สลด!ปู่วัย 80 ปี ติดโควิดเสียชีวิตแล้ว หลังกลับจากชุมนุมศาสนาที่มาเลย์
สลด!ปู่วัย 80 ปี ชาวนราธิวาส ติดโควิดดับแล้ว หลังกลับจากชุมนุมศาสนาที่มาเลเซีย แล้วมีอาการปอดบวมจากการติดเชื้อ เผยเป็นผู้ป่วยโควิดรายที่ 36 ของจังหวัด
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน EOC โควิด-19 จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดชายชราอายุ 80 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส และเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากไปร่วมชุมนุมเผยแพร่ศาสนาที่มัสยิดซือรีปือตาลิง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
โดยพบว่าชายชราดังกล่าวนี้มีอาการปอดบวมขั้นปานกลาง จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเป็นผู้ป่วยรายที่ 36 และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ก่อนส่งรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว
ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของ จ.นราธิวาส ล่าสุดรวม 2 ราย โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิตรายนี้คือรายที่ 37, 38, 39 และรายที่ 40 ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตรายล่าสุดยังคงนอนรักษาตัวที่ รพ.สนามคือรพ.กัลยาณิวัฒนาการุณย์ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ผู้ป่วยรายที่ 38 ซึ่งเป็นสามีของลูกสาวผู้เสียชีวิต ล่าสุดได้รับการยืนยันจากศูนย์ EOC จ.นราธิวาสว่า ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว ส่วนรายที่ 37, 39 และ 40 ซึ่งเป็นลูกสาว หลานและคนเลี้ยงหลานของผู้เสียชีวิต อาการโดยรวมไม่หนักมาก
ด้าน นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ถูกกักตัวที่ศูนย์กักกัน (Local Quarantine) ภายในสนามกีฬาการกีฬาและการท่องเที่ยว จ.นราธิวาส ให้เข้มงวดกับนักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าวจำนวน 11 คน ซึ่งรับแจ้งว่ามักจะไปรวมตัวกันเพื่อประกอบศาสนกิจ และพูดคุยกันในห้องใดห้องหนึ่ง ซึ่งทางจ.นราธิวาสเกรงว่าหากนักศึกษาทั้งหมดนี้ไม่มีวินัย ไปรวมตัวกันบ่อยครั้ง จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้หากคนใดคนหนึ่งตรวจพบเชื้อขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการปลดล็อคระยะที่ 3 ของรัฐบาล ที่ปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศในวันนี้ (1 มิ.ย.63) ทั้งการเดินทางเข้า-ออกในจังหวัดต่างๆ ได้ตามปกติโดยไม่ต้องทำหนังสือ รวมทั้งการปลดล็อคกิจการอีกหลายกิจการ เช่น ฟิตเนส เป็นต้น
ทางจ.นราธิวาสโดยนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจ.นราธิวาส สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอรวมทั้งหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ควบคุมดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
รวมทั้งยังต้องสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ กรณีเข้าไปใช้บริการตามร้านค้าสถานประกอบการต่างๆ อย่างเคร่งครัด หากทุกคนไม่ปฏิบัติตามวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เชื่อว่าการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 จะกลับมาและสถานการณ์จะรุนแรงกว่าเดิม
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด