เกาหลีใต้อนุมัติวัคซีนโควิด “แอสตราเซเนกา” เป็นตัวแรกของประเทศ

วันนี้ (11 ก.พ.64) กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้ อนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท "แอสตราเซเนกา" ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดแล้วเมื่อวานนี้ (พุธ) โดยให้ใช้ได้ในกรณีฉุกเฉิน และใช้ได้กับวัยผู้ใหญ่ทุกคน แต่มีเงื่อนไขว่า แอสตราเซเนกาจะต้องแจ้งผลการทดลองวัคซีนในระดับคลีนิกขั้นสุดท้ายในผู้ใหญ่วัย 18 ปีขึ้นไป ให้แก่เกาหลีใต้ นับเป็นวัคซีนต้านโควิดตัวแรก ที่เกาหลีใต้อนุมัติให้ใช้ในประเทศ

นอกจากนี้ ทางกระทรวงอาหารและยาของเกาหลีใต้ ยังออกคำเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ในคนชราที่มีอายุมากกว่า 65 ปีด้วย

รัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดจะเริ่มฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ให้แก่ชาวเกาหลีใต้ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

เกาหลีใต้ได้อนุมัติวัคซีนของแอสตราเซเนกาในครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทแอสตราเซเนกา สัญชาติอังกฤษ-สวีเดน กำลังเจอปัญหาหนัก โดยทั่วโลกกำลังวิตกเกี่ยวกับการขาดข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้ ในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จนขณะนี้หลายประเทศในยุโรป รวมถึงเยอรมนีและฝรั่งเศส ได้จำกัดการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาให้ใช้ได้เฉพาะในคนอายุ 18 ปี ถึง 64 ปีเท่านั้น และห้ามใช้ในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป

แต่ที่หนักที่สุดคือ แอฟริกาใต้ ถึงกับประกาศเลิกใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาไปเลย ในขณะที่โครงการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวแอฟริกาใต้ได้เริ่มขึ้นไปแล้ว และยังประกาศขอขายต่อหรือแลกเปลี่ยนวัคซีนของแอสตราเซเนกา กับวัคซีนตัวอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังหันไปหาวัคซีนต้านโควิดของบริษัท “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” มาใช้แทน ทั้งๆ ที่วัคซีนของจอห์นสันนั้น ยังไม่ได้รับการอนุมัติในประเทศใดๆ เลย 

การตัดสินใจขั้นเด็ดขาดของแอฟริกาใต้ เกิดขึ้นหลังจากผลการศึกษาล่าสุดในแอฟริกาใต้พบว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพเพียง 22% เท่านั้น ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นปัญหาหนักครั้งใหม่ ของสถานการณ์ระบาดของโควิดทั้งในแอฟริกาใต้ และในโลกไปแล้ว เนื่องจากไวรัสกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ตัวนี้ ได้ระบาดไปแล้วประมาณ 30 ประเทศทั่วโลก.