สำหรับหลายคนที่กำลังหางาน ไม่ว่าจะเป็นน้องๆจบใหม่ หรือ ผู้ที่กำลังเปลี่ยนงาน คงกังวลไม่มากก็น้อยเลยใช่ไหมคะว่าจะเตรียมตัวอย่างไรให้ถูกใจ Hr หรือผู้สัมภาษณ์งาน ตัวผู้เขียนเองเข้าใจความรู้สึกในช่วงหางานแบบนี้ดีค่ะ และ อยากแนะนำจากประสบณ์การที่จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนได้ เพื่อความพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดงาน ลองอ่านดูนะคะ อาจจะไม่มีสูตรสำเร็จเป็นเพียงทริคเล็กๆน้อย ที่นำมาฝากค่ะ ผู้เขียนเองเรียน สายวิทยาศาสตร์ ตอนจบมา ทำงานที่แรก ในตำแหน่งตำแหน่ง วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์(R&D) ก่อนที่จะมาเปลี่ยนสายงานมาเป็น "การตลาด"ในงานที่2 และ งานที่3 ทำงานในแผนก creative marketing ซึ่งเป็นงานปัจจุบันค่ะ สำหรับน้องๆที่กำลังจะจบ !สำหรับน้องๆที่กำลังจะจบ หรือ เด็บจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ก็สามารถหางานได้ ไม่ต้องเป็นกังวลเลย ว่าเด็กจบใหม่จะหางานยาก สำหรับผู้เขียนเองได้งานที่แรกตอนกำลังเรียนปี 4 เกรดเฉลี่ย 2.64 ตำแหน่งที่สมัคร วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์(R&D)tip&trick สิ่งที่ควรทำ ระหว่างเรียนอาจจะลองทำพาสไทม์ ส่วนตัวคิดว่าการได้ลองทำงานระหว่างเรียนจะสามารถฝึกทักษะได้ดี และเสริมประสบการณ์ต่างๆได้ ทำให้เรารู้กระบวนการทำงานร่วมกับคนอื่น หรือ soft skill เช่น การรับสอนพิเศษ อันนี้ก็ทำให้เรา วางแผนและจัดการเวลาได้ , ทำงานร้านอาหาร ทำให้เราเพิ่มความสามารถในการสื่อสาร และบริการ หาได้ทำในตำแหน่งเฉพาะก็ทำให้ความสามารถด้านนั้นๆเพิ่มขึ้นด้วย อย่างการทำบัญชี ทำอาหาร เสริฟ เป็นต้น เริ่มวางแผนว่าเราชอบหรืออยากทำอะไร และ หาข้อมูลเกี่ยวกับงานว่าในสายงานนั้นต้องทำอะไรบ้าง เพื่อเป้าหมายที่จัดเจนมากขึ้น ตัวอย่าง ผู้เขียนกำลังเรียนเทคโนโลยีอาหารในตอนนั้น มองหางานที่เกี่ยวข้องในสายนี้ เช่น QA/QC , production , r&d ดูว่าเราสามารถจบไปทำตำแหน่งอะไรได้บ้าง พร้อมลิสต์รายการ และหา Job Description (JD) หรือ คำบรรยายลักษณะของงาน สำหรับผู้เขียนมุ่งไปที่r&d เลย เพราะตัวเองชอบทำอาหาร ชอบคิดสิ่งใหม่ๆดูแลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค *เป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะเราจะได้รู้ด้วยว่างานเหมาะกับเราไหม เป็นลักษณะงานที่เราชอบหรือไม่ เวลาสัมภาษณ์การที่เราไม่มีประสบการณ์แต่มีข้อมูลของงานที่ชัดเจน ทำให้เรามีความมั่นใจในการตอบมากขึ้นเรียกได้ว่าอินกับงานที่กำลังจะทำ เป็นสิ่งที่เพิ่มคะแนนสัมภาษณ์ได้ดีทีเดียวซ้อมตอบคำถามสำคัญที่พบบ่อยตอนสัมภาษณ์ - ข้อดี/ ข้อเสียของคุณ แนะนำว่าให้ตอบข้อเสียที่ดูเป็นผลดีต่องาน หรือ ถ้าเป็นผลเสียแต่ควรบอกว่ามีวิธีในการแก้ไขอย่างไร - ไม่มีประสบการณ์จะสามารถทำงานได้หรือไม่ จากวิธีข้างต้นที่แนะนำว่าให้ลองทำงานพาสไทม์ สามารถอธูิบายหรือขยายเพิ่มเติมได้ แต่ถ้าไม่เคยทำงานเลย ไม่ต้องกังวล , มีเรียนทักษะอื่นเสริมไหม อันนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่รู้จักค้นคว้านอกเนื้อจากตำราเรียน , ยกตัวอย่างการทำงานกลุ่ม/กิจกรรมต่าง คุณมีหน้าที่อะไร คุณคิดว่าสิ่งที่ได้รับมอบหมายมันสอดคล้องกับการทำงานอย่างไรได้อะไรจากการทำงานทีม ตอนเรียน , บอกข้อดี เช่น ถึงไม่มีประสบการณ์ แต่เป็นคนชอบเรียนรู้ ,เรียนรู้เร็ว ,เปิดใจ รับฟังคำแนะนำผู้อื่น (แสดงให้เห็นว่า คุณสารถปรับตัวได้และพัฒนาได้) ติดตามข้อมูลการรับสมัครงาน สำหรับน้องนักศึกษาที่กำลังจะจบหรือจบใหม่ สามารถติดตามได้จาก ... กลุ่ม (facebook /Line ) ของคณะ (จะเป็นงานจากบริษัทที่พี่ๆศิษเก่าที่จบไป , อาจารย์ ) งาน jobfair สำหรับผู้เขียนได้งานจาก ที่นี่ เนื่องจากจัดที่มหาลัย และ มีบริษัทเปิดรับสมัครหลากหลาย ทำให้เราสามารถพูดคุยข้อมูลการทำงาน มากขึ้นกับผู้ที่ทำงานในองค์กรณ์นั้นเลย เตรียมเอกสารให้พร้อม (สำหรับเด็กจบใหม่)สำเนาใบรับรองผลการศึกษา (Transcript)ประกาศนียบัติรับรองว่าผ่านการอบรมหลักสูตรต่าง ๆ (Certification) กรณีมีเรียนเสริมเพิ่มเติม แสดงให้เห็นความสามารถและ ทักษะที่สามารถมาใช้ในงานได้ แม้ !! ไม่มีประสบการณ์เรซูเม่ ระบุข้อมูลให้ครบถ้วน บอกความสามารถและความถนัด รูปถ่าย (แนะนำเป็นรูปสุภาพ /สำหรับน้องๆอาจจะเป็นชุดนักศึกษาได้) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ผู้ที่กำลังเปลี่ยนสายงานช่วงหลัง และ ก่อนโควิด พบว่ามีคนกำลังหางานเยอะมาก ด้วยเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดงานมีการแข่งขันกันสูง ผู้เขียนเองเปลี่ยนงาน และเปลี่ยนสายงานช่วงโควิด จากสายวิทยาศาสตร์ มาสายการตลาด ผู้เขียนเองมีการเตรียมตัวและลองยื่นสมัครในบริษัทที่สนใจ และมีวิธีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้ค่ะ tip&trick สิ่งที่ควรทำเตรียมใจให้พร้อมเมื่อเปลี่ยนสายงานต้องยอมรับว่ายากเสมอ เพราะ Hr อาจจะมอง จากคณะที่จบก่อนว่าตรงกับความต้องการของบริษัทหรือไม่? เป็นเรื่องที่ปฎิเสธไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง และ ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่กำลังจะสมัคร อย่าท้อเด็ดขาดค่ะ หาข้อมูล เมื่อจะเปลี่ยนสายงานสิ่งที่สำเป็นนอกจากเตรียมใจคือเตรียมข้อมูลค่ะ เราต้องรู้ให้ชัดเจนว่า ตำแหน่งที่เราอยากทำ บริษัท หรือ Hr ทักษะอะไรในอาชีพนั้นๆ แล้วเตรียมจดข้อมูลให้พร้อม แนะนำว่า ดูจาก Job Description และ วิดีโอแนะนำอาชีพใน youtubeเพิ่มทักษะ หาความรู้เพิ่มเติมค่ะ เมื่อเรารู้ความต้องการของตำแหน่งที่อยากทำแล้วลองฝึกทักษะนั้นๆ เช่น กราฟิกดีไซน์ , การเขียน คอนเทนต์ , ภาษาอื่นๆ , การตลาดออนไลน์ หรือ การเขียนโปรแกรม เป็นต้น เราจะได้ความรู้เพิ่มเติม ทำให้มีความมั่นใจด้วยนะคะ เวลาสัมภาษณ์ก็สามารถให้ข้อมูลสิ่งที่เราสามารถทำได้ เราเรียนจาก https://futureskill.com แต่เอาจริงทุกคนสามารถเรียนฟรีได้นะ หลายมหาลัยออกคลาสเรียนฟรี เยอะมากๆ ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วย แนะนำคลาสเรียนฟรี 1.Thai MOOC (Thai MOOC หรือ Thailand Massive Open Online Course)ถ่ายภาพหน้าจอมาจาก :https://thaimooc.org/ 2.CHULA MOOC จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถ่ายภาพหน้าจอมาจาก : https://mooc.chula.ac.th/ 3.CMU MOOC มีหลากหลายคอร์สมาก จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ถ่ายภาพหน้าจอมาจาก :https://mooc.cmu.ac.th/ 4.gennext.tu เป็นของมหาลัยธรรมศาสตร์ ถ่ายภาพหน้าจอมาจาก :https://gennext.tu.ac.th/ui/ ซ้อมตอบคำถามสำคัญที่พบบ่อยตอนสัมภาษณ์ เตรียมพร้อมไว้ก่อนได้เปรียบเสมอ คำถามที่ต้องเจอแน่ๆคือ ทำไมเปลี่ยนงาน ต้องตอบตรงนี้ให้เคลียร์ เราอาจจะบอกข้อดีของงานเดิม และ บอกข้อดีของงานใหม่ พร้อม อธิบายให้ผู้สัมภาษณ์ฟังว่า จะนำความรู้เดิมมาปรับใช้กับงานใหม่ได้อย่างไร ต่อให้ไม่ใช่ทักษะเฉพาะ จะเป็น Soft skill ก็ได้เช่น การประสานงาน เข้ากับคนอื่น การทำงานร่วมกับส่วนรวมได้ แต่การบอกถึงทักษะงานเดิมมาปรับใช้ในงานปัจจุบันได้ จะทำให้ผู้สัมภาษเล็งเห็นประสิทธิภาพของคุณมากขึ้น แน่นอน ตัวอย่างเรา ทำงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นงานในห้องแลป ก็จริง แต่ต้องรู้เทรนด์และความชอบของลูกค้า มีความเข้าใจสินค้า ทำให้เมื่อเปลี่ยนมาทำการตลาด นำส่วนนี้มาประยุกต์ใช้เพื่อสื่อสารคุณภาพของสินค้าไปยังลูกค้าได้ง่ายขึ้น เป็นต้น เตรียมเอกสารให้พร้อม สำเนาใบรับรองผลการศึกษา (Transcript)ประกาศนียบัติรับรองว่าผ่านการอบรมหลักสูตรต่าง ๆ (Certification) กรณีมีเรียนเสริมเพิ่มเติม แสดงให้เห็นความสามารถและ ทักษะที่สามารถมาใช้ในงานได้ แม้ !! ไม่มีประสบการณ์เรซูเม่ ระบุข้อมูลให้ครบถ้วน บอกความสามารถและความถนัด รูปถ่าย (แนะนำเป็นรูปสุภาพ /สำหรับน้องๆอาจจะเป็นชุดนักศึกษาได้) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนเอกสารรับรองการทำงาน และ รับรองเงินเดือน แฟ้มผลงานที่เคยทำมา หางานได้จากที่ไหน jobsdb แนะนำที่นี่ เพราะบริษัทขนาดใหญ่มักจะลงสมัครในนี้ ผู้เขียนเองก็ได้รับการสัมภาษณ์จากบริษัทใหญ่ๆจากเว็บไซต์นี้ ถ้าเราฝากประวัติไว้ หรือบันทึกงานที่สนใจไว้ทางเว็บจะส่งงานที่น่าสนใจและ ตรงกับเรามาให้ทางอีเมลล์ทุกวันถ่ายภาพหน้าจอมาจากjobsdb jobthaiเว็บไซต์นี้จะมีประกาศรับสมัครจากหลากหลายบริษัทมากค่ะ เปิดโอกาสให้ทั้งผู้หางานและบริษัทได้พบเจอกัน ซึ่ง ผู้เขียนเองก็ได้งานปัจจุบันจากเว็บไซต์นะคะ ถ่ายภาพหน้าจอมาจาก jobthaijobbkkต่อมาเป็นเว็บไซต์ jobbkk เป็นเว็บไซต์ที่น่าสนใจอีกเว็บหนึ่งอย่าลืมฝากประวัติไว้ที่นี่ด้วยนะคะ *ถ่ายภาพหน้าจอมาจากหน้าเว็บjobbkkกลุ่ม มีตำแหน่งให้รีบบอก by HR The Next Genถ้าอยากหางานแบบ realtime แนะนำเลย มี Hr จากบริษัทต่างๆมาประกาศรับสมัครทุกวัน สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดงานได้ทันที แนะนำมากค่ะ*ถ่ายภาพหน้าจอมาจากหน้ากลุ่ม มีตำแหน่งให้รีบบอก by HR The Next Genภาพประกอบปก โดยPexels/pixabayภาพประกอบที่ 1 โดยOleksandrPidvalnyi/pixabayภาพประกอบที่ 2 โดยernestoeslava/pixabayภาพประกอบอื่นๆเป็นตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ สามารถคลิกตามลิงค์ได้เลยค่ะ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่าน และ ขอให้ทุกคนได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักนะคะ ^^ การได้งานใหม่อาจจะเป็นก้าวแรกในการทำงาน แต่ก้าวที่สำคัญจริงๆ คือ การมีความสุขในการทำงานค่ะ ใครที่ได้งานจากคำแนะนำนี้แล้วลองแวะเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ หรืออยากให้เพิ่มเติมในส่วนไหน อินบล็อคมาได้เลยค่ะ อย่าพึ่งท้อนะคะเพราะผู้เขียนก็เคยสัมภาษณ์มาหลายที่เหมือนกัน เคยเฟล เคยเปลี่ยนงาน เข้าใจความรู้สึกนี้ดีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนอีกครั้ง สู้ๆค่ะทุกคน ^^ 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์