คำถามนี้เป็นคนถามที่เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยตั้งคำถามนี้ หนังสือ Grouped ของ Paul Adams ซึ่งเขาเป็นสมาชิกทีมผลิตภัณฑ์ของ Facebook และเป็นอดีตนักวิจัยทางสังคมของ Google พูดถึงเหตุผลที่คนเรานั้นพูดว่า “ผู้คนพูดคุยกันด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะการแบ่งปันข้อมูลทำให้ชีวิตง่ายขึ้น การพูดคุยช่วยสร้างสายสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น และการเลือกสิ่งที่เราพูดถึงช่วยให้เราจัดการวิธีที่ผู้อื่นรับรู้เรื่องของเรา”โดยเราสามารถสรุปเรื่องของการพูดไว้ได้หลายเหตุผลImage by Pezibear from Pixabay 1. เราพูดคุยกันเพื่อเอาตัวรอดความสามารถในการสื่อสารนั้นผูกติดอยู่กับตัวเราทุกคนอยู่ตั้งแต่ยุคสมัยบรรพบุรุษของเรา มันเป็นวิธีที่ร่างกายจะเอาชีวิตรอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแบ่งปันข้อมูลเรื่องแหล่งอาหาร สัตว์ที่เป็นอันตราย สภาพอากาศ และช่วยให้เราสามารถเข้าใจถึงเรื่องของภูมิศาสตร์ ความเข้าใจต่อโลก รวมไปถึงพฤติกรรมบ้างอย่างที่เหมาะสมและปฎิบัติการณ์ในบางสถานการณ์เพื่อให้ชีวิตนั้นง่ายมากยิ่งขึ้นเรื่องของการพูดนั้นได้รวมไปถึงการแบ่งปันข้อมูลบนโลกออนไลน์ ที่เหมือนกันกับสมัยบรรพบุรุษของเรา ที่เรามักจะอัพเดทเรื่องราวของเรา เพราะเราต้องการข้อมูลการวิจัยจาก Pennsylvania State University พบว่าคนส่วนใหญ่ที่จะโพส หรือทวีตส่วนใหญ่มักจะเป็นการพูดถึงแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อรับข้อมูลของแบรนด์สินค้าเหล่านั้น แหละ 1 ใน 5 ก็ทวีตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ 2. เราคุยกันเพื่อสร้างพันธะทางสังคม (Civic Social Engagement)การวิจัยทางจิตวิทยาสังคม ที่มีมาหลายทศวรรษแสดงให้เห็นว่า ผู้คนพูดคุยกันเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ทางสังคม การสนทนาจะช่วยให้เราเข้าใจซึ่งกันและกัน ประเด็นสำคัญคือเสียงหัวเราะของผู้คน โดนการวิจัยพบว่าถ้าผู้คนหัวเราะร่วมกับคนแปลกหน้า พวกเขาจะมีน้ำใจต่อกัน พวกเขาจะทำเหมือนเป็นคนที่รู้จักกันได้การพูดคุยกับใครบางคนส่งสัญญาณทางสังคมให้เห็นว่ามันแข็งแกร่ง มันแสดงให้ผู้คนเห็นว่าเรามีความสำคัญพอที่จะใช้เวลาร่วมกัน เรื่องจริงของโลกออนไลน์คือ ผู้คนจะอัพเดทสถานะของตนเพื่อสร้างความรู้สึกที่เชื่อมโยงถึงผู้คนที่อยู่ห่างไกลกัน การอัพเดทสถานะมักประกอบด้วยข้อมูลต่าง ๆ ความรู้สึกเพื่อการพูดคุยกับผู้อื่น และผู้คนมักจะตอบกลับด้วยการกด Like หรือแสดงความคิดเห็นในเนื้อหานั้น ๆ อาจจะไม่ใช่เพราะพวกเขาชอบเนื้อหาจริงๆ แต่เพราะต้องการส่งสัญญาณทางสังคมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ก็เป็นได้ ในบางที การสนทนาที่เกิดขึ้นหลังจากการอัพเดทสถานะแล้ว อาจจะเป็นเรื่องที่สร้างความสัมพันธ์ได้มากกว่า เช่นหลังจากที่เห็นเพื่อนของเราอัพเดทสถานะ แล้วเราส่งข้อความไปหาเขา Image by Dean Moriarty from Pixabay การวิจัยพบจาก Princeton University ว่าความผูกพันทางสังคมเป็นศูนย์กลางของความสุขของเรา ยิ่งความสัมพันธ์ของคนๆ หนึ่งมีมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น จากหนังสือ How Many Friends Does One Person Need? บอกไว้ว่า ผู้หญิงจะคุยกันเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ทางสังคมบ่อยกว่าผู้ชาย