ซีเรียจะร่วมพันธมิตรต้านกลุ่ม IS หลังทรัมป์-อัล ชารา หารือที่ทำเนียบขาวเสร็จสิ้น

เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลของทรัมป์ยืนยัน “ซีเรีย” จะเข้าร่วมกับพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธ IS ในตะวันออกกลางนับเป็นความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ หลังจากการพบปะและหารือร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีอาห์หมัด อัล-ชารา ของซีเรีย ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันดี.ซี. มีรายงานว่าทรัมป์ยังได้แสดงการสนับสนุนของเขาต่ออัล-ชารา แม้ว่าก่อนหน้านี้ อัล-ชารา จะถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ก็ตาม นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่มีผู้นำของซีเรียเดินทางมาเยือน 

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีอาห์หมัด อัล-ชารา ได้ให้สัมภาษณ์กับ Fox News ว่าการมาเยือนสหรัฐฯ ของเขาถือเป็น “ยุคใหม่” ที่ซีเรียจะให้ความร่วมกับด้านต่าง ๆ กับ สหรัฐฯ ซึ่งซีเรียจะกลายเป็นประเทศที่ 90 ที่เข้าร่วมพันธมิตรนานาชาติเพื่อการต่อต้านและทำลายกลุ่มอิสลาม IS รวมถึงเป็นความร่วมมือที่จะยับยั้งกลุ่มติดอาวุธต่างชาติอื่น ๆ ในตะวันออกกลางด้วย 

เจ้าหน้าที่อาวุโส เปิดเผยด้วยว่าหลังการหารือของทรัมป์และ อัล-ชารา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ร่วมด้วยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศจะกำหนดมาตรการใหม่เพื่อปลดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อซีเรียและจะชี้แจงความชัดเจนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของกระทรวงสําหรับเหล่านักลงทุน 

ขณะที่ อ้างอิงจากผู้สื่อข่าวที่ได้เข้าไปด้านในห้องทำงานรูปไข่ซึ่งเป็นสถานที่ที่ 2 ผู้นำได้หารือกันนานหลายชั่วโมง ทรัมป์ได้กล่าวกับ อัล-ชารา ว่าเขาต้องการเห็นซีเรียกลายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและเขาคิดว่าผู้นำคนนี้ซึ่งก็คือ อัล-ชารา สามารถทำได้ โดยที่ อัล-ชารา ตอบรับคำชื่นชมของทรัมป์พร้อมกล่าวว่าเขาลงมือทำจริง ๆ 

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และ ซีเรีย ยุติลงตั้งแต่ปี 2012 แต่หลังจากนี้มีรายงานว่าสหรัฐฯ จะอนุญาตให้ซีเรียเข้ามาตั้งสถานเอกอัครราชทูตในกรุงวอชิงตันอีกครั้ง