ท่ามกลางเกมแอคชั่นมากมายบน PlayStation 2 ที่ผมเคยสัมผัส "Mobile Suit Gundam Seed Never Ending Tomorrow" ถือเป็นเกมที่ตราตรึงอยู่ในใจผมเสมอมา มันไม่ใช่แค่เกมต่อสู้หุ่นยนต์ธรรมดา แต่เป็นเสมือนประตูมิติที่เปิดโอกาสให้ผมได้ดำดิ่งสู่โลกแห่ง Gundam SEED อย่างแท้จริง ได้สวมบทบาทเป็นตัวละครที่ชื่นชอบ บังคับหุ่นยนต์คู่ใจ และเข้าร่วมสงครามอันดุเดือด ในวันนี้ ผมจะขอพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสัมผัสความทรงจำในอดีต พร้อมเจาะลึกทุกแง่มุมของเกม Mobile Suit Gundam Seed Never Ending Tomorrow ตั้งแต่กราฟิก ระบบการต่อสู้ โหมดเนื้อเรื่อง ไปจนถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ไม่อาจลืมเลือน กราฟิกและเสียงประกอบ: ความงดงามที่กาลเวลาไม่อาจทำลาย แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้ว แต่กราฟิกของเกมนี้ก็ยังคงความงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดของโมเดลกันดั้ม ไม่ว่าจะเป็น Freedom Gundam ของคิระ หรือ Justice Gundam ของอัสรัน ล้วนถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีตบรรจง รายละเอียดของเกราะ อาวุธ และเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น แสงจากลำแสงบีมเซเบอร์ หรือประกายไฟจากการปะทะ ล้วนแล้วแต่สมจริง ฉากหลังในเกมก็ทำออกมาได้อย่างอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ในอวกาศ ที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ หรือฉากต่อสู้บนโลก ที่มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น เอฟเฟกต์ระเบิด ควัน และแสงสีต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับฉากต่อสู้ ในส่วนของเสียงประกอบ ต้องขอชื่นชมทีมงานที่ใส่ใจในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเสียงพากย์ของตัวละครต้นฉบับจากอนิเมะ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังดูอนิเมะอยู่จริงๆ เสียงเพลงประกอบที่เร้าใจ ที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ และเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงดาบกระทบกัน ล้วนช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี ผมจำได้ว่าตอนเล่นครั้งแรก ผมเปิดเสียงดังมาก จนพ่อแม่ต้องมาดุเลยล่ะ (ฮา) ระบบการต่อสู้: สนุก เร้าใจ แต่ AI ยังไม่สมดุล ระบบการต่อสู้ของเกมนี้เป็นแบบ 3D Action ที่รวดเร็วและตื่นเต้น เราสามารถควบคุมกันดั้มให้เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการบิน การเดิน การพุ่งตัว หรือการใช้บูสเตอร์ นอกจากนี้ เรายังสามารถโจมตีด้วยอาวุธหลากหลายชนิด เช่น ปืนกล บีมไรเฟิล บีมเซเบอร์ และมิสไซล์ รวมไปถึงการใช้ท่าไม้ตายสุดอลังการ เช่น ท่า Full Burst ของ Freedom Gundam หรือท่า Beam Rifle ของ Strike Gundam สิ่งที่ผมชอบมากคือระบบ Phase Shift ที่ทำให้กันดั้มสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง หลบการโจมตีของศัตรู และเข้าประชิดตัวได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้การต่อสู้ดูไดนามิก ไม่น่าเบื่อ และต้องใช้ทักษะในการควบคุม อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ายังไม่ค่อยสมดุลคือ AI ของศัตรู บางครั้งก็ง่ายเกินไป