การสนทนาจำนวนมาก มุ่งเป้าไปที่การสร้างและรักษาเครือข่ายทางสังคมออนไลน์ ผู้ชายมักพูดถึงตัวเองหรือสิ่งที่พวกเขาอ้างว่ามีความรู้ในบ่อยครั้ง เพราะพวกเขาพยายามสร้างความประทับใจให้คนรอบข้าง3. เราพูดคุยเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจากการวิจัยของ Andrea Wojnicki และ David Godes ได้ศึกษาว่าทำไมผู้คนถึงแบ่งปันเรื่องราวและความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น พวกเขาพบว่าหลายคนทำเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นการกระทำที่เห็นแก่ผู้อื่น โดยไม่รับการตอบแทน สำหรับหลายๆ คน การถูกมองว่าเป็นประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามแบ่งปันเนื้อหาที่คิดว่าคนอื่นจะเห็นว่ามีค่า สิ่งนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเห็นผู้คนแบ่งปันข้อมูลในเชิงบวกให้กับคนอื่นได้Image by silviarita from Pixabay 4. เราพูดคุยเพื่อจัดการวิธีที่คนอื่นจะรับรู้เรื่องของเราในขณะที่ผู้คนพูดคุยกันเพื่อทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ทางสังคม และเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น การสนทนาส่วนใหญ่ของเราเป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดการกับชื่อเสียง ผลการวิจัยของ Nick Emler และจาก Harvard University พบว่า การสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าประสบการณ์ส่วนตัว หรือนินทาว่าใครกำลังทำอะไรกับใครอยู่บ้าง มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่วิจารณ์หรือนินทาเชิงลบ การสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางบวก เนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะรักษาชื่อเสียงในเชิงบวกนั้นเองImage by Gerd Altmann from Pixabay เพราะมนุษย์มีการอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหมวดหมู่ ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่เพียงคนเดียวตามลำพังแต่อย่างใด เนื่องจากมนุษย์ต้องทำกิจกรรมร่วมกันอยู่ตลอดเวลา ต้องพึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน และแต่ละชีวิตต่างก็ต้องการที่จะเสริมสร้างความสุข ความมั่นใจ และความปลอดภัยให้กับตนเองอยู่เสมอ สังคมจึงเป็นแหล่งรวมศูนย์ทางความคิดที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมา เพื่อแสวงหาคำตอบทุกๆอย่างให้กับตนเอง และนี่คือเหตุผลที่ว่ามนุษย์ทำไมถึงต้องพูดกันนั้นเองอ้างอิง: หนังสือ Grouped | Pennsylvania State University | Princeton University | Harvard University | ภาพประกอบหน้าปก by StockSnap from Pixabay เขียนและเรียบเรียงโดย รู้หรือไม่? by แต้มเองบทความต่าง ๆ เพื่อการศึกษาและค้นคว้า ไม่อนุญาตให้คัดลอกไปโดยไม่อ้างอิงแหล่งที่มานะครับ━━━━━━━━━━━รู้หรือไม่? - Did You Know?เราพร้อมเสิร์ฟสาระดี ๆ ให้คุณทุกวัน━━━━━━━━━━━ติดตามเราเพื่อเนื้อหาอื่น ๆ ได้ที่Facebook - Facebook.com/info.didyouknowInstagram - Instagram.com/info.didyouknowTwitter - Twitter.com/info_didyouknowTrueIntrend - Creators.trueid.net/@didyouknow#didyouknow #รู้หรือไม่ #วันนี้วันอะไร เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !