คุณผู้อ่านครับเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ประเทศชาติของเราคงต้องบันทึกเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.7 แมกนิจูดครั้งนี้ไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ภัยธรรมชาติที่ไม่คิดว่าจะเกิดมันก็เกิด ภาพของตึกถล่ม ภาพของอาคารเหวี่ยงตัวไปมา การหนีตายแบบโกลาหลไร้ประสบการณ์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราคงได้เห็นตามหน้าสื่อไปหมดแล้ว แต่บทความนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านไปพบกับอีกมิติหนึ่งของเหตุการณ์นี้ เป็นการมองแบบย้อนกลับเข้าหาตัว ว่าไอ้จังหวะที่เราวิ่งหนีเอาชีวิตรอดเนี่ยะ คุณผู้อ่านจะพบว่าคาแร็คเตอร์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย เสี้ยววินาทีที่ทำอะไรแบบไม่คิดนี่ล่ะครับ ที่จะสะท้อนภาพว่าเราเป็นคนยังไง ตามมาครับผมจะแจกแจงให้ฟัง 1. บางคนวิ่งหนีไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ คือฉันไม่รู้ล่ะ! ชีวิตนี้ต่อให้อะไรจะหล่นใส่หัวก็แล้วแต่ จะเป็นจะตายยังไงร่างกายก็ขาดมือถือไม่ได้ คว้าโทรศัพท์ได้ปุ๊บวิ่งหน้าตั้งออกสู่พื้นที่โล่งแจ้งทันที คนกลุ่มนี้คงจะเป็นมนุษย์จำพวกติดการสื่อสารเป็นที่สุด ฟังผ่าน ๆ เหมือนจะดูแย่แต่ไม่ใช่ครับ เพราะทันทีที่พวกเขาเห็นว่าปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็จะโทรหาคนที่ตนเองรักทันที โทรหาพ่อแม่ โทรหาลูก โทรหาคนรัก โทรหาคนสำคัญ เพื่อเช็คความปลอดภัยของพวกเขา หลังจากนั้นก็จะรายงานทางฝั่งของตัวเองด้วยว่าตอนนี้ปลอดภัยดีแล้วไม่ต้องเป็นห่วง เหมือนจะติดจอแบบไม่แคร์ใคร แต่ที่จริงแล้วแคร์ทุกคน รวมถึงตัวเองด้วย 2. บางคนวิ่งหนีมาพร้อมกับภาระงานที่รับผิดชอบ ในคลิปวีดีโอหลาย ๆ คลิป ผมเห็นพนักงานออฟฟิศหลายคนวิ่งหนีลงมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค หรือไม่ก็แฟ้มเอกสาร คนกลุ่มนี้น่าจะเป็นมนุษย์ผู้บ้างานเป็นพิเศษ พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ในโน๊ตบุ๊คอาจจะมีไฟล์งานสำคัญที่จะปล่อยให้พังไปพร้อมกับซากตึกไม่ได้ หรือแฟ้มเอกสารเหล่านั้นก็อาจจะมีตัวเลขบัญชีที่ยังสรุปยอดไม่เสร็จ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีนะครับไม่ใช่เรื่องแย่อะไร การจะหาพนักงานที่รักองค์กรกับรักงานที่ทำขนาดนี้ โชคดีกว่าถูกหวยอีกครับในมุมของบริษัท 3. บางคนหนีไปพร้อมกับเงิน หัวข้อนี้คล้ายข้อข้างบน ผมมีโอกาสได้เห็นคลิป ๆ หนึ่งในโลกโซเชียล เป็นคลิปของแม่ค่าท่านหนึ่งที่กำลังขายลูกชิ้นทอดให้นักท่องเที่ยวฝรั่ง ฝรั่งเขาก็ถามโน่นนี่นั่นระหว่างสนทนากันด้วยภาษามือ จู่ ๆ โคมไฟเพดานก็สั่น ผู้คนในตลาดเริ่มแตกตื่น หลายคนเริ่มออกวิ่งเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวผมทองที่คงจะทราบแล้วว่าเกิดแผ่นดินไหว แต่สิ่งที่ผมเห็นคือแม่ค้าคนนั้นแกนิ่งมาก แกไม่ห่วงลูกชิ้นแกเลยว่าจะกระเด็นกระดอนหล่นพื้น แต่แกกลับเลือกที่จะคว้าเอาถังใส่เงินที่อยู่ตรงหน้าก่อน กวาดแบงค์ยี่สิบแบงค์ร้อยลงถัง กอดขึ้นอกแล้วก็ออกวิ่งไปพร้อมกับ Money ที่อยู่ในมือ นี่ล่ะครับสัญชาตญาณแม่ค้า