ระบบ Cloud Amazon ล่มทั่วโลก ! กระทบบริการออนไลน์ชื่อดังใช้งานไม่ได้ชั่วคราว

เกิดเหตุระบบคลาวด์ของบริษัทอเมซอน (Amazon Web Services - AWS) ล่มครั้งใหญ่ทั่วโลก เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 19 ต่อเนื่องถึง 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และบริการออนไลน์จำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยรายชื่อบริการที่ได้รับผลกระทบมีทั้ง เวนโม (Venmo), สแนปแชต (Snapchat), แคนวา (Canva), ฟอร์ตไนต์ (Fortnite), เรดดิต (Reddit), ลิฟต์ (Lyft), ดิสนีย์พลัส (Disney+), พินเทอเรสต์ (Pinterest), แอปเปิลมิวสิก (Apple Music) รวมถึง อเล็กซา (Alexa) ผู้ช่วยอัจฉริยะของอเมซอนเอง

ต้นเหตุปัญหาจากแก้ชื่อโดเมนในระบบฐานข้อมูล

อเมซอนเปิดเผยว่า ต้นเหตุของเหตุขัดข้องมาจาก ปัญหาการแก้ชื่อโดเมน (DNS Resolution) ของบริการฐานข้อมูล DynamoDB ในศูนย์ข้อมูล US-EAST-1 ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ โดยพื้นที่หลักที่องค์กรทั่วโลกจำนวนมากใช้เป็นศูนย์กลางระบบคลาวด์

อเมซอนระบุว่า ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 19 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น และกินเวลานานหลายชั่วโมง ก่อนจะสามารถแก้ไขได้ในช่วงค่ำของวันที่ 20 ตุลาคม โดยประกาศว่า “ทุกบริการกลับมาทำงานปกติภายในเวลา 15.01 นาฬิกาตามเวลาสหรัฐฯ”

ผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลก

1. อเล็กซา (Alexa) บริการผู้ช่วยอัจฉริยะ (Virtual Assistant) ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งเสียง
2. เวนโม (Venmo) แอปพลิเคชันสำหรับ โอนและรับเงินแบบออนไลน์ ทำธุรกรรมไม่สำเร็จ
3. ลิฟต์ (Lyft) บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน (Ride-hailing service) จากประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเรียกรถล่าช้า

นอกจากนี้ยังมีบริการออนไลน์อื่น ๆ เช่น เรดดิต (Reddit) โรบล๊อกซ์ (Roblox) นิวยอร์กไทม์ (The New York Times) และดิสนีย์พลัส (Disney+) โหลดไม่ขึ้น หรือพบว่ามีการแจ้งข้อผิดพลาด

ขณะที่สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างคำกล่าวของ ศาสตราจารย์ไมค์ แชปเพิล (Mike Chapple) ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย นอร์ทเทอร์ดาม (Notre Dame) ว่า แม้ข้อมูลของอเมซอนจะยังคงปลอดภัยดี แต่ระบบอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงเวลาหนึ่ง เปรียบเสมือน “อินเทอร์เน็ตเกิดอาการหลงลืมชั่วคราว”

ล่าสุดอเมซอนยืนยันว่า ขณะนี้ บริการทั้งหมดกลับมาทำงานตามปกติแล้ว รวมถึง อเล็กซา (Alexa)  เวนโม (Venmo) และ ลิฟต์ (Lyft) ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมประกาศตรวจสอบสาเหตุเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำถึงความเปราะบางของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ ที่ระบบออนไลน์จำนวนมากต้องพึ่งพาผู้ให้บริการคลาวด์เพียงไม่กี่ราย โดยเฉพาะอเมซอนที่ครองส่วนแบ่งตลาดคลาวด์โครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกกว่าร้อยละ 30 ในปี 2025