การเรียนหนังสือเป็นวิธีช่วยยกสถานภาพของตัวเองและครอบครัวได้ดีและมั่นคงที่สุด การหวังจะให้คู่ครองมาช่วยยกสถานภาพของตัวเองนั้นส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยความล้มเหลว โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณภาพคู่ครองก็แปรผันตามระดับการศึกษา การเรียนคณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์คือหนทางนั้น ที่พิสูจน์จากคนหลายรุ่นมาแล้วว่าช่วยคนที่เรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่ค่านิยมที่กดดันสืบต่อกันมา แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจลูกหลานก่อนว่าจะใช้แรงขับแรงจูงใจยังไม่พอ แต่ต้องให้เขาเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำด้วย ทั้งหมดอยู่ในภายเล่มนี้แล้วเขียนโดยทันตแพทย์สม สุจีรา เนื้อหาภายในเล่มศาสตร์กับศิลป์ชำนาญกับเชี่ยวชาญเรียนแพทย์ดีอย่างไรบุญทันใจครอบครัวเป็นสุขสอบเข้าไม่ยากเรียนสนุกกิเลสของแพทย์ ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่าอนาคต AI จะเข้ามาทำงานแทนคน โดยเฉพาะงานที่ทำซ้ำๆเป็นประจำ แต่ยกเว้นแพทย์ เพราะคงไม่มีคนไข้ที่ไหนไว้ใจ AI ให้ผ่าตัดหรือวินิจฉัยโรคให้ 100% แพทย์จึงไม่มีทางตกงานแน่นอน ได้เรียนรู้ว่าจุดเปลี่ยนสำคัญเป็นอันดับรองจากการเลือกคู่ คือเลือกวิชาชีพ การแข่งขันในโลกการทำงานโหดร้ายมาก ความยากลำบากและความด้อยโอกาสในสังคมที่ได้พบเจอ ทำให้คนที่ไม่ตั้งใจเรียนจะนึกย้อนกลับมาว่าน่าจะตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ ยิ่งเรียนคณะที่เข้าง่าย จบออกมาง่าย ยิ่งสมัครเข้าทำงานยาก แต่ถูกให้ออกง่าย ได้เรียนรู้ว่าความชอบกับความถนัดไม่ใช่สิ่งเดียวกัน บางคนอาจชอบในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด บางคนถนัดในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ แบบนี้แนะนำให้พยายามทำใจชอบในสิ่งที่ตัวเองถนัดดีกว่า การพยายามเรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดแต่ชอบ มักทำได้ไม่ดี โอกาสจะโดดเด่นเป็นไปได้ยากมาก ได้เรียนรู้ว่าแพทย์ทำงานได้ไม่มีวันเกษียณ ถ้ายังทำไหวและยังอยากทำ อีกทั้งระดับสูงสุดทางการศึกษาคือปริญญาเอก แต่การจบแพทยศาสตรบัณฑิต แม้ระดับเพียงปริญญาตรี ก็ได้รับการเรียกชื่อว่าด็อกเตอร์ทันที ได้เรียนรู้ว่าแพทย์ที่ทำการรักษาคนไข้ให้หายจากความผิดปกติจะได้บุญ ทั้งแพทย์ผู้ตั้งใจทำหน้าที่ และคนไข้ที่ทุกข์จากความเจ็บไข้ การที่ทวาร 6 อย่างตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ บกพร่องเป็นเรื่องทรมาน แต่หากแพทย์ทำไปเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างสุดขั้วแพทย์คนนั้นก็จะไม่ได้บุญ ได้เรียนรู้ว่าการที่แพทย์ช่วยชีวิตคนไข้ได้สำเร็จ ไม่ใช่แค่การช่วยคนคนเดียว แต่อาจช่วยคนในครอบครัวนั้นด้วย หากคนไข้รายนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัว ได้เรียนรู้ว่าตัวอย่างของคนประสบความสำเร็จโดยไม่ได้สอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมีน้อยมาก แต่คนที่ชีวิตล้มเหลวหลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้มีมากกว่า การปลอบใจโดยยกกรณีศึกษาแบบนี้ทำให้เข้าใจผิด ถึงคนที่สำเร็จจะไม่ได้เรียนในมหาวิทยาลัย แต่เขาก็มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นสูงมากที่จะทำตามแผนการชีวิตให้สำเร็จ ไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆแต่อย่างใด ได้เรียนรู้ว่าการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตมีอยู่สองครั้ง คือเลือกเรียนกับเลือกคู่ชีวิต มันมีผลทั้งชีวิตในทางตรงและทางอ้อม ถ้าตัดสินใจไปแล้วแก้ไขยากมาก ได้เรียนรู้ว่าการเรียนแพทย์ทำให้มีโอกาสสร้างครอบครัวที่ดี แพทย์มักแต่งงานกับแพทย์ด้วยกัน อีกทั้งแพทย์มักได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของแฟนด้วย ยิ่งถ้าตระกูลมีธุรกิจใหญ่โต คนเป็นแพทย์จะได้ความไว้วางใจมากกว่า