เทคโนโลยีมีผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในปัจจุบัน “อินเทอร์เน็ต” มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่าง ๆ ทั้งการติดต่อสื่อสาร เศรษฐกิจ และธุรกรรม ที่สามารถใช้เทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมาเป็นตัวช่วยในการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างง่ายดาย หลายธนาคารในประเทศไทยของเราก็มีการปรับตัวนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ที่เรียกกันว่า “Mobile Banking” ที่เรารู้จักกันดีก็ เช่น Prompay การซื้อหุ้น ซื้อกองทุน และจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร โดยไม่ต้องเสียเวลาไปที่ธนาคารก็สามารถทำได้ ผมคิดว่าผู้อ่านหลายท่านคงพอจะเห็นการปรับเปลี่ยนของระบบการเงินเช่นนี้ รวมถึงเป็นผู้ใช้งานด้วยระบบ “Mobile Banking” ที่มีความสะดวกรวดเร็ว อย่างไรก็ตามก็ยังมีหลายคนที่รู้สึกว่าระบบธุรกรรมการเงินออนไลน์ไม่มีความจำเป็น ด้วยตัวเขาเองยังไม่พร้อมที่จะจ่ายเงินค่าอินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึงทำให้ยังเลือกใช้บริการของธนาคารที่เป็นแบบออฟไลน์อยู่ กระทั่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่เข้ามากระทบส่งผลให้พฤติกรรมของคนต้องเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล เริ่มหันมาใช้การทำธุรกรรมการเงินแบบออนไลน์ เมื่อได้ลองใช้ก็ทำให้รู้สึกสะดวกสบาย พร้อมทั้งไม่ต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดโรค ทำให้ระบบของธนาคารแบบออฟไลน์มีความน่าสนใจว่ามีแนวโน้มจะมีการปิดสาขาบางแห่งลงหรือไม่ ข้อมูลของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าสนใจครับ ที่จำนวนสาขาของธนาคารพานิชย์ในประเทศของไตรมาสแรก (3 เดือน) ของปี 2020 มีสาขารวม 6,436 สาขา ลดลงสุทธิ 72 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2019 ที่มีสาขารวม 6,508 สาขา ตรงจุดนี้เองยังไม่นับรวมสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์บริการลูกค้า ศูนย์ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเมื่อเรียงลำดับการลดสาขาของธนาคารพานิชย์ของไทยพบว่า ธนาคารไทยพานิชลดลง 60 สาขา, ธนาคารกรุงเทพลดลง 4 สาขา, ธนาคารกรุงไทยลดลง 1 สาขา, ธนาคารกรุงศรีอยุธยาลดลง 2 สาขา มีเพียงธนาคารกสิกรไทยเพิ่มขึ้น 1 สาขา โดยธนาคารธนชาติและธนาคารทหารไทยอยู่ระหว่างการควบรวมกัน ถ้ามองในเชิงเปรียบเทียบแล้ว ผมคิดว่าการลดของสาขาธนาคารคงเนื่องด้วยมาจากการลดภาระค่าใช้จ่าย และการเข้ามาทดแทนของของบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นถึง 60% จากเดิมปี 2019 เพียง 23% หากถามว่าทำไมยอดของผู้ใช้งานในระบบการเงินในรูปแบบดิจิทัลเพิ่มขึ้นผมคิดว่าด้วยภาวะการระบาดของโรคโควิด – 19 มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และมีแนวโน้นจะเป็น New Normal หลังจากจบโควิด – 19 ด้วย ถ้ามองในฐานะคนใช้บริการก็คงต้องบอกว่า “ดี” แต่ถ้ามองในฐานะพนักงานก็คงต้องบอกว่า “ไม่ดี” เนื่องด้วยการปิดสาขาย่อมมีผลต่อการจ้างงานในอนาคตอย่างแน่นอน ที่เทคโนโลยีจะเข้ามาทำงานแทนคน ดังนั้นการปรับตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อ “ธุรกรรมการเงินออนไลน์” จะมาเป็นความท้าทายของธนาคารในโลกอนาคตที่ไม่นานนี้ ภาพที่ 1 โดย Megan Rexazin / ภาพที่ 2 โดย Ricarda Mölck / ภาพที่ 3 โดย Megan Rexazin /ภาพถ่ายหน้าปกจาก mohamed Hassan