ชีวิตก็สำคัญแต่ตังค์ที่หาได้ในแต่ละวันก็มิอาจจะปล่อยทิ้งขว้าง ค่าเทอมลูกอยู่ในนั้น ค่าเช่าบ้าน ค่ายาค่าหมอ มีสัญญาณชีพแต่ไม่มี "ค่าครองชีพ" ก็อยู่ไม่ได้นะครับ 4. บางคนหนีไปพร้อมกับเพื่อน นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผมประทับใจ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียน ในคลิปเป็นภาพของกลุ่มเด็กนักเรียนที่พากันวิ่งสวนทางออกไปนอกอาคารเรียน แต่มีน้องคนหนึ่งที่ทำแตกต่างจากคนอื่น เขาเลือกที่จะถ่ายคลิปวีดีโอแล้ววิ่งย้อนกลับเข้าไปในห้อง พลันแหกปากตะโกนเรียกชื่อเพื่อนที่รู้จักว่าให้หนีออกไปพร้อมกัน ไม่ต้องหลบใต้โต๊ะ ไม่ต้องซ่อนหลังกระดาน ไม่ต้องกลัว "เราจะออกไปพร้อมกัน" โอ้โห! ผมนึกว่าหนังฮอลีวูด แล้วคำพูดมันไม่ได้เท่นะครับ มันคือการตะคอกผสมตะโกน อารมณ์คนหนีตายที่ต้องการกระชากสติเพื่อนให้กลับคืนมา ไม่มีอะไรจะคอมเมนท์ครับ น้องคนนี้คือวีรบุรุษ ของสำคัญในชีวิตเขาคงหนีไม่พ้นคำว่า "มิตรภาพ" 5. บางคนหนีแบบไม่เอาอะไรเลยไปแค่ตัวเปล่า ๆ ถ้าผมเป็นผู้ประสบภัยผมก็คงจะจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ เป็นประเภทเดียวกับคนส่วนมาก นาทีนั้นผมคงไม่คิดถึงอะไรหรอกครับนอกจากชีวิตของตัวเอง ทรัพย์สินก็คงไม่เอา งานการความรับผิดชอบก็คงไม่สน เงินหาเอาเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนมิตรภาพปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีใครอยากคบอยู่แล้วฮ่า ๆ เอาเป็นว่าสำหรับผมและอีกหลาย ๆ คน การมีชีวิตรอดให้ได้นี่แหละสำคัญที่สุด หนีตายให้ได้ก่อน ทำตัวให้เบาที่สุดโอกาสรอดน่าจะสูงขึ้น อยากจะหามุมเขียนให้ดูดีกว่านี้ครับ แต่คิดออกแค่นี้จริง ๆ สรุปสุดท้ายเราก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีครับว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ผมขอแสดงความเสียใจไปยังญาติผู้สูญเสียทุกท่านด้วยความเคารพ และบรรดาผู้ประกอบการเจ้าของอาคารคอนโดต่าง ๆ ที่คงได้รับผลกระทบหลังจากนี้อีกไม่น้อย แต่ก็นั่นล่ะครับในโลกความจริงก็ต้องเยียวยากันไป อย่างน้อยภัยพิบัติครั้งนี้ก็คงจะทำให้ประเทศเรามีมาตรการการในการป้องกันภัยหรือแจ้งเตือนใด ๆ ที่ดียิ่งขึ้น ส่วนในมุมของนามธรรม ความเชื่อ ความคิด ผมก็คิดว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้กลับทำให้พวกเราได้ย้อนดูตัวเอง ได้ตรวจเช็คจิตใต้สำนึกว่าลึก ๆ แล้วเราเป็นคนยังไง เราไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบเรื่องพวกนี้บ่อยนักหรอก เพราะงันมั้งครับแผ่นดินไหวถึงนาน ๆ มาที แต่มาจริง! และมาแรง! เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก : จาก pexels.com ภาพ แผ่นดินไหว โดย Mohammed Soufy รูปที่ 1 : จาก pexels.com ภาพ โทรศัพท์ โดย Wolrider YURTSEVEN รูปที่ 2 : จาก pexels.com ภาพ ผู้ชายวิ่ง โดย Barbara Olsen รูปที่ 3 : จาก pexels.com ภาพ แม่ค้า โดย moytography รูปที่ 4 : จาก pexels.com ภาพ ค้นหาผู้รอดชีวิต โดย Mohammed Soufy รูปที่ 5 : จาก pexels.com ภาพ ชายกลางซากปูน โดย YOUSSEF elbelghiti เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !