โลจิสติกส์ก็เหมือนฟันเฟืองที่คล้องต่อกันเป็นโซ่อุปทานไม่สามารถขาดตัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้ ก่อนอื่นผมต้องบอกเลยนะครับว่าผมเป็นคนหนึ่งที่เรียนจบโลจิสติกส์มา สาขาที่ผมเรียนจบคือ การจัดการโลจิสติกส์ และอยู่ในแวดวงของวงการโลจิสติกส์มาหลายปีแล้ว หลายคนที่เข้าใจผิดนะครับ พอพูดถึงโลจิสติกส์ก็นึกไปถึงวิศวกรรมเป็นส่วนใหญ่ และในตลาดไทยมีครับมหาวิทยาลัยที่ผลิตนักศึกษาเกี่ยวกับวิศวกรรมโลจิสติกส์ เเต่คนละอย่างกับการจัดการโลจิสติกส์นะครับ เพราะคำว่า วิศวะ ยังไงก็ต้องไปทางช่าง เครื่องมืออุปกรณ์อะไรของเขาอยู่แล้ว แต่มันก็หนีไม่พ้นกันครับ เพราะโลจิสติกส์มันก็แยกออกมาจากวิชาหนึ่งของคณะวิศวกรรมเลยจริง ๆ แต่การจัดการโลจิสติกส์ จะเน้นไปทางทฤษฎีต่าง ๆ ที่นำมาช่วยเหลือในกิจกรรมต่าง ๆ ของโลจิสติกส์และจะเน้นไปทางด้านบริหารเป็นส่วนใหญ่ครับ ตลาดแรงงานของในประเทศไทยของเรา ณ ปัจจุบันนี้โลจิสติกส์นั้นยังเป็นที่ต้องการเป็นอยู่ตลอด ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ผมจะพูดในวันนี้ จึงเป็นที่มาของบทความที่ผมจะมาแชร์กับเพื่อน ๆ ในวันนี้ครับ ในบทความที่ว่า " 10 ความจริงที่น่าสนใจของการเรียน "โลจิสติกส์" ? "1. เรียนโลจิสติกส์แล้วคุณจะรู้จักคำว่าทุกอย่างคือ "ต้นทุน" อย่างที่หลาย ๆ คนรู้นะครับว่าโลจิสติกส์นั้นเน้นมากเรื่องของต้นทุน และก็ต้นทุนครับ การดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของทุกธุรกิจจะล้วนแต่มีต้นทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นเรื่องของโลจิสติกส์หรือทฤษฎีต่าง ๆ นั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เกือบทุกเรื่องครับ เพราะฉะนั้นแล้วการเรียนตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 4 นั้นหนีไม่พ้นแน่นอนครับ แต่เราจะไม่รู้ตัวครับ เราเข้าใจและทำมันจนเป็นนิสัยไปแล้ว จะซื้ออะไรสักอย่างก็จะคิดว่าต้นทุนเท่าไหร่เขาขายได้กำไรเท่าไหร่ เดินเข้า 7-11 ครั้งหนึ่งก็คิดว่าเขาขนส่งมายังไง ต้นทุนขนส่ง ต้นทุนหน้าร้าน ทุก ๆ ของโลจิสติกส์จะแทรกซึมเข้าไปอยู่ในร่างกายเราเองครับ2. เวลาในงานของโลจิสติกส์นั้นสำคัญมาก อีกเรื่องหนึ่งของโลจิสติกส์ที่จะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ต้นเป็นเฟรชชี่เลย คือการตรงเวลาครับ หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าเรื่องเวลาสาขาหรืออาชีพไหน ๆ ก็ต้องตรง ถูกต้องแล้วครับ แต่โลจิสติกส์มันลึกไปกว่านั้น เพราะเวลาของโลจิสติกส์ทุก ๆ วินาทีนั้นมีค่าครับ (ผมใช้คำว่าวินาทีนะครับ) มีค่ายังไง? ต้องอธิบายว่างานทางด้านต่าง ๆ ของโลจิสติกส์นั้นมันเชื่อมโยงกันทุก ๆ ทาง เช่น ถ้าเราทำให้บริหารรถขนส่งวัตถุดิบมาส่งให้โรงงานช้า ไลน์ผลิตไม่มีวัตถุดิบไม่สามารถผลิตสินค้าได้ ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าได้ของไม่ครบและไม่ตรงเวลา เห็นไหมครับ แค่รถมาสายไม่กี่นาทีมันส่งผลเป็นลูกโซ่ครับ ดังนั้นเมื่อเข้ามาเรียนโลจิสติกส์จะถูกสอนให้รู้ว่าทุกวินาที ทุกนาทีนั้นมันมีราคาเข้ามาจ่ายครับ3. คุณจะคุ้นเคยกับข่าวสารด้านต่างประเทศมาก โลจิสติกส์นั้นไม่ได้เรียนหรือมองภาพรวมของโลจิสติกส์แค่ในประเทศนะครับ เพราะตำรา สื่อการสอน เคสต่าง ๆ รวมไปถึงทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์นั้นเราเเทบจะเอามาจากต่างประเทศทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องรับรู้ข่าวสารจากต่างประเทศเยอะ อีกทั้งเรื่องโลจิสติกส์ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของบริษัทที่ประกอบธุรกิจนำเข้าส่งออกเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่แปลกที่จะต้องอัพเดทข่าวสารของวงการเศรษฐกิจต่างประเทศว่าเป็นยังไง ถึงเราจะทำงานในประเทศไทยแต่ก็ไม่สามารถที่จะละเว้นข่าวสารพวกนี้ได้ครับ เพราะทฤษฎีต่าง ๆ รวมไปถึง Case Study ต่าง ๆ บางครั้งก็อิงมาจากต่างประเทศทั้งนั้น แล้วเอามาปรับใช้กับธุรกิจที่ประเทศไทยของเราครับ4. คุณจะเห็นโปรแกรม หรือ ซอฟต์แวร์แปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หลายสาขาหรือหลาย ๆ อาชีพมันก็จะมีพวก IT หรือ Software เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้วครับ แต่โลจิสติกส์นั้นเราเน้นทางด้านสินค้า ผมคิดว่าน่าจะมีเยอะมากครับพวก Software ที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้า ซึ่งแทรกซึมอยู่ในทุก ๆ กิจกรรมของโลจิสติกส์ เช่น Software ใน Warehouse ที่ใช้ในการคำนวณในการหยิบสินค้าในแต่ละครั้ง (เราคงไม่ให้รถไปหยิบทีละชิ้นใช่ไหมครับ) โปรแกรมมันจะคำนวณเลยว่า Order นี้จะหยิบยังไงให้ใช้เวลาน้อยที่สุด คุ้มที่สุดในแต่ละรอบที่วิ่ง เพราะต้องนึกภาพนะครับว่าในคลังสินค้ามีสินค้าเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ รายการ ถ้าไม่มี Software พวกนี้ก็จะต้องเดินทาง เดินหยิบ คงงงกันหน้าดูใช่ไหมครับ5. คุณจะสามารถทำงานได้ทุกงานในสายงานของโซ่อุปทาน หลายคนมองว่าเรียนโลจิสติกส์แล้วไม่ตกงานแน่ ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนะครับ ทุกสาขาที่จบมามีสิทธิตกงานครับ ถ้าคุณเลือกงานมาก ทุก ๆ การเลือกงานคุณก็ต้องหันกลับมามองตัวเองว่ามีคุณสมบัติพอรึเปล่าที่จะให้บริษัทต่าง ๆ มาจ้างงานคุณ บางคนถามอะไรตอบไม่ได้สักอย่าง อันนี้ผมว่าบริษัทก็คงคิดหนักครับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายงานทางด้านโลจิสติกส์นั้นมันกว้างมากจริง ๆ ดังนั้นถ้าคุณจบมาทุก ๆ สายงายของโซ่อุปทาน คุณสามารถเลือกงานทำได้ทั้งหมดครับ หลายคนสงสัยว่าโซ่อุปทานนี้มันคืออะไร? คิดง่าย ๆ ครับ คือตั้งแต่รับวัตถุดิบมา จนถึงผลิต ออกมาเป็นสินค้า จนสิ้นสุดที่ขนส่งนำไปส่งถึงลูกค้าคนสุดท้ายครับ ในทุก ๆ จะมีจำนวนงานย่อย ๆ ลงไปเยอะมาก ๆ ครับต้องลองไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ6. ตราบใดที่ยังมีการขนส่ง