ได้เรียนรู้ว่าแม้จะเป็นแพทย์สายบริหารที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลก็เท่ากับการช่วยเหลือผู้คนทางอ้อมอยู่ดี ได้เรียนรู้ว่าแพทย์เป็นอาชีพที่ไม่มีวันตกงาน หากไม่ชอบสายงานราชการที่ทำอยู่ก็สามารถลาออกไปหางานอื่นได้ง่ายกว่าอาชีพอื่น แม้วิกฤติเศรษฐกิจอย่างต้มยำกุ้ง ในปี 2540 ก็ยังไม่ตกงาน ต่างจากอาชีพอื่นที่ตกงานในวัยที่อายุมากแล้ว ได้เรียนรู้ว่าถ้าต้องการจะสอบแพทย์ เมื่อขึ้น ม.4 ควรรู้เนื้อหาของมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งหมดแล้ว การเรียนตามขั้นตอนของโรงเรียนปกติช้าเกินไป ควรเข้าใจภาพรวมของเนื้อหา เรียนรู้เพียงคร่าวๆเฉพาะตรงหัวใจที่สำคัญให้กระชับ เข้าใจง่าย ได้เรียนรู้ว่าในทางจิตวิทยา การเอาชนะใจตัวเองจะยากสุดในช่วง 21 วันแรก แต่ถ้าผ่านไปได้ วันที่ 22 จะทำได้โดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเวลาอ่านหนังสือช่วง 21 วันแรกจะลำบากอยู่ แต่ถ้าอ่านต่อเนื่องจนถึงวันที่ 22 จะทำได้เองจนเป็นนิสัยถาวร ได้เรียนรู้ว่าแพทย์เป็นวิชาชีพที่เริ่มต้นชีวิตช้า กว่าจะใช้ทุนครบ 3 ปี กว่าจะเรียนจบแพทย์เฉพาะทาง อายุก็ประมาณ 32-33 ปี ขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันลงหลักปักฐานมีครอบครัวได้แล้ว แถมการเรียนเฉพาะทางโหดและหนักกว่าสมัยปริญญาตรีมาก แต่ถ้าผ่านไปได้ กราฟชีวิตจะค่อยๆสบายขึ้นเรื่อยๆเพราะเราปรับตัวได้แล้ว ได้เรียนรู้ว่าการเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง ถ้าสมัครด้วยตัวเอง เรียกว่า ฟรีเทรนนิ่ง โอกาสได้เรียนต่อน้อยมาก เพราะความพร้อมในการเรียนไม่เหมือนผู้ที่มาจากโรงพยาบาลให้ทุนส่งมาเรียน เพื่อจบไปเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาตามที่โรงพยาบาลกำลังขาดแคลน ได้เรียนรู้ว่าเพื่อความมั่นคงของชีวิตควรเลือกเรียนคณะที่สอบเข้ายากที่สุดก่อน ด้วยเหตุที่อาชีพต่างๆยังมีความไม่เท่าเทียมกัน หลายคนทนเรียนไม่ไหวอยากลาออกจากการเรียนแพทย์ พอถามภายหลังเขาก็ยอมรับว่าโชคดีที่มีเพื่อนๆพี่ๆคอยให้กำลังใจจนสามารถทนเรียนต่อจนจบสำเร็จ ส่วนเรื่องการอยากทำตามความฝันนั้น หลังจบแพทย์ก่อนก็สามารถสานฝันที่เคยโหยหาได้ไม่ยาก เช่น เป็นแพทย์ควบคู่กับคนเชี่ยวชาญด้าน IT และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ได้เรียนรู้ว่าบางครั้งก็มีการมองวิชาชีพแพทย์ว่าทุกข์ทรมาน อดหลับอดนอน ถูกฟ้องร้อง กินอาหารไม่เป็นเวลา เสี่ยงติดเชื้อ แล้วไปแนะนำลูกว่าอย่าเรียนแพทย์....ก็ไม่ต่างกับการเห็นอุบัติเหตุ แล้วบอกลูกว่าอย่าขับรถ เพื่อนของผู้เขียนหนังสือเคยเห็นเพื่อนมาพยายามสอบทันตแพทย์ภายหลังเมื่ออายุ 30 แล้ว ซึ่งถ้าได้เรียนตั้งแต่แรกก็คงได้เรียนเฉพาะทางไปแล้ว สุดท้ายนี้ ต้องยอมรับว่าตำแหน่ง อำนาจ การเติบโตในหน้าที่การงาน การเป็นที่ยอมรับ มันเป็นความต้องการของคนวัยผู้ใหญ่ อาจเป็นสิ่งที่ลูกหลานยังไม่เข้าใจ อย่าเพิ่งบีบคั้นกดดันการเรียนมากเกินไป ต้องค่อยๆปรับความเข้าใจกับลูกหลาน อย่างไรเสียทุกอาชีพล้วนมีข้อดีข้อเสียทั้งสิ้น และเส้นทางอาชีพนั้นมีข้อดีที่ชื่นชอบกับข้อเสียที่ยอมรับได้...มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องให้ลูกหลานของเราเป็นคนตัดสินใจเลือกเอง ถ้าถามครีเอเตอร์ตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นแพทย์นั้นย่อมดีแน่นอน แต่ด้วยทักษะความรู้ที่ไม่ผ่าน จึงต้องยอมรับความสามารถของตัวเองตามความเป็นจริง เครดิตภาพภาพปก โดย tirachardz จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย jcomp จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย snowing จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ เรียนหมอหนักมาก โดย พี่เพลียรีวิวหนังสือ GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุขรีวิวหนังสือ THE MAGIC OF THINKING BIG คิดใหญ่ ไม่คิดเล็กรีวิวหนังสือ หัวไม่ดีก็มีวิธีสอบผ่าน โดย พี่แมงปอรีวิวหนังสือ ปัญญาญาณ (Intuition) โดย OSHOอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !