เปิดโทษ ผู้จงใจปิดข้อมูล -แจ้งข้อมูลเท็จ เข้าข่ายผิดกม.โรคติดต่อ 'จำคุก-ปรับ'
จากกรณี ดีเจมะตูม หรือ เตชินท์ พลอยเพชร ติดโควิด ภายหลังจัดปาร์ตี้วันเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยต่อมากลายเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เนื่องจากมีคนที่ติดโควิดต่อเนื่องเชื่อมโยงไปถึงงานเลี้ยงดังกล่าวแล้ว 24 ราย
โดยรายงาน ศบค.ระบุว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานปาร์ตี้ดังกล่าว และติดเชื้อโควิด ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ถูกรายงาน ระบุว่า อายุ 23 ปี อาชีพ นักร้อง นักแสดง วันที่เริ่มป่วย 12 มกราคม ซึ่งยังไม่พบว่ามีการรายงานไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายดังกล่าว ระบุว่า ผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูล แต่อย่างใด จนทำให้ชาวเน็ตข้องใจ ว่าผู้ที่เข้าร่วมปาร์ตี้ดังกล่าวนั้นมีใครบ้าง
ทั้งนี้หากตรวจสอบ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 17) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา พบว่า
มีสาระสำคัญ 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ให้ประชาชนในพื้นที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” ควบคู่การใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ
2.ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่ง โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางคมนาคมและยานพาหนะของประชาชนเดิน ทางเข้าออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง และสมุทรสาคร เพื่อสกัดคัดกรองคนเข้าออกพื้นที่ โดยบุคคลที่จะอออกนอกพื้นที่ ต้องแสดงเหตุผลคววามจำเป็น บัตรประชาชน บัตรแสดงตนอื่นๆ ควบคู่กับเอกสารรับรอง ต่อเจ้าหน้าที่
3.ปราบปรามลงโทษผู้กระทำผิดเด็ดขาด จัดการเจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นให้มีบ่อนพนันในพื้นที่อันเป็นต้นตอของการระบาด รวมถึงบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างประเทศโดยไม่ได้มีการตรวจสอบ คัดกรองโรคตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
4.โทษของผู้ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป
อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน การฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 ด้วย