมันอย่างบ้าคลั่ง เลือดสาดกระจายเต็มหน้าจอ มันช่างสะใจจริงๆ! นอกจากนี้ Killzone 3 ยังมีภารกิจที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบุกตะลุยฐานทัพเฮลแกสท์ การลอบเร้นผ่านพื้นที่อันตราย การขับขี่ยานพาหนะ หรือการต่อสู้ในอวกาศ ทำให้เกมเพลย์ไม่น่าเบื่อ และยังมีส่วนของ Jetpack ที่ทำให้การต่อสู้มีความหลากหลาย ผมชอบมากที่บางฉากเราต้องใช้ Jetpack บินไปโจมตีศัตรูจากมุมสูง หรือใช้ Jetpack หลบหลีกการโจมตีของศัตรู มันให้ความรู้สึกอิสระและตื่นเต้นมาก เนื้อเรื่อง: สงคราม การทรยศ และการแก้แค้น เนื้อเรื่องของ Killzone 3 เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเกมภาคนี้ ภาคนี้ดำเนินเรื่องต่อจากภาคก่อน โดยเล่าถึงสงครามระหว่าง ISA และเฮลแกสท์ที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด หลังจากที่จักรพรรดิวิซาริถูกสังหาร เหล่าผู้นำเฮลแกสท์ก็แย่งชิงอำนาจกันเอง ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายใน ฝ่าย ISA จึงถือโอกาสนี้บุกโจมตีดาวเคราะห์เฮลแกนอีกครั้ง เพื่อหวังจะยุติสงครามครั้งนี้ให้ได้ ตัวละครในเกมได้รับการพัฒนาให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น เราจะได้เห็นมิติต่างๆ ของตัวละคร ทั้งด้านดีและด้านมืด ทำให้เราอินไปกับเรื่องราวได้ง่ายขึ้น ตัวละครที่ผมชอบมากที่สุดคือ เซเวอรัส ผู้นำคนใหม่ของเฮลแกสท์ เขาเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน มีความทะเยอทะยาน และมีความโหดเหี้ยม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความรักชาติและความภักดีต่อเผ่าพันธุ์ของตนเอง ผมชอบที่ Killzone 3 นำเสนอเนื้อเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครทั้งสองฝ่าย ทำให้เราเข้าใจแรงจูงใจและเป้าหมายของแต่ละฝ่ายมากขึ้น ไม่มีฝ่ายไหนถูกหรือผิดไปเสียทั้งหมด ทุกฝ่ายต่างต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจและชวนติดตามมาก จุดเด่น กราฟิกสวยงามอลังการ รายละเอียดของฉากและตัวละครทำได้อย่างยอดเยี่ยม บรรยากาศในเกมยอดเยี่ยม ความรู้สึกอึดอัด กดดัน และสิ้นหวัง ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เกมเพลย์สนุกและท้าทาย ระบบการควบคุมลื่นไหล อาวุธปืนหลากหลาย ระบบการต่อสู้ระยะประชิดดุเดือด เนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตาม ตัวละครมีความลึกซึ้ง นำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองของทั้งสองฝ่าย มีระบบ Jetpack ที่เพิ่มความหลากหลายให้กับการต่อสู้ จุดด้อย ความยาวของเกมค่อนข้างสั้น จบได้ภายใน 6-8 ชั่วโมง ปัญหาเรื่องเฟรมเรตตกในบางฉากที่มีศัตรูจำนวนมาก AI ของศัตรูยังไม่ฉลาดเท่าที่ควร บางครั้งก็วิ่งเข้ามาให้เรายิงแบบง่ายๆ สรุป Killzone 3 เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ยอดเยี่ยม เกมภาคนี้พัฒนาขึ้นจากภาคก่อนในหลายๆ ด้าน ทั้งกราฟิก เกมเพลย์ และเนื้อเรื่อง แม้ว่าจะมีจุดอ่อนอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว Killzone 3 เป็นเกมที่สนุก ตื่นเต้น และคุ้มค่าแก่การเล่น ใครที่เป็นแฟนเกมแนวนี้ไม่ควรพลาด คะแนน: 9/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !