เซเลนสกี ชี้ อิสราเอล ต้องเลือกยืนฝั่งยูเครน เผย 80 ปีก่อนเคยช่วยชาวยิว

นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอิสราเอล เมื่อวันที่ 20 มีนาคม เรียกร้องให้อิสราเอล ละเว้นจากการพยายามคงไว้ซึ่งความเป็นกลาง หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่อิสราเอล ประเทศของชาวยิวต้องเลือกที่จะสนับสนุนยูเครน

เซเลนสกี แถลงผ่านซูม โดยเริ่มต้นด้วยการพูดคำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีโกลดา เมอีร์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิสราเอลระบุว่า “เราอยากจะมีชีวิตแต่เพื่อบ้านของเราต้องการจะเห็นเราตาย”

เซเลนสกี ผู้ที่มีเชื้อสายยิว ระบุกับสภาผู้แทนราษฎรอิสราเอล หนึ่งในการเดินสายแถลงผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับสภาผู้แทนราษฎรของชาติต่างๆ เปรียบเทียบการรุกรานของรัสเซียกับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ โดยระบุว่า ยูเครนเลือกที่จะช่วยเหลือชาวยิวเมื่อ 80 ปีก่อน เวลานี้ถึงเวลาแล้วที่อิสราเอลต้องเลือกบ้าง

ทั้งนี้นายนาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ดำเนินนโยบายทางการทูตอย่างระมัดระวังนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากอิสราเอล มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับทั้งรัสเซียและยูเครน โดยเฉพาะกับรัสเซีย ที่อิสราเอลมีความร่วมมือด้านความมั่นคงอันละเอียดอ่อนกับรัสเซีย ชาติที่มีทหารประจำการในซีเรีย ที่มีชายแดนติดกับอิสราเอลด้วย

ขณะที่นายเบนเน็ตต์ ต่อสายคุยกับเซเลนสกี และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อยู่บ่อยครั้ง หนึ่งนนั้นรวมถึงการหารือกับปูตินนาน 3 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้าหน้าที่ทางการยูเครนจะแสดงความยินดีที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอลพยายามที่จะเป็นตัวกลางใจการเจรจา แต่ นายเซเลนสกี ระบุในวันเดียวกันนี้ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นความผิดพลาด โดยเซเลนสกี ระบุว่า “เราสามารถเป็นตัวกลางระหว่างรัฐได้แต่ไม่ใช่เป็นตัวกลางระหว่างความดีและความชั่ว”