ชาวแคนาดาออกมาเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สื่อคาด "มาร์ก คาร์นีย์" ชนะ
เมื่อวานนี้ (28 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น ชาวแคนาดาจากพื้นที่ 6 เขตเวลา ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อรับมือกับสงครามการค้าและการข่มขู่คุกคามในการผนวกดินแดนของทรัมป์ ซึ่งได้กล่าวย้ำมาหลายครั้งแม้แต่ในวันเลือกตั้งของแคนาดา
พรรคเสรีนิยม ซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งแทนจัสติน ทรูโด ดูเหมือนมีแนวโน้มที่จะพ่ายแพ้ให้แก่ ปิแอร์ ปัวลิเยฟ วัย 45 ปี ผู้ลงสมัครจากพรรคอนุรักษ์นิยม จนกระทั่งการโจมตีแคนาดาของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ผลสำรวจความคิดเห็นพลิกกลับอย่างกะทันหัน
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้แทรกแซงการเมืองของแคนาดาด้วยการโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียในวันเลือกตั้งว่า หากแคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ แคนาดาจะต้องเผชิญกับ "ภาษีศุลกากรเป็นศูนย์" เขาบอกว่า "ไม่มีเส้นแบ่งที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอีกแล้ว"
การแทรกแซงของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้โอกาสของปัวลิเยฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมมาตั้งแต่ปี 2565 ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีลดลง และปัวลิเยฟได้ตอบโต้ก่อนที่จะลงคะแนนเสียงเมื่อวานนี้ โดยโพสต์บน X ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งของเรา แคนาดาภาคภูมิใจ มีอำนาจอธิปไตย และเป็นอิสระเสมอ และเราจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51"
ส่วนคาร์นีย์ วัย 60 ปี ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาจากการเลือกตั้ง และเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนทรูโด เมื่อเดือนที่แล้ว เรียกร้องให้ชาวแคนาดา “"สามัคคีและเข้มแข็ง" เพื่อต่อสู้กับ "วิกฤตในสหรัฐฯ" อย่างไรก็ตาม คาร์นีย์ ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานในการบริหารนายธนาคารเพื่อการลงทุน ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางในทั้งแคนาดาและอังกฤษ เขามีประสบการณ์ในเวทีระดับโลก ด้วยการบริหารธนาคารกลางอังกฤษจากปี 2556-2563 แต่ยังต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อมั่นทางการเมือง และจะต้องเผชิญกับการทดสอบจริงครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้
กระนั้นก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นครั้งสุดท้าย บ่งชี้ว่า การแข่งขันครั้งนี้สูสี แต่คาร์นีย์กลับมาเป็นตัวเต็งที่มีภาษีดีกว่า และผลสำรวจยังแสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่า อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางรายนี้ เป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดในการรับมือกับทรัมป์