การดูแลรถยนต์ช่วงหน้าฝน ถือว่ามีความสำคัญ ทั้งนี้มันพ่วงเกี่ยวกับความปลอดภัย สำหรับคนที่ต้องใช้รถใช้ถนน อย่างเราๆที่ต้องออกไปทำธุระอยู่เป็นประจำ แต่จะดีกว่ามากถ้าเรารู้จักป้องกันไว้ก่อน ไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ให้รถอยู่กับเราไปอีกนาน จะดีกว่าไหม แค่เพิ่มการทำสิ่งนี้ วิธีดูแล+ขั้นตอนการรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 1.ตรวจเช็กระะบบยางและลมยาง > เหตุผล ก็เพื่อป้องกันปัญหาจาก ถนนลื่น น้ำขัง เสี่ยงต่อการลื่นไถล ต้องตรวจเช็คดังนี้ ตรวจดอกยาง > ความลึกต้องไม่ต่ำกว่า 3 มม. โดยใช้เหรียญบาทเสียบลงร่องยาง ถ้าเห็นขอบเลขเกินครึ่ง แสดงว่ายางสึกมากแล้วที่จะเปลี่ยน เช็คลมยางให้ตรงตามคำแนะนำคู่มือการขับรถ หรือสติ๊กเกอร์ข้างประตูคนขับ อย่าลืมเช็คลมยางอะไหล่ด้วย 2.ตรวจระบบเบรก > เหตุผล เพื่อป้องกันระบบเบรกยาวขึ้น ทดสอบเหยียบรถตอนจอดรถ > ต้องมีแรงต้านสม่ำเสมอ ไม่ยวบเกินไป ตรวจผ้าเบรกว่าสึกหรอมากกว่า 3 มม. รึไม่ ฟังเสียงขณะเบรก หากมีเสียงดัง หรือเบรกสะท้าน ควรเข้าอู่ เพื่อตรวจสอบ 3.ตรวจที่ปัดน้ำฝนและน้ำยาฉีดกระจก เหตุผลเพื่อ > ทัศนวิสัยจะได้ไม่ถูกบดฟังหรือไอจากอากาศภายนอก เพื่อความปลอดภัยในการมอง ลองที่ปัดน้ำฝน ถ้ามีเสียงฝืด หรือปัดไม่สะอาด ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝน เติมน้ำยาฉีดกระจกผสมกับน้ำสะอาด + น้ำยากระจกเล็กน้อย 4.ตรวจไฟส่องสว่างรอบคัน เหตุผลเพื่อ เมื่อฝนหนักมองเห็นยาก ต้องใช้ไฟช่วย เปิดไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ว่าติดรอบคันหรือไม่ ถ้าไฟหน้ามัว > ให้ใช้น้ำยาล้างหรือน้ำยาขัดเคลือบโคม 5.ป้องกันน้ำเข้ารถ เหตุผล ป้องกันไม่ให้น้ำฝนซึมเข้ามาในรถ ทำความเสียหายกับเบาะรถของเรา ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถอาจเสียหายได้ ตรวจยางขอบประตู - กระจก ว่ามีรอยขาดหรือแข็งกรอบหมดอายุการใช้งานรึไม่ ถ้ามียางเสื่อม ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที หรือไม่ให้ทาซิลิโคนเคลือบให้ยืดหยุ่น ตรวจใต้พื้นพรม ถุ้ามีคราบน้ำ ให้รีบเช็ดและผึ่งให้แห้ง 6.ดูแลสีรถและใต้ท้องรถ เหตุผลก็เพราะว่า น้ำฝนที่ตกลงมานั้น จะชะล่างสิ่งสกปรกที่อยู่ในอากาศตกลงมาและมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ ทำให้สีรถหมองและเกิดคราบสนิมขึ้นได้ ดังนั้นควรดูแลรักษา ตามขั้นตอนดังนี้ ล้างรถทันทีหลังเสร็จกลับมาจากธุระ หรือถ้าไม่ทันไม่มีเวลา เมื่อกลับถึงที่พักแล้ว ให้จอดรถให้เรียบร้อยและล้างรถด้วยน้ำเปล่าทันที เพื่อไม่ให้น้ำฝนแห้งเกาะติดตัวรถ หลังจากนั้น ให้ลงแวกซ์หรือเคลือบเซรามิก รอบคันรถอีกครั้ง ช่วยให้เวลาเจอฝนหรือหยดน้ำ ลื่นไหลได้ง่าย ไม่ติดค้างอยู่ที่ตัวรถ ฉีดล้างใต้ท้องรถ ป้องกันดินโคลนเกาะใต้ท้องรถ จนเป็นสนิม ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน ควรทำทันทีเมื่อมีเวลา 7.เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน ติดรถไว้เพื่อความปลอดภัยและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ สายพ่วงแบตเตอรี่ > ไฟฉาย > เสื้อกันฝน > ผ้าเช็ดกระจก > เบอร์ฉุกเฉินบริษัทประกัน 8.การขับขี่ในหน้าฝน เพื่อความปลอดภัย ควรขับห่างจากคันหน้า เพิ่มขึ้น 2 เท่า เพื่อป้องกันการลื่นไถลหรือเบรกกระทันหัน และควรชะลอรถ เมื่อเจอถนนเปียกหรือน้ำขัง พื้นถนนเปียกไม่ควรเบรกกระทัน แต่ควรแตะเบรกเบาๆแทนและหลายๆครั้ง และที่สำคัญ อย่าตัดสินใจไปเองหรือทึกทักไปเองว่า รถเราไปได้หากไม่แน่ใจว่าน้ำขังที่อยู่ตรงหน้าจะไม่สูงเกินไปกว่ารถของเรา รับส่วนลดล้างรถคลิกเลย! ภาพประกอบบทความ โดย ผู้เขียน ภาพปกบทความ โดย ผู้เขียน องค์ประกอบหน้าปกบทความ บลูคอร์เนอร์ทรงโค้งมนโมเดิร์น โดย Afilab.co