จนเราสามารถเอาชนะได้อย่างสบายๆ แต่บางครั้งก็ยากเกินไป โดยเฉพาะในระดับความยากสูงสุด ศัตรูจะโจมตีอย่างรุนแรง และหลบการโจมตีของเราได้เกือบทั้งหมด ทำให้ความท้าทายในการเล่นไม่คงที่ โหมดเนื้อเรื่อง: สัมผัสเรื่องราวสุดเข้มข้นของ Gundam SEED โหมดเนื้อเรื่องของเกมนี้ จะเล่าเรื่องราวตามอนิเมะ Gundam Seed โดยเราจะได้เล่นเป็นตัวละครต่างๆ เช่น คิระ ยามาโตะ อัสรัน ซาล่า ลักซ์ ไคลน์ และตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละตัวละครก็จะมีเนื้อเรื่อง ฉากต่อสู้ และกันดั้มให้เลือกใช้ที่แตกต่างกันไป สิ่งที่ผมประทับใจในโหมดเนื้อเรื่องคือ การนำเสนอเรื่องราวที่ค่อนข้างครบถ้วน มีฉากคัตซีนสวยๆ ให้ชมตลอดทั้งเกม เช่น ฉากที่คิระได้พบกับ Freedom Gundam ครั้งแรก หรือฉากที่อัสรันต้องต่อสู้กับเพื่อนรักอย่างคิระ นอกจากนี้ ยังมีฉากจบที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับการเลือกเส้นทางของผู้เล่น เช่น เราสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายโลก หรือฝ่ายซาฟท์ ทำให้เราสามารถเล่นซ้ำได้หลายรอบ โดยที่ไม่รู้สึกเบื่อ โหมดอื่นๆ: เพิ่มความสนุกไร้ขีดจำกัด นอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้ว เกมนี้ยังมีโหมดอื่นๆ ให้เล่นอีกมากมาย เช่น Versus Mode ที่เราสามารถเลือกกันดั้มและตัวละครที่ชอบ มาต่อสู้กับเพื่อนหรือ AI ได้อย่างอิสระ ผมชอบเล่นโหมดนี้กับเพื่อนมาก เราจะผลัดกันเลือกกันดั้มที่ชอบ แล้วมาต่อสู้กัน บางครั้งก็เล่นแบบจริงจัง บางครั้งก็เล่นแบบฮาๆ Mission Mode เป็นอีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจ ในโหมดนี้ เราต้องทำภารกิจต่างๆ ให้สำเร็จ เช่น กำจัดศัตรูทั้งหมด ปกป้องฐานทัพ หรือคุ้มกันยานขนส่ง ซึ่งแต่ละภารกิจก็จะมีระดับความยาก และเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป สุดท้ายคือ Gallery Mode ที่เราสามารถชมภาพ โมเดล และข้อมูลต่างๆ ของกันดั้ม ตัวละคร และเนื้อเรื่อง ได้อย่างจุใจ ผมชอบเข้าไปดูโมเดลกันดั้มในโหมดนี้มาก เพราะมันสวยงามและละเอียดมาก ความทรงจำและความรู้สึกส่วนตัว: มากกว่าแค่เกม ผมจำได้ว่าตอนที่เกมนี้ออกวางจำหน่ายใหม่ๆ ผมตื่นเต้นมาก เก็บเงินซื้อแผ่นเกมเองกับมือ และก็ไม่ผิดหวังเลย เกมนี้มอบความสนุกให้ผมหลายร้อยชั่วโมง ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่น Versus Mode กับเพื่อนๆ แข่งกันว่าใครจะเก่งกว่ากัน เสียงหัวเราะ เสียงโห่ร้อง และความสนุกสนานในวันนั้น ยังคงเป็นความทรงจำที่ผมไม่มีวันลืม สิ่งที่ผมชอบที่สุดในเกมนี้คือ การที่มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกของกันดั้มจริงๆ ได้ขับกันดั้ม ต่อสู้กับศัตรู และสัมผัสกับเรื่องราวสุดเข้มข้น มันเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากจากเกมอื่นๆ บทสรุป: ตำนานที่ยังมีชีวิต Mobile Suit Gundam Seed Never Ending Tomorrow เป็นเกมกันดั้มที่ยอดเยี่ยม ที่รวมเอาความสนุก ความตื่นเต้น และความประทับใจ มาไว้ในเกมเดียว แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เกมนี้ก็ยังคงเป็นเกมในดวงใจของผมเสมอ และผมเชื่อว่า มันจะเป็นเกมที่อยู่ในความทรงจำของแฟนๆ กันดั้ม อีกหลายคนเช่นกัน คะแนน: 4.5/5 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !