หลายชาติยุโรปคลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง
ข่าววันนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลายชาติยุโรปทยอยผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 เกือบทั้งหมด โดยที่สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกมาตรการป้องกันโควิด-19 เกือบทั้งหมด มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป โดยปัจจุบันเหลือเพียงมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะและเมื่อไปสถานพยาบาล ส่วนมาตการกักตัว 5 วัน หากติดเชื้อโควิด-19 ยังคงบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ในขณะที่ร้านค้า ร้านอาหารและสถานที่ทางวัฒนธรรมสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างอิสระ ทั้งนี้การผ่อนคลายมาตรการเกิดขึ้นหลังจากที่จำนวนผู้ป่วยในห้องไอซียูของสวัตเซอร์แลนด์ลดลง
ที่ออสเตรีย นายคาร์ล เนแฮมเมอร์ นายกรัฐมนตรีของออสเตรีย ระบุว่า รัฐบาลจะยกเลิกมาตรการป้องกันโควิดเกือบทั้งหมดในวันที่ 5 มีนาคมนี้ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกการปิดบาร์และร้านอาหารก่อนเวลา และอนุญาตให้ไนต์คลับกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าจุดสุงสุดและจำนวนผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลมีน้อยลง
ที่เยอรมนี นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ประกาศว่า จะคลายมาตรการป้องกันโควิดลง เนื่องจากดูเหมือนว่าการแพร่ระบาดจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การระบาดยังไม่สิ้นสุดลง โดยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 219,972 ราย ลดลง 6% เมื่อเทียบกับวันเดียวกันของสัปดาห์ก่อน ทางการเยอรมนีมีมาตรการผ่อนคลาย 3 ขั้น ในขั้นแรก รัฐบาลจะยกเลิกการจำกัดการรวมตัวภายในอาคารสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วในไม่กี่วันข้างหน้านี้ และจะยกเลิกการตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือการแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ที่ร้านค้าทั่วไป แต่ยังคงต้องสวมแมสก์อยู่ ต่อมาในขั้นที่ 2 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 4 มีนาคม ทางการจะอนุญาตให้จัดงานภายนอกอาคารที่มีผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 25,000 คน และไนต์คลับจะเปิดอีกครั้งสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสและมีผลการตรวจเชื้อเป็นลบ และผู้ที่ฉีดวัดวัคซีนครบ 3 โดสแล้ว สำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนสามารถเข้าร้านอาหารได้แต่ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ทั้งนี้มาตรการป้องกันโควิดส่วนใหญ่ อย่างเช่น การทำงานที่บ้าน การเว้นระยะห่างและสวมแมสก์ขณะใช้ระบบขนส่งมวลชนหรืออยู่ภายในอาคาร จะยกเลิกในวันที่ 20 มีนาคมนี้