SCAPดีมานด์สินเชื่อพุ่ง เล็งอัพเป้าใหม่ปลายปี

SCAP เล็งพิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายใหม่ หลังครึ่งปีแรกพอร์ตสินเชื่อคงค้างพุ่งเกิน 3 หมื่นล้านบาท มองแนวโน้มความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ป้ายแดงและสินเชื่อส่วนบุคคล เติบโตดีต่อเนื่อง พร้อมคุมเข้ม NPL ต่ำระดับ 3-4% ตามเป้า มองเกณฑ์ใหม่ ธปท.ไม่กระทบ

นายวิชิต  พยุหนาวีชัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนตุลาคม-กันยายน 2566 บริษัทจะมีการประกาศการปรับเป้าหมายการดำเนินงานใหม่ ที่เคยวางเป้าการเติบโตพอร์ตสินเชื่อคงค้างไว้ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท หลังจากที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้สามารถสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตสินเชื่อคงค้างได้ทะลุเป้าหมายแล้วที่ระดับกว่า 30,378 ล้านบาท

*จ่อปรับเป้าหมาย

แบ่งออกเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 5,115 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของมูลค่าพอร์ตสินเชื่อคงค้างทั้งหมด และสัดส่วนที่เหลืออีกกว่า 83% มาจากพอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ป้ายแดง จำนวน 25,263 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทจะมีการวางแผนการเติบโตสำหรับปี 2567 และในอนาคตในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ ว่าจะไปในทิศทางใดบ้าง แต่มองว่าความต้องการสินเชื่อใหม่ทั้ง 2 ประเภทยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้

โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมียอดสัญญาใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 174,443 สัญญา เติบโตกว่า 83% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ทำได้ 95,341 สัญญา และมียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งแรกปีนี้อยู่ที่กว่า 12,954 ล้านบาท เติบโตสูงกว่า 95% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน สำหรับพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่ครึ่งแรกปีทำได้แล้วกว่า 30,378 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่กว่า 44.15% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ระดับ 21,074 ล้านบาท

ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจเช่าซื้อ (Leasing) รถจักรยายนต์ใหม่ป้ายแดงนั้น ปัจจุบันพอร์ตเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์โตยังคงมีอัตราการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทจึงค่อนข้างมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อใหม่ทั้งปี 2566 จะเติบโตได้กว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ในตอนนี้ยังคงมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทยังคงมุ่งเน้นในการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้มั่นคงและมีฐานเงินเดือนสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป

*คลอดสินเชื่อใหม่

ขณะเดียวกันในช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์เสริมสินเชื่อใหม่ๆ อีกด้วย เพื่อขยายความสามารถในการให้บริการและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมองว่าผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ยังช่วยรักษาระดับการทำกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้ต่อ ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งรักษาสัดส่วนหนี้สงสัยจะเสีย (NPL) เฉลี่ยทั้งปี 2566 ให้อยู่ในกรอบไม่เกิน 3-4% ควบคู่กับการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญหลักเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9

ส่วนประเด็นที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่มาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในระยะยาว โดยธปท. จะบังคับใช้เดือนมกราคม 2567 และสำหรับหนี้ปกติที่เป็นหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt : PD) จะให้มีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2567 นั้น มองว่าจากการที่บริษัทปรับกลยุทธ์โดยที่เรียกการวางดาวน์เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้ามีการพิจารณาเงินในกระเป๋าว่าสามารถรับภาระไหวหรือไม่ ทำให้บริษัทเข้าเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. พอดีทจึงไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด

ในขณะที่ ธปท. ควบคุมการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่นั้น ในตอนนี้บริษัทได้มีการเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่าบริษัทยังคงมีการบริหารจัดการที่ดีและไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและธุรกิจแต่อย่างใด สำหรับในเรื่องของการแข่งขันในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ มองว่าบริษัทค่อนข้างมีความได้เปรียบกว่ามากผู้นำตลาดและมีพันธมิตรดีลเลอร์ทั่วประเทศ มีการวางแผนรับมือต่อสถานการณ์ได้เร็วทำให้สามารถกำหนดกลไกการขยายตลาดได้เร็วกว่า ดังนั้นรายอื่นๆ จึงจำเป็นที่จะต้องปรับตัวตามเพื่อเร่งให้ทันกัน