ตราบนั้นก็ยังจะมีงานโลจิสติกส์ครับ อย่างที่ผมกล่าวไปข้อที่ 5 นะครับ ว่าโลจิสติกส์นั้นมีสายงายรองรับเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะมีขนส่งเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น หลายคนจึงอุปมาไปว่าโลจิสติกส์ก็คือขนส่ง ไม่ใช่นะครับ ขนส่งคือหนึ่งในกิจกรรมของโลจิสติกส์ ลองคิดดูว่าถ้าวันไหนไม่มีการขนส่งดูสิครับ วัตถุดิบ โรงงานต่าง ๆ รวมไปถึงสินค้าที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ก็คงไม่มีถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นผมจึงบอกได้ว่าตราบใดที่ยังมีการขนส่ง ตราบนั้นก็ยังมีงานของโลจิสติกส์เกิดขึ้นครับ7. โลจิสติกส์ คือการศึกษาแบบไม่มีที่สิ้นสุดของจริง ข้อนี้ผมได้แนวความคิดจากพี่ที่ฝึกงานของผม ซึ่งนานมากแล้วครับ เขาบอกผมว่าโลจิสติกส์คืองานที่จะมีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นมาอยู่ทุกวัน แล้วเราก็จะต้องตามไปศึกษาเพิ่มเติมในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นครับ ซึ่งตอนนั้นผมฝึกงานอยู่บริษัทนำเข้าส่งออก จะทำพวกเอกสารการขนส่งเป็นหลัก ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่ามันก็แค่เอกสารทำ ๆ ไป ซึ่งไม่ใช่เลยนะครับ เอกสารมันมีฟอร์มของมันก็จริงแต่ข้างในเอกสารมันเปลี่ยนใน ๆ วันครับ แล้วที่มันเปลี่ยนนี่แหละครับ เราต้องไปตามดูว่ามันคืออะไร ถูกต้องไหมที่เขาทำมา แล้วเราเอาไปทำอะไรต่อลูกค้าเอาไปทำอะไรต่อ บริษัทการบินเอาไปทำอะไรต่อ บริษัทต้นทางปลายทางเอาไปทำอะไรต่อ เห็นไหมครับแค่คำว่า เอกสาร ก็มีเยอะมากจนหาอ่านไม่หมดแล้วครับ แต่กิจกรรมโลจิสติกส์หลัก ๆ มี 9 กิจกรรมนะครับ แล้วในแต่ละกิจกรรมมีย่อยลงและลึกลงไปอีกมาก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าไม่มีใครที่จะเข้าใจโลจิสติกส์แบบท่องแท้แน่นอน เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดสิ่งใหม่ ๆ ในวงการนี้อยู่ทุกวัน8. สำหรับใครที่คิดว่าโลจิสติกส์มีแต่คำนวณ คุณคิดผิดครับ หลายคนได้ยินคำว่าโลจิสติกส์นี่หัวสมองคิดแต่เรื่องของการคำนวณขึ้นมาเลยใช่ไหมครับ ผมไม่ปฏิเสธอีกครับ แต่มันไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น ของผมที่เรียนมาเจอแค่ไม่กี่ตัวครับ ส่วนมากจะเน้นทฤษฏีต่าง ๆ ของแต่ละกิจกรรมโลจิสติกส์มากกว่าครับ การคำนวณมันเป็นแค่วิชาที่เอามาให้คิดเล่น ๆ ครับ ที่แปลกคือคณะผมมีบัญชีด้วย (โลจิสติกส์ที่เรียนครอบจักรวาลจริง ๆ นะครับ) ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะเรียนสายนี้ต้องต้องทำใจมานะครับ เพราะมันมีคำนวณจริงครับ แต่มันไม่ได้มีเยอะเลย ไม่ได้มีทุกเทอมด้วย ถ้าเข้ามาเรียนอย่างตั้งใจ ผมคิดว่าผ่านไปได้ทุกคนครับ9. โลจิสติกส์ไม่ได้มีแค่ขนส่ง อย่างที่ผมได้บอกไปในข้อบน ๆ ว่าโลจิสติกส์นั้นไม่ได้มีแค่ขนส่ง ขนส่งเป็นเพียง 1 ในกิจกรรมหลักของโลจิสติกส์เท่านั้นครับ อาจจะสงสัยว่าแล้วมันมีอะไรบ้างล่ะ? ขอบอกก่อนเลยนะครับว่าโลจิสติกส์มันมีหลายตำรามาก ๆ บางตำราบอกมี 9 กิจกรรม บางตำราบอก 13 กิจกรรม ไม่มีใครผิดถูกนะครับอยู่ที่คนมอง ส่วนผมนั้นอิงว่ามี 9 กิจกรรมหลักมากกว่าครับ ซึ่งจะมี 1) บริการลูกค้าและสนับสนุนการจัดการคำสั่งซื้อ 2) การจัดการคำสั่งซื้อ 3) การจัดการสินค้าคงคลัง 4) การจัดการคลังสินค้า 5) ขนส่ง 6) การพยากรณ์และการวางแผนความต้องการของลูกค้า 7) การจัดซื้อจัดหา 8) การขนถ่ายวัตถุดิบ และการบรรจุหีบห่อ 9) โลจิสติกส์ย้อนกลับ เห็นไหมครับว่าโลจิสติกส์แบ่งเป็นกิจกรรมหลักได้อีกตั้ง 9 กิจกรรม นี่ยังไม่รวมกิจกรรมย่อยที่สนับสนุนของแต่ละกิจกรรมหลักอีกนะครับ เห็นไหมครับว่าโลจิสติกส์ไม่ได้มีแค่ขนส่งครับ10. จบมามีงานทำเยอะ เลือกได้หลากหลายทาง จากข้อที่ 9 เพื่อน ๆ น้อง ๆ เห็นหรือยัง? ครับว่ากิจกรรมของโลจิสติกส์นั้นมีมากมายแตกออกหลายสาขาจริง ๆ เพราะฉะนั้นจะให้มาบอกว่าทำอะไรได้บ้าง อาชีพไหนได้บ้างคงเยอะพูดไม่หมด แต่ผมบอกได้ว่างานหรือตำแหน่งงานของโลจิสติกส์สามารถทำได้ในทุก ๆ ตำแหน่ง ทุก ๆ กิจกรรมของโลจิสติกส์ครับ โลจิสติกส์ก็เหมือนฟันเฟืองที่คล้องต่อกันเป็นโซ่อุปทานไม่สามารถขาดตัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้ เมื่อตัวหนึ่งหยุดทั้งหมดก็จะหยุดตามครับ เพราะฉะนั้นหายห่วงเลยครับว่าจบมาไม่มีงานทำ แค่มีคุณสมบัติพอ ได้ภาษา 2 หรือ 3 ได้ทฤษฎีเหี่ยวกับโลจิสติกส์บ้าง มีความรู้บ้างในแวดวงธุรกิจโลจิสติกส์ เท่านี้ผมว่าเพียงพอแล้วต่อตำแหน่งของบริษัทครับ เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับข้อมูลทางด้านโลจิสติกส์ที่ผมนำมาฝากวันนี้ ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์มากต่อน้อง ๆ ที่กำลังคิดที่จะเรียนทางด้านโลจิสติกส์ และจะเป็นประโยชน์มากต่อทุก ๆ คนที่สนใจทางด้านโลจิสติกส์แลได้เข้ามาอ่าน โลจิสติกส์นั้นถ้าให้ใครอธิบายว่าทั้งหมดของโลจิสติกส์คืออะไรคงไม่มีใครสามารถอธิบายได้ทั้งหมด เพราะโลจิสติกส์มันต้องทำความเข้าใจในแต่ละกิจกรรมและต้องลงไปทำงานในแต่ละกิจกรรมจริง ๆ ถึงจะรู้ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกไปว่าโลจิสติกส์นั้นมีหลากหลายกิจกรรมมากคงไม่มีใครที่รู้ในทุก ๆ กิจกรรมถูกไหมครับ เพราะบางท่านจะมุ่งไปแค่กิจกรรมเดียว แต่รู้ในทุก ๆ ด้านทุก ๆ อย่างในกิจกรรมนั้นมากกว่าครับ ซึ่งผลก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุก ๆ มองเห็นความจริงของโลจิสติกส์ครับ ท้ายสุดนี้ผมขอขอบคุณทุก ๆ คนที่อ่านกันจนจบครับ และเช่นเคยหากเพื่อน ๆ คนไหนมีเรื่องราวเกี่ยวกับโลจิสติกส์ที่อยากจะมาแชร์กัน หรืออยากอัพเดทข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกันก็สามารถมาแชร์กันได้ครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับขอบคุณ ภาพหน้าปก/ ภาพประกอบ1/ ภาพประกอบ2 / ภาพประกอบ3/ ภาพประกอบ4 / ภาพประกอบ5 -ปีกพญา-