ข่าวน้ำท่วม 2568 ล่าสุด! ภาคใต้ประสบภัย 9 จังหวัด เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ของศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.) ยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง รวม 20 จังหวัด 151 อำเภอ 1,118 ตำบล 8,003 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,128,284 ครัวเรือน 3,221,958 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่
สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กินพื้นที่ 101 อำเภอ 682 ตำบล 5,127 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 986,018 ครัวเรือน 2,734,318 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย (นครศรีธรรมราช 6 ราย ปัตตานี 3 ราย ยะลา 2 ราย พัทลุง 2 ราย สงขลา 5 ราย) ดังนี้
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ เคียนซา และพระแสง 25 ตำบล 203 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,034 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 22 อำเภอ ได้แก่ ชะอวด เมืองฯ ท่าศาลา พรหมคีรี ร่อนพิบูลย์ นาบอน สิชล ฉวาง ทุ่งสง เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร ลานสกา บางขัน พระพรหม ช้างกลาง ปากพนัง จุฬาภรณ์ นบพิตำ ทุ่งใหญ่ พิปูน เชียรใหญ่ และถ้ำพรรณรา 161 ตำบล 1,483 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 223,221 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดตรัง ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ นาโยง ห้วยยอด รัษฎา ย่านตาขาว วังวิเศษ กันตัง เมืองฯ สิเภา และปะเหลียน 54 ตำบล 283 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,647 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดพัทลุง ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ เมืองฯ ควนขนุน กงหรา เขาชัยสน ศรีนครินทร์ บางแก้ว ป่าบอน ปากพะยูน ศรีบรรพต ป่าพะยอม และตะโหมด 65 ตำบล 670 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 148,115 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดสตูล ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ ควนโดน ละงู ท่าแพ มะนัง ควนกาหลง เมืองฯ และทุ่งหว้า 30 ตำบล 214 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,219 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดสงขลา ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ รัตภูมิ เมืองฯ จะนะ คลองหอยโข่ง ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ หาดใหญ่ ควนเนียง นาทวี สิงหนคร นาหม่อม บางกล่ำ สะเดา เทพา และสะบ้าย้อย 118 ตำบล 909 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 320,887 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดปัตตานี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ สายบุรี แม่ลาน โคกโพธิ์ มายอ ยะรัง ไม้แก่น ยะหริ่ง ปะนาเระ ทุ่งยางแดง กะพ้อ หนองจิก และเมืองฯ 115 ตำบล 697 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 114,620 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดยะลา ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ เมืองฯ รามัน เบตง บันนังสตา ธารโต กรงปินัง ยะหา และกาบัง 53 ตำบล 289 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,634 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดนราธิวาส ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ บาเจาะ ยี่งอ เมืองฯ ระแงะ ตากใบ สุไหงปาดี ศรีสาคร รือเสาะ สุไหงโก-ลก เจาะไอร้อง สุคิรินและจะแนะ 61 ตำบล 379 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 79,641 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
พื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำเริ่มลดลง และยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่
พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม กินพื้นที่ 50 อำเภอ 436 ตำบล 2,876 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 142,266ครัวเรือน 487,640 คน และมีผู้เสียชีวิต 28 ราย (พิษณุโลก 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 19 ราย สิงห์บุรี 3 ราย ปทุมธานี 1 ราย นนทบุรี 1 ราย และสุพรรณบุรี 3 ราย) ดังนี้
- จังหวัดพิษณุโลก ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 1 อำเภอ คืออำเภอบางระกำ 9 ตำบล 76 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 598 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดนครสวรรค์ ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ชุมแสง เมืองฯ พยุหะคีรี และโกรกพระ 20 ตำบล 268 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,814 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดอุทัยธานี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 1 อำเภอ คืออำเภอเมืองฯ 5 ตำบล 29 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,371 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดชัยนาท ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ วัดสิงห์ มโนรมย์ เมืองฯ สรรพยา และสรรคบุรี 21 ตำบล 79 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,594 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดสิงห์บุรี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อินทร์บุรี พรหมบุรี และเมืองฯ 18 ตำบล 99 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,603 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดอ่างทอง ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ป่าโมก วิเศษชัยชาญ ไชโย และเมืองฯ 38 ตำบล 198 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,114 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดสุพรรณบุรี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ เมืองฯ บางปลาม้า สองพี่น้อง อู่ทอง ศรีประจันต์ ดอนเจดีย์ และเดิมบางนางบวช 69 ตำบล 509 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,689 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา บางปะหัน บางซ้าย บ้านแพรก มหาราช ลาดบัวหลวง และนครหลวง 145 ตำบล 946 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66,794 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
-จังหวัดปทุมธานี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ สามโคก และเมืองฯ 23 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,830 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดนนทบุรี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ เมืองฯ ปากเกร็ด บางกรวย และบางบัวทอง 31 ตำบล 157 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,622 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- จังหวัดนครปฐม ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ บางเลน สามพราน นครชัยศรี กำแพงแสน เมืองฯ ดอนตูม และพุทธมณฑล 57 ตำบล 438 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,237 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
เพื่อรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่ยังคงวิกฤตใน 9 จังหวัดภาคใต้ ปภ. ได้ยกระดับการประสานงานกับจังหวัดอย่างเข้มข้น โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา มุ่งเน้นการจัดส่งความช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมระดมทีมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เรือท้องแบน เจ๊ตสกี เครื่องจักรกล สาธารณภัย และเฮลิคอปเตอร์ KA-32 เข้าสนับสนุนพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
รวมถึงการดูแลสวัสดิภาพของประชาชนโดยจัดรถประกอบอาหาร รถผลิตน้ำดื่ม จัดทำอาหารและผลิตน้ำดื่มน้ำสะอาดจ่ายแจกประชาชน สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์น้ำเริ่มลดลงและสถานการณ์เริ่มคลีคลาย ปภ. จะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนภายหลังน้ำลด เพื่อให้ผู้ประสบภัยทุกคนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง เพื่อกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขโดยเร็วที่สุด
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
